รอยเตอร์ - ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปถึงกรุงเปียงยาง ในวันนี้ (9 พ.ค.) เพื่อตระเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมซัมมิตระหว่างผู้นำ คิม จองอึน กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่คาดว่า จะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณบอกใบ้ว่าชาวอเมริกัน 3 คน ที่ถูกขังอยู่ในรัฐโสมแดงอาจได้รับการปล่อยตัวเร็วๆ นี้
การเยือนเกาหลีเหนือคราวนี้นับเป็นครั้งที่สองของ พอมเพโอ ในรอบไม่ถึง 6 สัปดาห์ แต่ถือเป็นครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
ระหว่างออกมาเผยข่าวการเยือนโสมแดงของ พอมเพโอ ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า ทั้งสองชาติได้ตกลงวันเวลาและสถานที่ในการจัดประชุมซัมมิตแล้ว แต่ยังไม่ขอเผยรายละเอียด
สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า พอมเพโอ เดินทางจากญี่ปุ่นไปถึงเกาหลีเหนือ และมุ่งหน้าไปยังโรงแรมคอร์โย (Koryo Hotel) ในกรุงเปียงยาง เพื่อเข้าร่วมการประชุม
แม้ ทรัมป์ จะออกมาเปรยว่าคงเป็นเรื่อง “ยิ่งใหญ่” หากผู้ต้องขังชาวอเมริกันได้รับอิสรภาพ แต่ พอมเพโอ บอกกับสื่อมวลชนระหว่างเดินทางไปเปียงยาง ว่า ตนยังไม่ได้รับคำมั่นสัญญาอะไรจากโสมแดง แต่ก็หวังว่าพวกเขาจะ “ทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
พอมเพโอ ระบุด้วยว่า การไปเยือนเกาหลีเหนือครั้งนี้ก็เพื่อตระเตรียมวาระการประชุมขั้นสุดท้าย ซึ่งอาจสร้างความเปลี่ยนแปลง “ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์” ต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองรัฐคู่อริ
ทั้งนี้ การปล่อยตัวนักโทษอเมริกันจะถือเป็นสัญญาณไมตรีจาก คิม จองอึน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีก่อนการประชุมที่คาดว่าจะมีขึ้นราวๆ ปลายเดือน พ.ค. หรือไม่ก็ต้นเดือน มิ.ย. หลังจากที่ผู้นำ คิม รับปากจะหยุดทดสอบขีปนาวุธ และทำลายสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์
แม้ คิม อาจจะยอมปล่อยตัวนักโทษล็อตสุดท้ายที่เกาหลีเหนือเคยใช้เป็นหมากต่อรองกับสหรัฐฯ แต่ก็คงถือโอกาสกดดันให้อเมริกาต้องเป็นฝ่ายผ่อนปรนบ้าง หากหวังที่จะให้โสมแดงปลดอาวุธนิวเคลียร์
“แผนกำลังถูกวาง ความสัมพันธ์กำลังก่อตัวขึ้น” ทรัมป์ เอ่ยถึงการประชุมซัมมิตกับเกาหลีเหนือ ระหว่างที่ออกมาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 เมื่อวานนี้ (8)
“ผมหวังว่า เราจะทำข้อตกลงกันได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคงในอนาคตจะเป็นของทุกคน”
พอมเพโอ เคยไปเยือนเปียงยางอย่างลับๆ เมื่อช่วงเทศกาลอีสเตอร์ขณะที่ยังเป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) และสำหรับครั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า เขาอาจพาสามนักโทษอเมริกันเชื้อสายเกาหลี คิม ฮักซอง (Kim Hak-song), คิม ซังดุก (Kim Sang-duk) และ คิม ดงชุล (Kim Dong-chul) กลับบ้านพร้อมกันด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในการเยือนของรัฐมนตรีต่างประเทศคราวนี้ ทรัมป์ ก็ตอบว่า “เดี๋ยวก็รู้ ถ้ามีก็คงเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก”
ทรัมป์ เคยพูดว่าอาจจะเลือกเขตปลอดทหารชายแดนสองเกาหลี หรือไม่ก็สิงคโปร์ เป็นสถานที่พบปะกับ คิม
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เผยแพร่สคริปต์บทสัมภาษณ์ พอมเพโอ บนเครื่องบิน ซึ่งเขากล่าวว่า “เราเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษกลุ่มนี้มานานถึง 17 เดือนแล้ว... เราจะพูดย้ำอีกครั้งในวันนี้ ผมคิดว่ามันจะเป็นสัญญาณที่ยิ่งใหญ่หากพวกเขาเลือกจะทำ”
พอมเพโอ มีโอกาสเข้าพบผู้นำ คิม จองอึน ระหว่างการเยือนเปียงยางครั้งแรก และหากได้พบอีกครั้งในคราวนี้ เขาก็จะเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนที่สองในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่ได้นั่งโต๊ะหารือกับผู้นำโสมแดง ถัดจาก แมดเดอลีน อัลไบรท์ ซึ่งเคยไปเยือนเกาหลีเหนือเมื่อปี 2000 เพื่อเตรียมการพบปะระหว่างประธานาธิบดี บิล คลินตัน กับผู้นำ คิม จองอิล ซึ่งสุดท้ายก็ไม่สำเร็จ
จนถึงขณะนี้มีนักโทษอเมริกันเพียงรายเดียวที่ได้รับอิสรภาพในยุคของ ทรัมป์ คือ ออตโต วอร์มเบียร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 22 ปี ซึ่งถูกเกาหลีเหนือจองจำนานถึง 17 เดือน และถูกส่งตัวกลับสหรัฐฯ ในสภาพโคม่าเมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะเสียชีวิตลงในอีกไม่กี่วัน
การตายของ วอร์มเบียร์ ยิ่งโหมกระพือความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ ซึ่งร้อนระอุหนักเป็นทุนเดิมจากการที่โสมแดงมุ่งมั่นพัฒนาขีปนาวุธที่สามารถส่งหัวรบนิวเคลียร์มาโจมตีแผ่นดินใหญ่อเมริกาได้
สำหรับนักโทษอีก 3 คนที่เหลือ ได้แก่ คิม ดงชุล มิชชันนารีอเมริกันเชื้อสายเกาหลี, คิม ซังดุก หรือ “โทนี คิม” ซึ่งเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเปียงยาง (PUST) ก่อนจะถูกจับกุมในปี 2017 และคนสุดท้ายคือ คิม ฮักซอง ซึ่งเคยสอนอยู่ที่ PUST เช่นกัน