รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ หารือกันทางโทรศัพท์ในวันอาทิตย์ (20 พ.ค.) เพื่อทำให้มั่นอกมั่นใจว่านัดหมายการเจรจาซัมมิตระหว่างทรัมป์กับผู้นำคิม จองอึน ของเกาหลีเหนือ ยังคงเดินหน้าต่อไป หลังจากที่โสมแดงขู่จะถอนตัว
มุนกับทรัมป์พูดกันทางโทรศัพท์เป็นเวลาราว 20 นาที และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของพวกเขาเกี่ยวกับปฏิกิริยาจากฝ่ายเกาหลีเหนือเมื่อเร็วๆ นี้ ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงโดยไม่มีการแจกแจงรายละเอียด
“ผู้นำทั้งสองจะทำงานอย่างใกล้ชิดและอย่างแน่วแน่ไม่ลังเลเพื่อให้การจัดการประชุมซัมมิตเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ ซึ่งกำหนดเอาไว้ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ รวมทั้งการประชุมซัมมิตเกาหลีใต้-สหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นเร็ววันนี้ ประสบความสำเร็จ” เจ้าหน้าที่ทำเนียบบอก
มุนกับทรัมป์มีกำหนดจะพบปะหารือกันในวันอังคาร (22) นี้ที่กรุงวอชิงตัน ก่อนที่ผู้นำคิมจะเจรจากับทรัมป์ในวันที่ 12 มิถุนายนที่สิงคโปร์
ทางด้านทำเนียบขาวแถลงถึงเรื่องนี้ว่า ทรัมป์กับมุนได้หารือกันถึงพัฒนาการต่างๆ ในเกาหลีเหนือเมื่อเร็วๆ นี้ และสืบต่อ “ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดของพวกเขา ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะพบปะหารือในวันที่ 12 มิถุนายนกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ”
ถึงแม้การประชุมซัมมิตระหว่างสองเกาหลีครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้เพิ่มความหวังที่จะเกิดการรอมชอมกันได้ ทว่าเกาหลีเหนือกลับมีน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปอย่างมากมายในช่วงไม่กี่วันหลังๆ นี้
ทั้งนี้ รี ซอน-กวอน หัวหน้าผู้เจรจาของเกาหลีเหนือ แถลงในวันพฤหัสบดี (17) ที่ผ่านมาว่า จะไม่จัดการพูดจาหารือกับเกาหลีใต้ ถ้าหากไม่มีการสนองตอบข้อเรียกร้องของพวกเขา ซึ่งโดยสาระสำคัญแล้วเป็นการแสดงความโกรธเกรี้ยวไม่พอใจการซ้อมรบทางอากาศระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ซึ่งมีชื่อรหัสว่า แมกซ์ ธันเดอร์ ก่อนหน้านั้น 1 วันซึ่งก็คือวันพุธ (16) โสมแดงยังได้ข่มขู่ที่จะถอนตัวจากการประชุมซัมมิตกับสหรัฐฯอีกด้วย
ต่อมาในวันเสาร์ (19) อารมณ์ความรู้สึกก็ยิ่งบูดบึ้งมากขึ้นอีก เมื่อมีผู้ทำหน้าที่เป็นโฆษกให้สมาคมกาชาดของเกาหลีเหนือผู้หนึ่ง ออกมาเรียกร้องว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ควรต้องจัดส่งทีมพนักงานภัตตาคารหญิงชาวเกาหลีเหนือกลับบ้าน “โดยไม่ชักช้า” เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปรับปรุงสายสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี ทั้งนี้ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวเคซีเอ็นทีของทางการโสมแดง
พนักงานภัตตาคารหญิงชาวเกาหลีเหนือ 12 คนเหล่านี้ เดินทางมายังเกาหลีใต้ในปี 2016 โดยที่พวกเธอเดินทางจากประเทศจีน และเกาหลีเหนือเรียกร้องให้ส่งพวกเธอกลับบ้านเรื่อยมา ด้วยข้ออ้างที่ว่าพวกเธอถูกลักพาตัวมาเกาหลีใต้ ถึงแม้โซลยืนยันว่าทั้ง 12 คนตัดสินใจแปรพักตร์ด้วยเจตนารมณ์อิสระของพวกเธอเอง
ลี ดงบ็อค นักวิจัยแห่งสถาบันวิจัย นิวเอเชียรีเสิร์ช ให้ความเห็นว่า การที่เกาหลีเหนือเรียกร้องให้ส่งตัว 12 พนักงานกลับบ้านเช่นนี้ เหตุผลประการหนึ่งคือต้องการทำให้มติมหาชนในเกาหลีใต้เกิดแตกแยกกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
“นอกจากนั้นยังเป็นการกดดันรัฐบาลมุนให้ยินยอมตามข้อเรียกร้องของเกาหลีเหนือ เพื่อที่เกาหลีใต้จะได้สามารถรักษาโมเมนตัมสำหรับการประชุมซัมมิตเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯเอาไว้” ลี บอก
