"ประยุทธ์" วางโปรแกรมหอบครม.สัญจรเยือนอีสานตอนล่างเริ่มที่สุรินทร์ ต่อด้วยบุรีรัมย์ “อนุทิน - เนวิน” พร้อมนำ ปชช.สวมเสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ 3 หมื่นคนให้การต้อนรับ "สมคิด" เผยลงพื้นที่ ครม.สัญจรที่สุรินทร์-บุรีรัมย์ติดตามแก้จน ตอก “เจ๊หน่อย” เลิกด่า-พูดว่า “ดูด” ชี้ คนเบื่อ แนะพูดการเมืองให้น้อย ประเทศจะเจริญ
วานนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจ.สุรินทร์และจ.บุรีรัมย์ พร้อมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2560 ประชุมชั้น 2 อาคาร อเนกคุณาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.นี้
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างหรือกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยมีประเด็นการพัฒนาที่สำคัญได้แก่การพัฒนาโครงข่ายและคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งทางอากาศและทางถนน การพัฒนาการค้าชายแดนการพัฒนาด้านการกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงกีฬา การบริหารจัดการน้ำการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์และการอนุรักษ์และพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาไทยด้านการทอผ้าไหม เป็นต้น โดยรัฐบาลมุ่งหวังที่จะเชื่อมโยงจุดเด่นในแต่ละพื้นที่เพิ่มเติมจุดแข็งของสินค้าและการบริการด้วยนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา เพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในกลุ่มจังหวัดดังกล่าว
ในวันที่ 7 พ.ค.61 เวลา 09.00 น. นายกฯ จะตรวจเยี่ยมชมจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากนั้นเวลา 11.30 น. นายกฯ พร้อมคณะจะได้เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณ บ้านท่าสว่าง หมู่1 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปการทอผ้าไหมชั้นสูง ช่วงบ่าย นายกฯ และคณะจะเดินทางต่อไปยัง จ.บุรีรัมย์ โดยในเวลา 15.00 น. นายกฯ จะพบปะกับประชาชน ที่ สนามช้าง อารีน่า และตรวจเยี่ยมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยในจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกสนามที่ 15 ที่ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต และในช่วงค่ำ นายกฯ และคณะจะเยี่ยมชมถนนคนเดินเซาะกราว ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่ได้รับรางวัลการบริหารจัดการชุมชนและสิ่งแวดล้อม
วันที่ 8 พ.ค. เวลา 08.30 น. นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อร่วมประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการและรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจในพื้นที่ด้วย จากนั้นเวลา 10.30 น. นายกฯ จะเป็นประธานการประชุม ครม.ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ในเวลา 14.20 น. นายกฯ จะไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนโฮมสเตย์บ้านสนวนนอก ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ จากนั้นเวลา 18.40 น. นายกฯ และคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ประจำปี 2561 หลังจากประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จ.จันทบุรีและเพชรบุรี
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า โอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมประชาชนจำนวน 30,000 คน ที่จะสวมเสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์กันอย่างพร้อมเพียง จะร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ที่สนามช้าง อารีน่า ด้วย
ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ว่า ไปติดตามนโยบายการดำเนินการแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชน ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสมที่นายกรัฐมนตรีจะไปพบกับประชาชน หากพื้นที่มีปัญหา รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็น ทั้งนี้ ยอมรับว่า รู้จักกับ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมือง พร้อมปฏิเสธตอบคำถามว่าจะทาบทามนายเนวิน มาช่วยงานรัฐบาลหรือไม่ ส่วนจะลงพื้นที่ภาคใต้ เช่น จ.สุราษฎร์ธานี หรือไม่นั้น นายสมคิด กล่าวเพียงว่า สนิทสนมกันดีกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่วนตัวรู้จักเพราะเป็นคนดี ในขณะที่พรรคเพื่อไทยก็มีคนที่ดีจำนวนมาก
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่านายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เดินทางเข้าพบนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ เพื่อทาบทามให้มาร่วมงานกับรัฐบาล นั้น นายสมคิด กล่าวว่า ต้องไปถาม นายสนธิรัตน์และนายอุตตม เอง เรื่องการเมืองต้องพูดน้อยๆ บ้านเมืองถึงจะเจริญ ส่วนตัวไม่เคยตอบโต้ทางการเมืองกับใคร เพราะทุกคนต่างรู้จักกันเป็นเพื่อนกันทั้งหมด และวันข้างหน้าอาจจะต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้นใช้เวลาส่วนใหญ่คิดสิ่งดีๆ จะดีกว่า
"ผมจะแนะนำว่า พรรคการเมืองในขณะนี้ที่มีอยู่ กว่าจะถึงเลือกตั้ง พยายามคัดสรรคนดีๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการคิดนโยบายเตรียมเอาไว้ เมื่อเลือกตั้งแล้วถ้าใครได้เป็นรัฐบาลหรือเข้าร่วมรัฐบาลอย่างไรก็แล้วแต่ จะได้ไปช่วยกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น นี่คือสิ่งที่ต้องสื่อความออกไป ไม่ใช่มาดูดนั้น ดูดนี่ ไร้สาระ 10 ปีก็อยู่กันแค่นี้ แล้วคนที่บอกว่าดูดส้วม ผมรู้จักดี ต้องพัฒนามากกว่านี้" นายสมคิด กล่าว.
วานนี้ (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจ.สุรินทร์และจ.บุรีรัมย์ พร้อมเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2560 ประชุมชั้น 2 อาคาร อเนกคุณาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.นี้
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามการดำเนินงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างหรือกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยมีประเด็นการพัฒนาที่สำคัญได้แก่การพัฒนาโครงข่ายและคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งทางอากาศและทางถนน การพัฒนาการค้าชายแดนการพัฒนาด้านการกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงกีฬา การบริหารจัดการน้ำการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์และการอนุรักษ์และพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาไทยด้านการทอผ้าไหม เป็นต้น โดยรัฐบาลมุ่งหวังที่จะเชื่อมโยงจุดเด่นในแต่ละพื้นที่เพิ่มเติมจุดแข็งของสินค้าและการบริการด้วยนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา เพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในกลุ่มจังหวัดดังกล่าว
ในวันที่ 7 พ.ค.61 เวลา 09.00 น. นายกฯ จะตรวจเยี่ยมชมจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากนั้นเวลา 11.30 น. นายกฯ พร้อมคณะจะได้เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณ บ้านท่าสว่าง หมู่1 ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปการทอผ้าไหมชั้นสูง ช่วงบ่าย นายกฯ และคณะจะเดินทางต่อไปยัง จ.บุรีรัมย์ โดยในเวลา 15.00 น. นายกฯ จะพบปะกับประชาชน ที่ สนามช้าง อารีน่า และตรวจเยี่ยมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยในจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกสนามที่ 15 ที่ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต และในช่วงค่ำ นายกฯ และคณะจะเยี่ยมชมถนนคนเดินเซาะกราว ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่ได้รับรางวัลการบริหารจัดการชุมชนและสิ่งแวดล้อม
วันที่ 8 พ.ค. เวลา 08.30 น. นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อร่วมประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการและรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจในพื้นที่ด้วย จากนั้นเวลา 10.30 น. นายกฯ จะเป็นประธานการประชุม ครม.ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ในเวลา 14.20 น. นายกฯ จะไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวชุมชนโฮมสเตย์บ้านสนวนนอก ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ จากนั้นเวลา 18.40 น. นายกฯ และคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ประจำปี 2561 หลังจากประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จ.จันทบุรีและเพชรบุรี
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า โอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมประชาชนจำนวน 30,000 คน ที่จะสวมเสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์กันอย่างพร้อมเพียง จะร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ที่สนามช้าง อารีน่า ด้วย
ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ว่า ไปติดตามนโยบายการดำเนินการแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชน ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสมที่นายกรัฐมนตรีจะไปพบกับประชาชน หากพื้นที่มีปัญหา รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็น ทั้งนี้ ยอมรับว่า รู้จักกับ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมือง พร้อมปฏิเสธตอบคำถามว่าจะทาบทามนายเนวิน มาช่วยงานรัฐบาลหรือไม่ ส่วนจะลงพื้นที่ภาคใต้ เช่น จ.สุราษฎร์ธานี หรือไม่นั้น นายสมคิด กล่าวเพียงว่า สนิทสนมกันดีกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่วนตัวรู้จักเพราะเป็นคนดี ในขณะที่พรรคเพื่อไทยก็มีคนที่ดีจำนวนมาก
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่านายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เดินทางเข้าพบนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ เพื่อทาบทามให้มาร่วมงานกับรัฐบาล นั้น นายสมคิด กล่าวว่า ต้องไปถาม นายสนธิรัตน์และนายอุตตม เอง เรื่องการเมืองต้องพูดน้อยๆ บ้านเมืองถึงจะเจริญ ส่วนตัวไม่เคยตอบโต้ทางการเมืองกับใคร เพราะทุกคนต่างรู้จักกันเป็นเพื่อนกันทั้งหมด และวันข้างหน้าอาจจะต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้นใช้เวลาส่วนใหญ่คิดสิ่งดีๆ จะดีกว่า
"ผมจะแนะนำว่า พรรคการเมืองในขณะนี้ที่มีอยู่ กว่าจะถึงเลือกตั้ง พยายามคัดสรรคนดีๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการคิดนโยบายเตรียมเอาไว้ เมื่อเลือกตั้งแล้วถ้าใครได้เป็นรัฐบาลหรือเข้าร่วมรัฐบาลอย่างไรก็แล้วแต่ จะได้ไปช่วยกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น นี่คือสิ่งที่ต้องสื่อความออกไป ไม่ใช่มาดูดนั้น ดูดนี่ ไร้สาระ 10 ปีก็อยู่กันแค่นี้ แล้วคนที่บอกว่าดูดส้วม ผมรู้จักดี ต้องพัฒนามากกว่านี้" นายสมคิด กล่าว.