ผู้จัดการรายวัน360-โหรคมช.ชี้โอกาสสูงที่จะมี "รัฐบาลแห่งชาติ"หลังเลือกตั้ง เหตุทั้ง พท. และ ปชป. จะไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ให้คอยพิสูจน์กันเมื่อถึงเวลา ย้ำหน้าที่ "บิ๊กตู่" ยังไม่หมด "วิษณุ" ชี้ถ้า "วัชระ" พูดไม่จริง มีความผิด เหตุทำให้คนเข้าใจผิดเรื่องระดมทุน 4 หมื่นล้านตั้งพรรคทหาร ด้านเจ้าตัวยันเรื่องจริง พร้อมน้อมรับหากนายกฯ ฟ้องร้อง ก่อนแนะเอาเวลาไปปราบโกง-แก้ปัญหาประชาชนดีกว่า "นิพิฏฐ์"จับตาปาฏิหาริย์กฎหมาย ยื้อการเลือกตั้งออกไปอีก 1ปี "เนวิน"ยันไม่คุยการเมือง "เสี่ยหนู"ชี้สมาชิกพรรคไม่มีใครโดนดูด
นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังเจ้าของฉายาโหร คมช. เปิดเผยถึงสถานการณ์การเมืองว่า ตอนนี้นักการเมืองทุกฝ่ายไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาล หรือพรรคการเมือง เดินหน้าเตรียมตัวสู่การเลือกตั้ง ส่วนความชัดเจนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการเลือกตั้งนั้น ก็อย่างที่ตนบอก ทุกฝ่ายเปิดหน้าทางการเมืองแล้ว ทุกคนกำลังเดินหน้ากัน คิดว่าคงไม่นานนี้ จะเป็นรูปเป็นร่าง ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป จะได้เห็นความชัดเจน รวมถึงการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ท่านต้องดูหลายอย่างประกอบในการตัดสินใจ และยังเป็นไปอย่างที่ตนบอกคือ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่หมดหน้าที่ลง ถึงแม้มีอุปสรรคอยู่บ้างก็ตาม ซึ่งการกลับมาเป็นนายกฯ ก็เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
เมื่อถามว่า จะเห็นการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยหลังการเลือกตั้งอย่างไร นายวารินทร์ กล่าวว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อน สำหรับ 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ คงได้คะแนนเสียงระดับหนึ่ง แต่คงไม่ได้หวนกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน คงต้องอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เพราะหมดเวลา น่ามาลักษณะเป็นฝ่ายค้านมากกว่า ยังเป็นหน้าที่ของคนในรัฐบาลปัจจุบัน
"อาจเป็นไปได้ที่จะมารวมกันเดินหน้าขับเคลื่อนเพื่อชาติบ้านเมือง โดยไม่คิดถึงประโยชน์ใดๆ คล้ายๆ กับรัฐบาลแห่งชาติ ในที่สุดน่าจะมาเป็นแบบนี้มากกว่า เวลานี้เป็นการเล่นการเมืองตามบท เมื่อถึงเวลาจริงๆ คงต้องมีการปรีกษาหารือร่วมกัน ความเป็นไปได้มี ต้องคอยพิสูจน์กันไปเมื่อถึงเวลา เท่าที่ดูความเป็นรัฐบาลแห่งชาติมีความเป็นได้สูง" โหร คมช.กล่าว
ถ้า"วัชระ"พูดไม่จริง มีความผิด
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายไปตรวจสอบเพื่อเอาผิด นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่ามีการระดมเงิน 4 หมื่นล้านบาท ตั้งพรรคทหาร ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มองว่าไม่ใช่เรื่องจริง อาจทำให้คนเข้าผิด จึงต้องไปดูว่า ผู้พูดมีเจตนาอะไรที่เอาเรื่องไม่จริงมาพูด เพราะเมื่อนายวัชระ อ้างตัวเลข 4 หมื่นล้านบาทได้ คนอื่นสามารถพูดโดยไม่มีมูลความจริงได้เช่นกัน และการพูดโดยไม่มีมูลความจริงออกผ่านสื่อสาธารณะนั้น ย่อมมีความผิด ส่วนจะเอาผิดนายวัชระอย่างไรนั้น ไม่รู้ เพราะตนไม่ได้เป็นคนคิดจะเอาผิด หรือตั้งข้อหา และนายกฯ เพียงแต่ให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยดู
เมื่อถามว่า ถือเป็นการดิสเครดิตก่อนการเลือกตั้ง หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อาจไม่ถึงขนาดนั้น แต่อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิด เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ และร่ำลือกันไปต่างๆ นานา เหมือนกับที่ปัจจุบันมีการส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงมากมาย ซึ่งจะทำให้คนเกิดความเชื่อ โดยเรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่หากพิสูจน์ข้อเท็จจริง อาจจะเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองก็ได้ เช่น ถ้าเราตบหน้าคนเฉยๆ ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่ถ้าเราตบหน้าเพื่อดิสเครดิตทางการเมือง จะเป็นเรื่องการเมือง
"วัชระ"ยันระดมทุนตั้งพรรคทหารมีจริง
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ คงฟังความไม่หมด เพราะตนบอกว่าได้รับข้อมูลด้านการข่าวว่ามีการระดมทุน เพื่อสนับสนุนพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อสนับสนุนทหาร เป็นวงเงินดังกล่าว แต่ไม่ได้ระบุหรือกล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความเกี่ยวข้อง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง จึงไม่ควรเดือดร้อน เพราะเป็นการกล่าวถึงคนในรัฐบาล ที่มีรายงานว่ามีการพูดคุยเรื่องระดมทุน เพื่อตั้งพรรคสนับสนุนทหารในทำเนียบรัฐบาล และตัวเลขดังกล่าวเป็นการตั้งเป้า ส่วนคนเรียกระดมได้เท่าไร ไม่ทราบ และใช้จริงเท่าไร ก็ไม่รู้ เพราะเป็นการข่าวที่ได้รับมา โดยเป็นการเตรียมตั้งพรรคในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมา ไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติแบบนี้ ดังนั้น ตนขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ ว่า กล้าสาบานต่อวัดพระแก้ว ใน 7 วัน หรือไม่ว่าไม่มีการใช้ทำเนียบรัฐบาล พูดคุยกันเรื่องการตั้งพรรคการเมือง
"ผมไม่เคยกล่าวหาว่าท่านทุจริต หรือ สั่งการให้มีการระดมทุน เมื่อท่านขู่ว่าจะฟ้องร้องผมและสื่อ ก็ขอร้องว่าอย่าฟ้องเลย แต่หากจะฟ้องผมก็ยินดี ที่จะต่อสู้ตามกระบวนการ เพราะมีความสุจริตใจในการให้ข้อมูล และหวังดีต่อท่าน ไม่อยากให้ท่านเป็นนายกฯ ต่อ อยากให้พอแล้ว เพราะท่านไม่ทันนักการเมืองที่ฉ้อฉลแน่นอน"นายวัชระกล่าวและว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ดูตัวอย่างจอมพลถนอม กิตติขจร และพล.อ.สุจินดา คราประยูร และขอให้เอาเวลาที่จะฟ้องร้อง ไปเร่งปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ล้มเหลว
ส่อแววยื้อเลือกตั้งอีก 1 ปี
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึง พ.ร.ป.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ที่จะใช้ในการเลือกตั้ง ว่า คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่า มีกฎหมายในหมวดเลือกตั้ง ถูกส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเพียง 2 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. แต่ที่จริงแล้วมี 3 ฉบับ คือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หลัง คสช. มีคำสั่งที่ 53/2560 สั่งให้ดำเนินการนอกเหนือจากกฎหมายพรรคการเมือง
ทั้งนี้ คสช. มี 2 ช่อง ที่จะเดิน คือ 1.เลือกที่จะปรับปรุงตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยส่งกลับมาให้ สนช. ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายพรรคการเมือง ก็อาจจะต้องใช้เวลาเกือบปี เพราะต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ตั้งแต่การเสนอญัตติเข้าวาระที่ 1 ถึงวาระที่ 3 ต่อที่ประชุม สนช. จากนั้นก็ต้องส่งขึ้นไปเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย โดยกระบวนการดังกล่าว ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป หรือ 2.คสช. จะใช้ ม.44 สั่งให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ให้สอดคล้องตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งวิธีการนี้จะใช้เวลาไม่นานเท่ากับการส่งให้ สนช. แก้ไข แต่ก็ยังมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งตามโรดแมปเดือน ก.พ.62 ที่จะเกิดขึ้นอยู่ดี
"เหล่านี้ คือ ปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย ที่คนส่วนใหญ่ยังคิดไม่ถึง ผมจึงบอกว่า ข่าวจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 หรืออุกกาบาตตกใส่ประเทศไทย ยังไม่น่ากลัวเท่าปาฏิหาริย์ทางกฎหมายที่ คสช. จะเลือกใช้ เพื่อยื้อเลือกตั้ง และผมขอเรียกร้องให้สถาบันศึกษาวิชาการทางกฎหมาย และอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ของสถาบันต่างๆ ร่วมช่วยกันติดตาม และตรวจสอบประเด็นข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เพราะล้วนเกี่ยวข้องกับการวางบรรทัดฐาน ทั้งในการยกร่าง และการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตของบ้านเมืองเราทั้งสิ้น ทั้งหมดอยู่ที่ความพอใจของคสช. ว่าเขามีความจริงใจ ที่จะกำหนดให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อใดกันแน่"นายนิพิฏฐ์กล่าว
"เนวิน"ยันไม่คุยการเมือง
นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีจะมาประชุม ครม.สัญจร ที่จ.บุรีรัมย์ และจะมีการทาบทามตระกูลชิดชอบ ไปร่วมงานการเมือง ว่า ขอยืนยันว่าตนไม่คุยเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนตามกำหนดการที่นายกฯ จะมาที่สนามช้างอารีน่า เพื่อตรวจความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก สนามที่ 15 รายการพีทีทีไทยแลนด์ กรังปรีซ์ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในวันที่ 7 พ.ค. ตนจะออกมาต้อนรับด้วยตัวเองหรือไม่ ก็ขอให้รอดูวันนั้นเลยก็แล้วกัน
"เสี่ยหนู"ชี้คนของพรรคไม่ถูกดูด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมาถึงว่า ขอให้ทุกคนในพรรคภูมิใจไทย ช่วยกันรณรงค์ให้ผู้สมัคร ได้รับความนิยมให้มากที่สุด สถานการณ์ขณะนี้ บุคคลของพรรคไม่ถูกดูด และพรรคภูมิใจไทยก็ไม่เคยดูดใคร เรามีเอกเทศในรูปแบบของตัวเอง