ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ไม่รู้ร้อนรู้หนาว!! “รัฐบาล คสช.”ทำนิ่งปม “หมู่บ้านป่าแหว่ง”ปล่อยผู้บริหารศาลอุทธรณ์ภาค 5 เติมฟืนเข้ากองไฟ แถม“ทัพภาค 3”เป็นใจเตะถ่วง ปล่อยให้บ้านหรูสร้างเสร็จ เมินเสียงคนค้านต้อง“รื้อเท่านั้น” จับตาชุมนุมใหญ่ 29 เม.ย. ท้าทายอำนาจ คสช. คิดชักช้าไม่ได้ใจคนเหนือ ลืมไปได้เลยแผนทอนฐานเสียง“เพื่อไทย”
ชักจะไปกันใหญ่ .. สิ้นคำ ชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา ในฐานะ อดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 และ สวัสดิ์ สุรวัฒนานันท์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 คนปัจจุบัน ที่พูดถึง “หมู่บ้านป่าแหว่ง”ทำให้กระแสต่อต้านคัดค้านรุนแรงเป็นเท่าทวี เหมือน “เติมฟืนเข้ากองไฟ” .. ทั้งคำที่ว่า ขออยู่ก่อน 10 ปี แล้วค่อยว่ากัน หรือขู่ว่าหาก “ผู้พิพากษา”ไม่มีบ้านอยู่ คนภาคเหนือทั้งภาค คงต้องลงไปฟ้องคดีกันที่ กทม.เอาเอง .. ในขณะที่รัฐบาลก็ดูจะไม่รู้ร้อนรู้หนาว กับข้อพิพากษา ยังไร้วี่แววแนวทางการแก้ไขปัญหาออกมา .. ส่วนฝ่ายทหารภายใต้บังคับบัญชา ก็ดูจะเป็นใจ เตะถ่วงเรื่องไปเรื่อยๆ ทั้งที่มีข้อสรุปจากภาคประชาชนในการยื่นต่อรัฐบาลแล้ว แต่ “บิ๊กตี๋”พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ยังอ้างไม่ตกผลึกดี แล้วจะนัดทุกฝ่ายหารืออีกครั้ง ในเดือนพ.ค.นี้ .. ส่วนระหว่างนี้ก็จะปล่อยให้โครงการสร้างบ้านพักตุลาการให้แล้วเสร็จไปก่อน .. ทั้งที่คำขาดของนักอนุรักษ์-ภาคประชาชน ออกจะชัดเจนว่า “ต้องรื้อเท่านั้น”ในส่วนของบ้านพักและอาคารสำนักงานที่อยู่ใน “พื้นที่ป่าแหว่ง”ก็ไม่เข้าใจว่า แล้วจะปล่อยสร้างต่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมทำไม .. อีกทั้งยังมีกระแสข่าวหนาหูว่า มีคำสั่งจาก “คสช.”ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐให้ความเห็น รวมทั้งไม่ให้ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับ “หมุ่บ้านป่าแหว่ง”ด้วย .. คล้ายกับว่า ไม่สนใจเสียงเรียกร้องของประชาชน แบบนี้ก็อยู่กันยาก ..
นอกเหนือจาก“โซเชียลแซงชั่น”ที่ระบาดไปทั่วเมืองเชียงใหม่แล้ว ตอนนี้ก็มีนัดหมายเคลื่อนไหวใหญ่ ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ด้วย .. ในจัดกิจกรรมเล็กๆ ที่ชื่อว่า "ฉันรักดอยสุเทพ" โดยมีกิจกรรมย่อยในการแสดงพลังในชื่อ “สงคราม 9 ทัพ”..ที่จะระดมคนจาก 9 สถานที่ ก่อนมาร่วมตัวกันที่บริเวณด้านหน้าศาลอุทธรณ์ ภาค 5 เพื่อทำพิธีสาปแช่งตามพิธีกรรมของชาวล้านนา .. เชื่อว่าเป็นกิจกรรมที่ “รัฐบาล คสช.”คงไม่ปลาบปลื้มเป็นแน่ แต่หากไปขวาง ก็ไม่พ้นถูกมองว่า ถือหางฝ่ายตุลาการ ในการย่ำยีผืนป่า .. ต้องไม่ลืมว่า พื้นที่ “เชียงใหม่”และภาคเหนือ มีแนวทางการเมืองที่ตรงกันข้ามกับ “รัฐบาลทหาร”เป็นทุนอยู่แล้ว .. การตัดสินใจเชื่องช้า นอกจากจะไม่ได้ใจประชาชนคนไทย แล้วยังเพื่มดีกรีความชิงชังเข้าไปอีก .. ที่หวังว่า “พรรคทหาร” จะเจาะพื้นที่ได้คะแนนเสียงคนเหนือ เพื่อทอนฐานเสียงพรรคเพื่อไทยไปบ้าง ก็ลืมไปเต๊อะ
** อยู่ที่คนของใคร!! “นภา” อธิบดี พส.ตีมึน สั่งย้าย ขรก.โกงคนไร้ที่พึ่ง แต่วันเดียวเลื่อนขั้นให้ พร้อมมอบงานสำคัญให้อีกต่างหาก แต่ 2 ข้าราชการที่ร่วมเป็นพยานแฉโกง ที่ จ.ขอนแก่น กลับถูกย้ายไปพื้นที่ห่างไกล โดยไม่สมัครใจ เข้าอิหรอบโอบอุ้มคนทุจริต หาเรื่องกลั่นแกล้งคนสุจริต หรือเปล่า
แบบนี้ก็มีแฮะ .. นอกจากออกคำสั่งสอบสวน 3 ข้าราชการ นำโดย พยอม จิตรคง ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น แบบพิลึกพิลั่น ซ้อนกัน 2 คำสั่ง “วินัยร้ายแรง-วินัยไม่ร้ายแรง”แล้ว .. จนมีคำถามถึงความไม่ชอบมาพากล ของ นภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ก่อนต้องออกมาอ้างข้างๆ คูๆ ว่าเป็นคำแนะนำของฝ่ายกฎหมายแล้ว .. “เจ๊นภา”ยังโดนจับได้อีกว่า มีการย้าย วราภรณ์ อบมา ตำแหน่งพยาบาลเทคนิคปฏิบัติงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 1 ใน 6 บุคคล ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ. ขอนแก่น ให้ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น .. ที่สำคัญ “วราภรณ์”ยังเป็น “คีย์แมน”คนสำคัญ ด้วยมีตำแหน่งเป็น หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคม เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินสงเคราะห์ และจัดทำเอกสารทั้งหมด ว่ากันว่า เป็นคนปลอมลายเซ็นต์ในเอกสารโกงเงิน .. ทั้งที่ “วราภรณ์” เพิ่งถูกคำสั่งลงนามโดย “เจ๊นภา”ย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่กองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต วันที่ 24 ม.ค.61 .. ถัดมาวันเดียว 25 ม.ค.61 ก็มีคำสั่งให้ “วราภรณ์”ไปเป็น “เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน”เป็นผู้มีสิทธิเข้าใช้งานระบบ KTB Corporate Online เพื่อปฏิบัติงานด้านการจ่ายเงิน รับเงิน และนำส่งคลังผ่านระบบออนไลน์ แต่คำสั่งนี้ลงนามโดย สนธยา บุณยภูษิต เลขานุการกรม ทำการแทนอธิบดีฯ ..
พิรุธมีเพียบ ทั้งการเพิ่มขั้นเงินเดือนให้เฉยๆ ตอนย้ายยังแค่ระดับ “ปฏิบัติงาน” แต่ในคำสั่งมอบหมายงาน ดันอัพเกรดเป็นระดับ “ชำนาญงาน” ทั้งๆ ที่ห่างกันแค่วันเดียว ลนลานจนชื่อตำแหน่งไม่ตรงกันเสียด้วย .. ยิ่งไปกว่านั้น พื้นเพของ “วราภรณ์”ก็มาจาก “พยาบาลเทคนิคปฏิบัติงาน”ที่โอนย้ายมาอยู่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ก็ไม่รู้ว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการเงิน จนไปเตะตา “บิ๊กในกระทรวง”หรืออย่างไร ถึงต้องมอบหมายสิทธิการเข้าระบบการเงินให้เช่นนี้ .. ว่ากันว่า “วราภรณ์”เป็น “มือทำงาน”ของผอ.ศูนย์ฯ ขอนแก่น โกงคนไร้ที่พึ่ง ก่อนที่ฝีจะแตกไปทั่วประเทศอีกต่างหาก .. เหมือนสั่งย้ายกันพอเป็นพิธี แล้วอุ้มกันไปทำตำบอนในตำแหน่งอื่น ที่สุดพอกระแสแรง “วราภรณ์”ก็เพิ่งมาถูกพักราชการพร้อมกับพวกเมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ เอง .. เรื่องพิลึกเช่นนี้ “เจ๊นภา”ต้องมีคำตอบ ที่อ้างว่าเป็นความผิดพลาดในขั้นตอนการทำเอกสาร ก็ดูจะปัดสวะกันง่ายเกินไป .. เรื่องแบบนี้ไม่พ้นสายตา “เดอะแจ๊ค” วัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ปากกล้า ค่ายประชาธิปัตย์ ที่เตรียมยื่นหนังสือถึง “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตรวจสอบการบริหารในกระทรวงพัฒนาสังคมฯ เจาะจงไปที่ “อธิบดีนภา”..ก็ในขณะที่ “วราภรณ์” ย้ายไปได้ดี แต่ 2 ข้าราชการที่สุจริตและร่วมเป็นพยานกลับถูกย้ายไปพื้นที่ห่างไกล ทั้งที่ไม่ได้สมัครใจ .. เข้าอิหรอบโอบอุ้มคนทุจริต ตัดตอนไม่ให้ถึงระดับสูง ในทางกลับกันหาเรื่องกลั่นแกล้งคนสุจริต
** แบ๊กปึ้ก ทุนหนา!! ทุนสร้างพรรคทหาร “สี่หมื่นล้านบาทไทย” ก๊วนการเมืองคงตาลุกวาว หลังอดยากปากแห้งมานาน แบบนี้มีหวังเฮโลสยบ ”พลังดูด คสช.” แบบไม่ต้องคิดมาก
อดีตเป็นไงก็ไม่สําคัญ.. แต่วันนี้ “นักการเมือง - นักเลือกตั้ง” ในใจของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนใหญ่คือ “คนดี” ลืมหมดสิ้นคำที่เคยเกรี้ยวกราด ด่าเปิงไว้จนสิ้น .. การยกหาง “นักการเมือง” ว่าส่วนใหญ่เป็นคนดี ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณ “พลังดูด คสช.” ที่ยืนยันแน่ชัดว่า ไม่ว่าชื่อเสียงฉาวโฉ่มาจากไหน ใครมีฐานเสียงเป็นใช้ได้ พร้อมที่จะดูดมาร่วมงาน .. ตามคิวที่อีกไม่กี่วัน “ทัพลุงตู่” จะไปลงพื้นที่ ครม.สัญจร ที่ “บุรีรัมย์ - สุรินทร์” พื้นที่ในอาณัติ “พรรคเนวิน” พรรคภูมิใจไทย ที่ศิโรราบให้ “พรรคทหาร” มาตั้งนานแล้ว .. พลังดูดไม่หยุดหย่อนแบบนี้ ค่ายนี้ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องเปิดหน้ามาเตะสกัดด้วยตัวเอง .. ด้วยปล่อยไปแบบนี้ ไม่เพียงแต่อดีต ส.ส.ที่โดนตกเขียวไปเหมือน “เสี่ยจั้ม”สกลธี ภัททิยะกุล รองผู้ว่าฯกทม. ที่พ่วงเอา “เสี่ยตั๊น” ณัฐพล ทีปสุวรรณ กับ “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ แล้ว ยังอาจมีอดีตผู้แทนจำใจต้องทิ้ง “ค่ายสีฟ้า” ไปอีก .. จนต้องใช้เครดิตสูงปรึ๊ดของตัวเอง ออกมาปูดข่าวดักทาง “พรรคทหาร” ไล่ตกเขียว “นักเลือกตั้ง - กลุ่มทุน” ด้วยสารพัดวิธี .. นอกเหนือจากเรื่อง “พรรคพลังชล” ที่ “เดอะมาร์ค” คุยโวว่า ได้ยินมาก่อนล้วงหน่า แถมยังมีอีกหลายก๊วนการเมืองอย่าง “บ้านใหญ่สะสมทรัพย์” ที่จะถูกล่อด้วยตำแหน่งคล้ายๆ กันด้วยแล้ว .. ยังมีเรื่องการใช้ “กลไกลภาครัฐ” บีบ “กลุ่มนายทุน” ให้เลือกข้าง โดย “ผู้มีอำนาจ” ใช้ตำแหน่งปัจจุบัน ส่งสัญาณไปถึง “ภาคธุรกิจ” ต้องไม่ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองอื่น .. เรื่องตำแหน่งแห่งที่ต่างตอบแทนดูจิ๊บๆ ไปทันที เมื่อ “เดอะแจ๊ค” วัชระ เพชรทอง อดีตผู้แทนค่ายสีฟ้า ที่ออกมาระบุว่า ตอนนี้มีการลงขันระดมเงินให้ได้ยอด “สี่หมื่นล้านบาท” เพื่อจัดตั้ง “พรรคทหาร” สืบทอดอำนาจ .. ฟังเข้าแบบนี้ก็ยิ่งเข้าทาง “พรรค คสช.” ก็รู้อยู่ว่า “นักเลือกตั้ง” เข้าโหมดจำศีลจน “อดอยากปากแห้ง” มานาน คงตาลุกวาว .. เฝ้ารอให้ “เสี่ยสี่หมื่นล้าน” ออกปากจีบ แค่กระดิกนิ้ว ก็คงเฮโลเข้าคอกกันถ้วนทั่ว .. แบบนี้อยู่ด้วยสบายตัว-สบายใจ ทั้ง “แบ็กปึ้ก” ถืออำนาจในมือ แล้วยัง “ทุนหนา” แบบเปย์ได้ไม่อั้นอีก.
ช.ชฎา