อย่าได้แปลกใจที่เวลาใครเห็น "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ลงพื้นที่ในต่างจังหวัดแล้วก็ต้องฟันธงแบบรู้ทันว่า นี่มันคือรายการ "หาเสียง" ชัดๆ เพราะไม่ว่ารูปแบบการแต่งกาย การเคลื่อนไหว ลีลาท่าทางการพูดคุยกับชาวบ้าน ก็ต้องบอกว่า "ใช่เลย" ว่านี่คือลีลาของนักการเมืองเต็มรูปแบบ
การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะถือว่า "จัดเต็ม" จัดหนักเป็นพิเศษ เริ่มตั้งแต่การแต่งตัวแบบ "เสื้อผ้าหน้าผม" เรียกว่ามีการเช็ตกันมาล่วงหน้า โดยเฉพาะการมาในชุด"ผ้าไหมแพรวา" สินค้าขึ้นชื่อของจังหวัด มีผ้าขะม้าคาดพุง นั่งรถอีแต๋น อีแต๊ก โบกไม้โบกมือทักทายชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาเราจะเห็นภาพแบบนี้ของพวกนักการเมืองกันจนชินตา
แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีแบ็กกราวด์จากทหาร การได้เห็นภาพแบบนี้ อาจจะแปลกตาไปบ้าง แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าลีลาแบบนี้ของเขาเริ่มมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องและถี่ยิบ จนถูกฝ่ายตรงข้ามจับได้ และส่งเสียง"ดักคอ" นี่คือการ "หาเสียงล่วงหน้า" ชัดๆ
ขณะเดียวกันระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังลงพื้นที่โกยแต้มกันเป็นกะบุง อีกด้านหนึ่งก็ยัง "ไม่ยอมปลดล็อก" ให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมได้ โดยที่ผ่านมาอ้างว่า"สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ" ยังมีคลื่นใต้น้ำ มีกลุ่มเคลื่อนไหวก่อกวน ทำให้ยังต้องรอไปก่อน มิหนำซ้ำมีการจับอาวุธสงครามล็อตใหญ่โชว์ แต่ก็น่าแปลกที่คราวนี้สังคมกลับไม่ค่อยตื่นเต้น หรือมีอารมณ์ร่วมเท่าที่ควร ตรงกันข้ามกลับมองว่า นี่คือรายการ"จัดฉาก" เรื่องราวจึงค่อยๆ ซาไป
ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา ระดับ"ขาใหญ่"ในรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คุมความมั่นคงอย่างเบ็ดเสร็จ เจอมรสุมในหลายเรื่องประดังเข้ามาพร้อมๆกัน จนเวลาเกิดอาการผวาไม่ค่อยอยากเจอหน้าใครแล้ว
เมื่อรายงานเรื่องอาวุธสงครามทำท่ากลายเป็น "มุกแป๊ก" อีกทั้งด้วยเงื่อนไขเรื่องระยะเวลากลายเป็นไฟต์บังคับให้ต้อง"ปลดล็อก" พรรคการเมืองอยู่ดี อีกไม่กี่วันเชื่อว่าต้องไฟเขียวจนได้ ซึ่งจากสัญญาณที่ "หลุด" ออกมาจากปากของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมาชิกคนสำคัญของ คสช. ว่าจะเสนอปลดล็อกเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
น้ำหนักสำคัญล่าสุดก็คือ คำแถลงฟื้นฟูปรับความสัมพันธ์กับไทยทุกระดับของสหภาพยุโรป หรือ อียู โดยมีเงื่อนไขภายใต้ความเชื่อมั่นจากคำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ให้มีการเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561
แม้ว่าถัดมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกล่าวแบบ "เก็บอาการ"ว่าอย่าเพิ่งไปลิงโลดมากนัก และอ้างว่าที่ผ่านมาก็มีความพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ และยังย้ำแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้แบบเดิมคือ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังจากที่กฎหมายลูกที่จำเป็นเสร็จเรียบร้อย ซึ่งก็อาจจะยืดหยุ่นเกินกำหนดออกไปบ้างก็คงไม่กี่เดือน
ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากบรรยากาศที่ชาวบ้านชักเริ่มเบื่อรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะเกิดอาการเบื่อพฤติกรรมของบรรดา"ขาใหญ่"ในรัฐบาลมากขึ้น เหมือนกับเวลานี้ที่เหม็นเบื่อกับ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อารมณ์ที่อยากให้รัฐบาลอยู่ต่อ และไม่อยากให้เลือกตั้ง ก็น่าจะลดน้อยลง สาเหตุแบบนี้แหละที่จะเป็นต้วกระตุ้นให้ต้อง"เลือกตั้งไปตามกำหนด" ตามโรดแมป
ประกอบกับยังไม่มีสัญญาณในสภานิติบัญญัติที่ให้คว่ำกฎหมายลูกที่สำคัญ เพราะพิจารณาแล้วคงต้องเจอด่าเปิงแน่ และเสี่ยงต่อการ "จบไม่สวย" อีกด้วย
ดังนั้น จะเป็นด้วยอารมณ์ของสังคมเป็นแบบนี้เราจึงได้เห็นการลงพื้นที่ทั่วประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อย่างถี่ยิบ ซึ่งคิวล่าสุด ในวันที่ 25-26 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ก็มีกำหนดการไปประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือครม.สัญจร ที่จังหวัดสุโขทัย เชื่อว่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างคราวนี้ต้อง"จัดเต็ม" แน่นอน หลายโครงการพัฒนา น่าจะเข็นออกมาเต็มพิกัด ได้จังหวะมอบเป็น "ของขวัญปีใหม่" ให้จดจำกันเลย
เชื่อว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่สุโขทัยเที่ยวนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะมีวาระพิเศษออกมาอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็เรื่อง"ปลดล็อก" จากนั้นก็นับถอยหลังการเลือกตั้งไฟเขียวให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม เพราะยื้อต่อไปน่าจะเป็นผลลบมากกว่าผลบวก ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากตารางเดินสายของเขาเวลานี้ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกในตัวใกล้จะ"ปล่อยผี"เต็มทีแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ขอ"ทำแต้ม"โชว์เดี่ยวไปก่อนนะ !!
การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะถือว่า "จัดเต็ม" จัดหนักเป็นพิเศษ เริ่มตั้งแต่การแต่งตัวแบบ "เสื้อผ้าหน้าผม" เรียกว่ามีการเช็ตกันมาล่วงหน้า โดยเฉพาะการมาในชุด"ผ้าไหมแพรวา" สินค้าขึ้นชื่อของจังหวัด มีผ้าขะม้าคาดพุง นั่งรถอีแต๋น อีแต๊ก โบกไม้โบกมือทักทายชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาเราจะเห็นภาพแบบนี้ของพวกนักการเมืองกันจนชินตา
แต่สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีแบ็กกราวด์จากทหาร การได้เห็นภาพแบบนี้ อาจจะแปลกตาไปบ้าง แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าลีลาแบบนี้ของเขาเริ่มมีให้เห็นอย่างต่อเนื่องและถี่ยิบ จนถูกฝ่ายตรงข้ามจับได้ และส่งเสียง"ดักคอ" นี่คือการ "หาเสียงล่วงหน้า" ชัดๆ
ขณะเดียวกันระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังลงพื้นที่โกยแต้มกันเป็นกะบุง อีกด้านหนึ่งก็ยัง "ไม่ยอมปลดล็อก" ให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมได้ โดยที่ผ่านมาอ้างว่า"สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ" ยังมีคลื่นใต้น้ำ มีกลุ่มเคลื่อนไหวก่อกวน ทำให้ยังต้องรอไปก่อน มิหนำซ้ำมีการจับอาวุธสงครามล็อตใหญ่โชว์ แต่ก็น่าแปลกที่คราวนี้สังคมกลับไม่ค่อยตื่นเต้น หรือมีอารมณ์ร่วมเท่าที่ควร ตรงกันข้ามกลับมองว่า นี่คือรายการ"จัดฉาก" เรื่องราวจึงค่อยๆ ซาไป
ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา ระดับ"ขาใหญ่"ในรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คุมความมั่นคงอย่างเบ็ดเสร็จ เจอมรสุมในหลายเรื่องประดังเข้ามาพร้อมๆกัน จนเวลาเกิดอาการผวาไม่ค่อยอยากเจอหน้าใครแล้ว
เมื่อรายงานเรื่องอาวุธสงครามทำท่ากลายเป็น "มุกแป๊ก" อีกทั้งด้วยเงื่อนไขเรื่องระยะเวลากลายเป็นไฟต์บังคับให้ต้อง"ปลดล็อก" พรรคการเมืองอยู่ดี อีกไม่กี่วันเชื่อว่าต้องไฟเขียวจนได้ ซึ่งจากสัญญาณที่ "หลุด" ออกมาจากปากของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สมาชิกคนสำคัญของ คสช. ว่าจะเสนอปลดล็อกเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
น้ำหนักสำคัญล่าสุดก็คือ คำแถลงฟื้นฟูปรับความสัมพันธ์กับไทยทุกระดับของสหภาพยุโรป หรือ อียู โดยมีเงื่อนไขภายใต้ความเชื่อมั่นจากคำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ให้มีการเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561
แม้ว่าถัดมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกล่าวแบบ "เก็บอาการ"ว่าอย่าเพิ่งไปลิงโลดมากนัก และอ้างว่าที่ผ่านมาก็มีความพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ และยังย้ำแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้แบบเดิมคือ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังจากที่กฎหมายลูกที่จำเป็นเสร็จเรียบร้อย ซึ่งก็อาจจะยืดหยุ่นเกินกำหนดออกไปบ้างก็คงไม่กี่เดือน
ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากบรรยากาศที่ชาวบ้านชักเริ่มเบื่อรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะเกิดอาการเบื่อพฤติกรรมของบรรดา"ขาใหญ่"ในรัฐบาลมากขึ้น เหมือนกับเวลานี้ที่เหม็นเบื่อกับ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อารมณ์ที่อยากให้รัฐบาลอยู่ต่อ และไม่อยากให้เลือกตั้ง ก็น่าจะลดน้อยลง สาเหตุแบบนี้แหละที่จะเป็นต้วกระตุ้นให้ต้อง"เลือกตั้งไปตามกำหนด" ตามโรดแมป
ประกอบกับยังไม่มีสัญญาณในสภานิติบัญญัติที่ให้คว่ำกฎหมายลูกที่สำคัญ เพราะพิจารณาแล้วคงต้องเจอด่าเปิงแน่ และเสี่ยงต่อการ "จบไม่สวย" อีกด้วย
ดังนั้น จะเป็นด้วยอารมณ์ของสังคมเป็นแบบนี้เราจึงได้เห็นการลงพื้นที่ทั่วประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อย่างถี่ยิบ ซึ่งคิวล่าสุด ในวันที่ 25-26 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ก็มีกำหนดการไปประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือครม.สัญจร ที่จังหวัดสุโขทัย เชื่อว่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างคราวนี้ต้อง"จัดเต็ม" แน่นอน หลายโครงการพัฒนา น่าจะเข็นออกมาเต็มพิกัด ได้จังหวะมอบเป็น "ของขวัญปีใหม่" ให้จดจำกันเลย
เชื่อว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่สุโขทัยเที่ยวนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น่าจะมีวาระพิเศษออกมาอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็เรื่อง"ปลดล็อก" จากนั้นก็นับถอยหลังการเลือกตั้งไฟเขียวให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม เพราะยื้อต่อไปน่าจะเป็นผลลบมากกว่าผลบวก ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากตารางเดินสายของเขาเวลานี้ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกในตัวใกล้จะ"ปล่อยผี"เต็มทีแล้ว เพียงแต่ตอนนี้ขอ"ทำแต้ม"โชว์เดี่ยวไปก่อนนะ !!
