นายกฯ ถามเข้ามามีใครเดือดร้อนไหม ฉะคนหาว่าปิดกั้น ลั่นฝืนกฎหมายไม่ยอม วิจารณ์ไม่ว่าแต่ขอความเป็นธรรมให้ชี้แจง พร้อมเตือนขับขี่ปีใหม่ ชี้ขับเร็วพระก็กระโดดหนี ย้ำปลดล็อกพรรคการเมืองทำตามเวลาที่สมควร
วันนี้ (13 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมภูไทผ้าไหมแพรวา เฉลิมพระเกียรติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า “เรื่องของความบันเทิงก็เป็นเรื่องของท่าน ผมไม่ว่าอยู่แล้ว ไม่เคยไปปิดกั้นใครทั้งสิ้น ใครจะว่าก็ว่า ด่าก็ด่า ใครจะเขียนถึงผมยังไงผมก็รับ ไหนผมไปปิดกั้นท่านตรงไหน ใครเดือดร้อนบ้าง ที่นั่งตรงนี้มีใครเดือดร้อนไหม และผมเข้ามามีใครเดือดร้อนไหม แล้วมาบอกว่าผมปิดกั้น ผมปิดกั้นคนที่พูดจาเลอะ หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เมื่อพูดออกไป ต่างชาติก็ไม่เข้าใจ หาว่าผมเผด็จการ มันไม่ใช่ เพราะถ้าใครฝืนกฎหมาย ผมก็ไม่ยอม หน้าที่ของผมคือให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายที่เท่าเทียม ใครจะวิจารณ์ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ขอความเป็นธรรมให้ผมได้ชี้แจงบ้าง วันนี้เรามีการตั้งเป้าโดยมียุทธศาสตร์ชาติ วางแผนประเทศไปอีก 20 ปีข้างหน้าซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทุก 5 ปี ไม่ต้องกลัว เปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว ไม่ได้สร้างไว้เพื่อให้ผมอยู่ จะอยู่ได้ยังไงเดี๋ยวก็ตาย ป่วยตายหรือเปล่าก็ยังไม่รู้”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรามียุทธศาสตร์เพื่อจะเดินหน้าประเทศให้มีความมั่นคง ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การลงทุนอุตสาหกรรม เป็นการวางแผนว่าจะทำอะไรบ้าง เช่น บริหารจัดการน้ำ ถนนหนทาง โดยปฏิรูปทั้งหมด นั่นเพราะมันไม่ดีจึงต้องปฏิรูป จึงต้องใช้เวลา 20 ปี ซึ่งใน 20 ปีข้างนั้นคนในรัฐบาลนี้ใครจะยังมีชีวิตอยู่ก็ยังไม่รู้เลย แต่ทุกรัฐบาลต้องเดินหน้าตามแผนนี้ ไม่ใช่เดินเฉพาะนโยบายหาเสียงของตัวเอง เพราะการเลือกตั้งเลือกกันไปเลือกกันมาก็เป็นอยู่แบบนี้ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายก็ไม่ต่อเนื่อง แต่ถามว่าจะต้องเลือกคนเดิมตลอดหรือไม่ แต่ที่รัฐบาลนี้ทำคือ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลจะต้องเดินหน้าตามสิ่งที่วางไว้ ทุกพรรคต้องสนับสนุนการเดินตามยุทธศาสตร์นี้ เพราะถ้าไม่เดินตามเหมือนที่ผ่านมาทุกอย่างก็จะขาดตอน เหมือนถนนที่ขาด ไม่ต่อเนื่อง ขอให้เข้าใจด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า ที่พูดมานั้นมีใครไม่เชื่อตนบ้าง มีใครคิดว่าตนมาโกหกด้วยการวาดอนาคตแบบหลอกๆ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนพยายามสร้างอนาคตให้ประชาชน โดยวิสัยทัศน์ของเรา คือ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน การมาครั้งนี้ไม่ใช่หาเสียง แต่ถ้าพรรคการเมืองจะหาเสียงก็ขอให้พูดแบบนี้ และถ้าเกิดพรรคการเมืองหาเสียงก็ขอให้ประชาชนช่วยฟังด้วยว่าเขาจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ถ้าบอกว่าจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น แต่บิดเบือนราคาตลาด ถือว่าผิด และผิดกติกาโลกด้วย วันหน้าจะมีปัญหาเหมือนกับที่มีปัญหาไอเคโอ ประมง เป็นต้น
นายกฯ กล่าวว่า ใกล้จะถึงเทศกาลปีใหม่แล้ว ประเทศไทยมีการสูญเสียจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผู้ขับขี่ ไม่ค่อยรักตัวเอง ครอบครัว และคนอื่น ชอบกินเหล้าแล้วขับรถ จึงขับรถเร็วและประมาท ดังนั้นเราต้องบังคับตัวเองให้ได้ โดยไม่ดื่มแล้วขับ จะเป็นการป้องกันการเสียชีวิต ขณะที่รถบรรทุกก็ขอให้เช็กสภาพรถ เช่น ล้อ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ล้อหลุด ไปทำอันตรายคนอื่นได้
“ตัวเองตายไม่พอ ยังจะทำให้ลูกเมียและคนอื่นตายไปด้วยอีก ห้อยพระยังไงก็ตาย เพราะพระโดดลงจากรถตั้งแต่ใช้ความเร็วที่ 80 แล้ว ผมห้อยหลวงพ่อคูณ ท่านบอกว่า กูโดดลงตั้งแต่ 80 แล้ว มึงขับเร็วเกินไป และต้องดูแลสภาพรถด้วย”
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่พูดวันนี้ถ้าผู้ว่าฯ ตอบไม่ได้จะต้องโดน ขอให้ทุกคนทั้งข้าราชการทุกกระทรวงต้องฟังตนในรายการศาสตร์พระราชา เพราะถ้าไม่ฟังจะปฏิบัติไม่ตรง แล้วจะกลายเป็นว่าตนไปสัญญากับประชาชนแล้วกลับไม่ทำ ดีแต่พูด ตนดีแต่ทำ แต่ก็พูดด้วย เรียกว่าพูดแล้วทำ ตนไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาของประชาชน แต่จะนำพาประชาชนให้ปลอดภัย ไปสู่การพัฒนาประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ซึ่งวันนี้ต่างประเทศก็ยอมรับเรา บ้านเมืองของเรา เราจะให้ใครมาใช้เงื่อนไขมากำหนดกับเรามากมายทำไม แต่เราก็พยายามปลดล็อกทีละเรื่องให้ได้ จากนั้นวันหน้าประชาธิปไตยก็จะมาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ถามประชาชนตอนหนึ่งว่ามีใครในที่นี้อยากปลดล็อกบ้าง เพราะเห็นมีการร้องขอให้ปลดล็อกการเมืองกันมามาก แต่ที่นี้ไม่มี และวันหน้าอย่ามาถามเรื่องปลดล็อกอีกก็แล้วกัน ทั้งนี้ การปลดล็อกพรรคการเมืองจะทำตามเวลาที่สมควร