สัปดาห์นี้มีการพูดถึงอนาคตของพรรคเพื่อไทยว่า จะเป็นไปอย่างไรจากการโพสต์เฟซบุ๊กของคนสำคัญที่สนิทสนมและเป็นมือไม้สำคัญของทักษิณนั่นคือ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พูดถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่จะเป็นใคร โดยภูมิธรรมพูดทำนองว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมือง ความเป็นสถาบันการเมืองสมาชิกต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของพรรค ไม่ใช่การชี้นำของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และการเลือกผู้นำพรรคต้องเป็นไปตามข้อบังคับของพรรค ทุกอย่างผ่านกระบวนการประชาธิปไตยภายในพรรค
ส่วนที่ถามว่าจะมีหัวหน้าพรรคจะมาจากตระกูลชินวัตรหรือไม่นั้น ภูมิธรรมบอกว่าพรรคมีบุคลากรที่มีศักยภาพมีประสบการณ์การบริหารประเทศ และมีความสามารถที่หลากหลายจำนวนมาก จึงเร็วเกินไปที่จะบอกว่าพรรคจะเลือกใครมาเป็นหัวหน้าพรรค
สิ่งที่ภูมิธรรมพูดนั้นคงต้องการจะบอกว่าพรรคเพื่อไทยนั้น มีความเป็นสถาบัน มีประชาธิปไตยในพรรค ไม่ใช่พรรคของครอบครัวชินวัตร ไม่ใช่ทักษิณจะเข้ามาชี้นำในพรรคได้ ซึ่งฟังแล้วดูดีสอดคล้องกับที่มวลชนและปัญญาชนซึ่งสนับสนุนพรรคพยายามเรียกพวกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตย
แต่เพื่อไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างที่ภูมิธรรมบอกจริงหรือ ไม่สามารถมีใครคนใดคนหนึ่งมาชี้นำบงการได้จริงหรือ ผมเชื่อว่าไม่มีใครเชื่อ อย่าว่าแต่มวลชนฝ่ายตรงข้ามเลย มวลชนของพรรคเองก็คงจะไม่เชื่อเช่นกัน เพราะสิ่งที่ภูมิธรรมพูดนั้นขัดแย้งกับความเป็นจริงที่สังคมรับรู้ว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของทักษิณ ตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และมาจนถึงพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน อย่าว่าแต่ใครเลยแม้กระทั่งภูมิธรรมเองคนเขาก็มองว่าเป็นคนสนิทของทักษิณและตระกูลชินวัตร ซึ่งหมายถึงเด็กในคาถาของทักษิณนั่นเอง
กระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ภูมิธรรมจะพูดเช่นนี้ ใครล่ะจะไปยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยเป็นของทักษิณ ใครจะเป็นหัวหน้าพรรคต้องให้ทักษิณเป็นคนกำหนด เพราะมันจะขัดแย้งกับสิ่งที่พยายามเรียกพวกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยไง ถ้าไปยอมรับว่าในพรรคก็ไม่มีประชาธิปไตยมันก็จะจบเห่ตั้งแต่ต้นแล้วเอาไปหลอกใครไม่ได้อีก
ส่วนความจริงก็รู้กันว่าใครจะมีตำแหน่งอะไรในพรรค ใครจะได้เป็นรัฐมนตรีถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลคนที่ตัดสินก็คือทักษิณคนเดียวเท่านั้น
ลองดูสิว่าสมชาย วงศ์สวัสดิ์มาจากไหน ยิ่งลักษณ์จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไรถ้าไม่ใช่เพราะเป็นน้องสาวทักษิณ อย่าว่าแต่คนในตระกูลเลยถามหน่อยว่าสมัคร สุนทรเวช แม้จะเป็นคนนอกตระกูลนั้นมาอย่างไร ถ้าไม่ใช่ฉันทานุมัติของทักษิณ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องลับที่จะปกปิดได้ แต่เป็นเรื่องที่ประจานทนโท่อยู่แล้วว่าไม่มีประชาธิปไตยในพรรคเพื่อไทย
ส่วนหัวหน้าพรรคคนต่อไปหรือปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 จะเป็นสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือไม่ว่าใครคนหนึ่ง คนที่มีอำนาจตัดสินจริงก็คือ ทักษิณนักโทษหนีคดีซึ่งเป็นผู้มีบารมีนอกกฎหมายของพรรคนั่นเอง
ข้อที่อ้างว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยของพรรคเพื่อไทยก็คือ ชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากเท่านั้นเอง แต่ประชาธิปไตยมันไม่ได้มีความหมายว่าแค่ชนะการเลือกตั้งก็พอ แต่มันต้องเป็นมาตั้งแต่กระบวนการบริหารในพรรค ในพรรคนั้นมีเสรีภาพไหม มีสิทธิที่จะเลือกใครมาเป็นหัวหน้าพรรคจริงๆ หรือ แล้วยังรวมไปถึงเมื่อได้เสียงข้างมากแล้วใช้เสียงข้างมากอย่างชอบธรรมหรือไม่ ใช้เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือของประเทศหรือไม่ หรือใช้เสียงข้างมากเพื่อบุคคลหรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง
ประชาธิปไตยจึงไม่ใช่แค่บอกว่าพวกกูเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่มันแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมด้วยว่า อำนาจที่ประชาชนมอบให้นั้นมันใช้ไปเพื่อประชาชนหรือไม่ การใช้เสียงข้างมากลักหลับตอนตีสี่เพื่อลบล้างความผิดให้ทักษิณนั้น เป็นความชอบธรรมของการใช้เสียงข้างมากในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ ถ้าคิดได้ว่าไม่ใช่นั่นแหละจึงจะเข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริง แล้วจะคิดได้ทันทีว่าที่ประชาชนเขาออกมาขับไล่นั่นต่างหากคือประชาธิปไตยที่แท้จริง
ประชาชนเขาไม่ได้ออกมาขับไล่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเพราะเขาไม่เอาประชาธิปไตย แต่เขาไล่เพราะพรรคเพื่อไทยบิดเบือนประชาธิปไตยนั่นเอง
แต่ความพยายามสร้างให้ตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยนั้นกลับเริ่มด้วยการกล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐประหารเรียกร้องทหารให้ออกมาโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่โดยเนื้อแท้แล้วประชาชนเขาออกมาโค่นล้มรัฐบาลที่ใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม แต่รัฐบาลที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยก็จัดการกับประชาชนที่ออกมาชุมนุมด้วยการปล่อยให้มีกลุ่มคนติดอาวุธเข้ามายิงทำร้าย และสังหารประชาชนที่ออกมาชุมนุมขับไล่ตัวเอง ซึ่งเป็นพฤติกรรมของฝ่ายลุแก่อำนาจยิ่งกว่าเผด็จการเพราะไม่สนใจชีวิตของเพื่อนมนุษย์ที่เห็นต่าง และไม่สนขื่อแปของบ้านเมือง ลองคิดดูสิว่านี่เป็นพฤติกรรมของฝ่ายประชาธิปไตยเช่นนั้นหรือ
จุดขายอีกอย่างหนึ่งของพรรคเพื่อไทยที่พยายามอ้างว่าตัวเองเป็นฝ่ายประชาธิปไตยก็คือ การรวบรวมคนที่เคยออกมาต่อสู้ในเดือนตุลาคม 2516 และ 2518เอาไว้ซึ่งรวมถึงภูมิธรรมด้วย เพราะตอนที่คนพวกนี้เป็นคนหนุ่มสาวนั้น เขาต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยจากครอบครัวของจอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลประภาส จารุเสถียร ที่ปกครองด้วยรูปแบบเผด็จการเพราะได้อำนาจมาจากการยึดอำนาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ก่อนจะลี้ภัยเข้าป่าจับปืนเพื่อโค่นล้มสังคมกับพรรคคอมมิวนิสต์เพราะถูกกระแสขวาจัดกวาดต้อน
แต่เราเอาอดีตมาการันตีคนโดยไม่ดูพฤติกรรมในปัจจุบันได้หรือ เป็นที่รู้กันว่าสิ่งที่หลอมรวมคนเหล่านี้ให้เข้ามารวมกันได้ก็คือ เงินของทักษิณนั่นเอง แม้วันนี้พรรคของทักษิณจะได้รับอำนาจมาจากการชนะการเลือกตั้งในหลายครั้ง แต่พฤติกรรมที่ใช้อำนาจเพื่อแก้กฎหมายเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทตัวเอง การสร้างนโยบายเพื่อเอาเงินของรัฐไปซื้อเสียงจากคนรากหญ้ามันเป็นการสร้างชาติอย่างยั่งยืนและเป็นความชอบธรรมของพรรคที่ได้เสียงข้างมากจากการเลือกตั้งจริงๆ หรือ การไม่มีแม้แต่เสรีภาพในพรรค สิ่งเหล่านี้มันไม่กระตุกอุดมการณ์ของคนเดือนตุลาที่ออกมาต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมกันและสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยเลยหรือ
ไม่ว่าในวันข้างหน้าพรรคเพื่อไทยจะยังอยู่เป็นพรรคบนถนนการเมืองไทยหรือไม่ แต่ที่ผ่านมานั้นมันไม่มีอะไรที่บอกได้เลยว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีกระบวนการประชาธิปไตยในพรรค เพราะแท้จริงแล้วก็รู้กันว่ามันถูกชี้นำด้วยทักษิณคนเดียว
ที่พูดมาทั้งหมดไม่ใช่ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยกลายเป็นสถาบัน มีประชาธิปไตยในพรรคและเป็นพรรคที่ดีนะครับ แต่เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ทำให้เชื่อในสิ่งที่ภูมิธรรมพูดออกมาได้เลย
ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan