อัยการยื่นเอกสาร 375 หน้าแถลงปิดคดี "ยิ่งลักษณ์" ไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวทำให้รัฐเสียหายนับแสนล้าน พ่วงแก๊ง "บุญทรง" โกงระบายข้าวจีทีจี ให้ศาลใช้ประกอบการพิจารณาและทำคำวินิจฉัย 25 ส.ค.นี้ ด้านคำร้องขอทุเลาอายัดทรัพย์ “ปู” คลังชี้แจงต่อศาลปกครองเรียบร้อย รอรวมข้อเท็จจริงส่งให้ตุลาการทำความเห็น คาดใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์ "บิ๊กป้อม" ย้ำใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก ในดูแลพื้นที่รอบศาลฎีกาฯวันชี้ชะตา"ยิ่งลักษณ์" 25 ส.ค. ไม่ห่วงมือที่สามสร้างความวุ่นวาย
วานนี้ (16 ส.ค.) นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หนึ่งในคณะทำงานอัยการคดีโครงการจำนำข้าว หมายเลขดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปล่อยปะละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว กระทั่งทำให้รัฐเสียหายนับแสนล้านบาท และคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 28 รายเป็นจำเลย ฐานทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี ว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะทำงานอัยการได้ยื่นคำแถลงปิดคดีทั้ง 2 คดีเป็นลายลักษณ์อักษรต่อองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ เป็นที่เรียบร้อย
โดยคำแถลงการปิดคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความยาว 211 หน้า ส่วนคดีนายบุญทรง กับพวก มีความยาว 165 หน้า รวม 2 สำนวน ยาว 376 หน้า เนื่องจากทั้ง 2 คดีมีความสัมพันธ์ เกี่ยวพันกัน จึงได้ยื่นคำแถลงปิดคดีพร้อมกันเลย
สำหรับรายละเอียดคำแถลงการณ์ปิดคดีในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นการสรุปประเด็นข้อพิพาทว่า มีประเด็นใดบ้าง ที่มีการสืบพยานที่มาผ่านมาว่าตรงไหนรับฟังได้มากน้อย แค่ไหนอย่างไร หักล้างกันได้อย่างไร ซึ่งการแถลงปิดคดีก็เพื่อให้ศาลมองประเด็นที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำเสนอมา เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งในวันที่ 25 ส.ค.นี้ คณะทำงานอัยการพร้อมจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาทั้ง 2 คดีด้วย
***คาด2สัปดาห์รู้ผลคำขอทุเลาอายัดทรัพย์
นายสมชาย งามวงศ์ชน โฆษกศาลปกครอง เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองครั้งที่ 2 หลังจากกระทรวงการคลังให้กรมบังคับคดี เริ่มดำเนินมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินบัญชีเงินฝาก ว่า หลังจากได้รับเอกสารคำชี้แจงจากผู้ถูกฟ้องเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์คณะฯ จะรวบรวมเอกสารข้อเท็จจริง เพื่อส่งให้ตุลาการผู้แถลงคดีร่วมตรวจดูและทำความเห็นส่วนตน ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และเมื่อตุลาการผู้แถลงคดีได้ทำความเห็นส่วนตนเสนอองค์คณะฯแล้ว ถ้าองค์คณะฯมีคำสั่งยกคำร้องการขอทุเลาของผู้ฟ้อง คำสั่งของศาลปกครองกลางนี้ก็จะถือเป็นที่สุดอุทธรณ์ไม่ได้ แต่สามารถยื่นคำร้องได้ใหม่หากเกิดเหตุใหม่ แต่ถ้าศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาอย่างหนึ่งอย่างใด คู่ความที่ไม่เห็นด้วยสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้
ส่วนประเด็นคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังจะตัดสินวันที่ 25 ส.ค.นี้ จะมีผลต่อการพิจารณาคดีปกครองในศาลปกครองหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ถ้าประเด็นในคดีอาญามีข้อที่เกี่ยวข้องกับประเด็นพิจารณาในคดีปกครองก็สามารถหยิบยกมาพิจารณาได้ ตัวอย่างคดีอาญาการสลายม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ศาลยกฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนายตำรวจ แต่ในส่วนคดีปกครองที่ศาลปกครองเคยตัดสินให้หน่วยงานรัฐชดใช้ค่าสินไหมกับผู้ชุมนุมที่ได้รับความเสียหายนั้น ก็พิจารณาว่าการกระทำนั้นเกิดจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่
***"บิ๊กป้อม" ย้ำใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการดูแลพื้นที่โดยรอบศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันพิพากษาตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่า จะใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก โดยจะเข้าไปพูดกับทางศาลฎีกาฯ ว่าจะให้ช่วยดูแลจุดใดบ้าง จะต้องทำอย่างไรบ้าง ยืนยันว่าไม่ได้มีการรายงานด้านการข่าวอะไรเป็นพิเศษ
สำหรับการประเมินจำนวนมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจนั้น คาดว่าจะมีประมาณหลักพันคน ส่วนกรณีที่อาจมีทั้งฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายไม่สนับสนุนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดูแลไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยเรื่องมือที่สาม ที่จะเข้ามาก่อเหตุสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายนั้น ก็มีมาตรการป้องกันอยู่แล้ว แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะมีมือที่สาม
วานนี้ (16 ส.ค.) นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หนึ่งในคณะทำงานอัยการคดีโครงการจำนำข้าว หมายเลขดำ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีปล่อยปะละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว กระทั่งทำให้รัฐเสียหายนับแสนล้านบาท และคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 28 รายเป็นจำเลย ฐานทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี ว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะทำงานอัยการได้ยื่นคำแถลงปิดคดีทั้ง 2 คดีเป็นลายลักษณ์อักษรต่อองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ เป็นที่เรียบร้อย
โดยคำแถลงการปิดคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความยาว 211 หน้า ส่วนคดีนายบุญทรง กับพวก มีความยาว 165 หน้า รวม 2 สำนวน ยาว 376 หน้า เนื่องจากทั้ง 2 คดีมีความสัมพันธ์ เกี่ยวพันกัน จึงได้ยื่นคำแถลงปิดคดีพร้อมกันเลย
สำหรับรายละเอียดคำแถลงการณ์ปิดคดีในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นการสรุปประเด็นข้อพิพาทว่า มีประเด็นใดบ้าง ที่มีการสืบพยานที่มาผ่านมาว่าตรงไหนรับฟังได้มากน้อย แค่ไหนอย่างไร หักล้างกันได้อย่างไร ซึ่งการแถลงปิดคดีก็เพื่อให้ศาลมองประเด็นที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายนำเสนอมา เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งในวันที่ 25 ส.ค.นี้ คณะทำงานอัยการพร้อมจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาทั้ง 2 คดีด้วย
***คาด2สัปดาห์รู้ผลคำขอทุเลาอายัดทรัพย์
นายสมชาย งามวงศ์ชน โฆษกศาลปกครอง เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งทางปกครองครั้งที่ 2 หลังจากกระทรวงการคลังให้กรมบังคับคดี เริ่มดำเนินมาตรการยึดอายัดทรัพย์สินบัญชีเงินฝาก ว่า หลังจากได้รับเอกสารคำชี้แจงจากผู้ถูกฟ้องเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์คณะฯ จะรวบรวมเอกสารข้อเท็จจริง เพื่อส่งให้ตุลาการผู้แถลงคดีร่วมตรวจดูและทำความเห็นส่วนตน ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และเมื่อตุลาการผู้แถลงคดีได้ทำความเห็นส่วนตนเสนอองค์คณะฯแล้ว ถ้าองค์คณะฯมีคำสั่งยกคำร้องการขอทุเลาของผู้ฟ้อง คำสั่งของศาลปกครองกลางนี้ก็จะถือเป็นที่สุดอุทธรณ์ไม่ได้ แต่สามารถยื่นคำร้องได้ใหม่หากเกิดเหตุใหม่ แต่ถ้าศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาอย่างหนึ่งอย่างใด คู่ความที่ไม่เห็นด้วยสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้
ส่วนประเด็นคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังจะตัดสินวันที่ 25 ส.ค.นี้ จะมีผลต่อการพิจารณาคดีปกครองในศาลปกครองหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ถ้าประเด็นในคดีอาญามีข้อที่เกี่ยวข้องกับประเด็นพิจารณาในคดีปกครองก็สามารถหยิบยกมาพิจารณาได้ ตัวอย่างคดีอาญาการสลายม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ศาลยกฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนายตำรวจ แต่ในส่วนคดีปกครองที่ศาลปกครองเคยตัดสินให้หน่วยงานรัฐชดใช้ค่าสินไหมกับผู้ชุมนุมที่ได้รับความเสียหายนั้น ก็พิจารณาว่าการกระทำนั้นเกิดจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่
***"บิ๊กป้อม" ย้ำใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการดูแลพื้นที่โดยรอบศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันพิพากษาตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ว่า จะใช้กำลังตำรวจเป็นหลัก โดยจะเข้าไปพูดกับทางศาลฎีกาฯ ว่าจะให้ช่วยดูแลจุดใดบ้าง จะต้องทำอย่างไรบ้าง ยืนยันว่าไม่ได้มีการรายงานด้านการข่าวอะไรเป็นพิเศษ
สำหรับการประเมินจำนวนมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจนั้น คาดว่าจะมีประมาณหลักพันคน ส่วนกรณีที่อาจมีทั้งฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายไม่สนับสนุนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดูแลไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยเรื่องมือที่สาม ที่จะเข้ามาก่อเหตุสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายนั้น ก็มีมาตรการป้องกันอยู่แล้ว แต่ตนคิดว่าไม่น่าจะมีมือที่สาม