ศาลปกครองสูงสุดไฟเขียวรัฐระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน หลังกลับคำสั่งศาลปกครองกลางที่คุ้มครองบริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ชี้ คำสั่งรัฐยกเลิกขายข้าวเหตุเอกชนขาดคุณสมบัติ ไม่มีผลโดยตรงกับธุรกิจ แค่อาจขาดผลกำไร ที่บริษัทสามารถใช้สิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ ซ้ำที่ศาลปกครองกลางสั่งระงับกระบวนการประกวดราคา เป็นการออกคำสั่งเกินอำนาจศาล
วันนี้ (11 ส.ค.) ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองกลาง ที่มีคำสั่งกำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาในคดีที่บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ฟ้อง คณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐ และกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 - 4 กรณีการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ใน 2 คดี เป็นยกคำขอตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 ยื่นอุทธรณ์
โดยคดีแรกเป็นคดีที่ บริษัท ที พี เค เอทานอล จำกัด ฟ้องขอให้เพิกถอนผลการพิจารณาการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ครั้งที่ 1/2560 ลงวันที่ 13 มิ.ย. 60 ที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ที่ 1 กับพวกรวม 4 ให้บริษัท ที พี เค เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการเสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาล และให้ทำสัญญากับซื้อขายข้าวสารกับบริษัท ที พี เค และก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับทางปกครองของกรมการค้าต่างประเทศที่ประกาศให้บริษัท ที พี เค เป็นบริษัทที่ขาดคุณสมบัติในการเสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐ โดยศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า คำสั่งที่ให้บริษัท ที พี เค ขาดคุณสมบัติในการเสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐ และยกเลิกการจำหน่ายข้าวสารให้แก่บริษัท ที พี เค ไม่มีผลโดยตรงทำให้ธุรกิจของบริษัท ที พี เค ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากยังมีวัตถุดิบอื่นที่สามารถใช้ผลิตเอทานอลแทนข้าวได้เพียงแต่อาจขาดผลกำไรซึ่งบริษัท ที พี เค อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้รัฐรับผิดชดใช้ การให้คำสั่งดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไปจึงไม่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขภายหลัง เงื่อนไขแห่งการที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองจึงไม่ครบถ้วนตามข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ที่ศาลจะมีคำสั่งได้ จึงมีคำสั่งกลับคำสั่งของศาลปกครองกลาง
ส่วนคดีที่บริษัท ที พี เค ฟ้องคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ที่ 1 กับพวกรวม 4 ขอให้เพิกถอนประกาศการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนครั้งที่ 2/2560 ที่ระบุให้บริษัท ที พี เค ไม่ผ่านคุณสมบัติการประกวดราคาหรือเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ เพิกถอนการประกวดราคาและการเข้าทำสัญญากับผู้อื่นนอกจากบริษัท ที พี เค โดยศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งกำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ให้กรมการค้าต่างประเทศซึ่งเป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ระงับกระบวนการประกวดราคา การเข้าทำสัญญาใดๆ ระหว่างกรมการค้าต่างประเทศผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 กับบุคคล หรือนิติบุคคลรายอื่น รวมทั้งการดำเนินการตามสัญญาไว้ชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น ศาลปกครองสูงสุด เห็นว่า ความเดือดร้อนเสียหายของบริษัท ที พี เค ที่อาจฟ้องขอให้ศาลเพิกถอน หรือเรียกค่าเสียหาย ย่อมได้แก่กรณีที่มีคำสั่งให้บริษัท ที พี เค ไม่ผ่านคุณสมบัติการประกวดราคาจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐ และบริษัท ที พี เค มีสิทธิเพียงขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีเท่านั้น ไม่อาจมีคำขอเกินเลยไปถึงกระบวนการอื่นๆ ต่อจากนั้นได้ ศาลไม่มีอำนาจออกคำสั่งตามคำขอของบริษัท ที พี เค จึงมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองกลาง