รองนายกฯ เมินตอบ “ยิ่งลักษณ์” อุทธรณ์คดีตาม รธน.ใหม่ได้หรือไม่ บอกพูดไปเท่ากับชี้นำ อันตราย โดยไม่ต้องชุมนุมเลยด้วยซ้ำ ระบุ “ภรรยาบุญทรง” ถูกยึดทรัพย์ ด้วยมีข้อสันนิษฐานว่ามีการยักย้ายถ่ายเทหรือไม่
วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนไม่ได้ฟังคำแถลงปิดคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังนั้นจึงไม่มีความเห็นเรื่องนี้ ตนนั่งทำงานทั้งวันไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่มีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้อ้างว่านายกรัฐมนตรีชี้นำคดีนั้นตนไม่ทราบ สื่อก็รู้แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการตัดสินคดีวันที่ 25 ส.ค.ตามรัฐธรรมนูญใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถอุทธรณ์คดีได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ถ้าอุทธรณ์ก็แสดงว่าผิดแล้ว แสดงว่าสื่อเห็นว่ากรณีนี้ผิดแน่ๆ เชื่อว่าผิดใช่หรือไม่ แบบนี้แหละที่เรียกว่าคำถามชี้นำ แล้วถ้าผมไปเผลอตอบว่าคุณยิ่งลักษณ์สามารถอุทธรณ์ได้ก็เท่ากับผมไปชี้นำว่าผิด ซึ่งมันไม่ใช่แบบนั้น มันไม่ควรจะพูด เรื่องนี้อยู่ในศาล พูดแบบนี้มันอันตราย ถือว่าอันตรายโดยไม่ต้องไปชุมนุมเลยด้วยซ้ำ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางกรมบังคับคดีได้ตอบศาลปกครองไปเกี่ยวกับเรื่องการขอทุเลาคดีหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบว่าตอบไปหรือยัง แต่เขาต้องตอบอยู่แล้ว ไม่ตอบไม่ได้ ศาลถาม เมื่อถามถึงกรณีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ออกมาระบุว่าบัญชีของภรรยาถูกอายัดไปด้วย นายวิษณุกล่าวว่า ก็ไม่แปลกอะไร เพราะเมื่อใช้คำสั่งทางปกครองไปก็สามารถดำเนินการได้ คำสั่งทางการปกครองนี้เป็นคำสั่งที่มีมานานแล้ว และไม่ได้เพิ่งใช้กับคดีนี้เป็นคดีแรก พูดกันมาหลายหนแล้ว และการยึดหรืออายัดทรัพย์ที่พูดกันอยู่นี้ก็ไม่ได้ยึดตามมาตรา 44 แต่เป็นการยึดตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิด เพียงแต่มาตรา 44 เข้ามาเกี่ยวนิดเดียวคือให้กรมบังคับคดีเป็นคนทำหน้าที่ เพราะถ้าไม่ออกมาตรา 44 ให้กรมบังคับคดีทำหน้าที่ กระทรวงการคลังก็ต้องทำอยู่ดีตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด การที่กรมบังคับคดีเข้ามาทำก็เพราะทรัพย์จำนวนมากจึงต้องให้หน่วยงานที่เป็นมืออาชีพทำและทำตามที่ศาลสั่ง เป็นการยึดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง แต่ถ้าจำนวนเงินน้อยกระทรวงการคลังก็ทำเองได้อยู่แล้ว
นายวิษณุกล่าวต่อว่า กรณียึดทรัพย์ของภรรยาด้วยเข้าใจว่า เป็นการสืบทรัพย์ด้วยเหตุข้อสันนิษฐานอะไรบางอย่างว่ามีการยักย้ายถ่ายเทหรืออย่างไร เขาถึงต้องการยึดเพื่อที่จะฟรีซไว้ก่อน แต่กรรมสิทธิ์ยังไม่เปลี่ยนมือจนกว่าจะมีประกาศว่าทรัพย์สินนั้นเป็นของหลวงแล้วนำขายทอดตลาด เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีข่าวว่านายบุญทรงขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นชื่อของตัวเองไปหมดแล้ว รองนายกฯ กล่าวว่า ขนาดสื่อยังได้ข่าว นับประสาอะไรกับกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้นำสืบทรัพย์จะไม่ได้ข่าว เขาได้มากกว่าพวกคุณอีก