MGR Online - อัยการยื่นเอกสารแถลงต่อศาลปิดคดี “ยิ่งลักษณ์” ไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว และ"บุญทรง"ทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ทำให้รัฐเสียหายนับแสนล้านบาท เพื่อประกอบการพิจารณา และทำคำวินิจฉัย 25 สิงหาคมนี้
วันนี้ (16 ส.ค.) นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หนึ่งในคณะทำงานในคดีหมายเลขดำที่ อม.22/2558 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อายุ 50 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 กรณีปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว กระทั่งทำให้รัฐเสียหายนับแสนล้านบาท กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาทางคณะทำงานอัยการได้ยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรต่อองคณะศาลฎีกาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ทางคณะทำงานอัยการได้ยื่นแถลงปิดคดีสองคดีคือ คดีหมายเลขดำที่ อม.22/2558 ที่จำเลยคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคดีหมายเลขดำที่ อม.25/2558 ซึ่งเป็นคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ที่จำเลยคือนายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 28 ราย โดยคำแถลงการปิดคดีของนายบุญทรงนั้นมีความยาว 165 หน้า
ส่วนคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย มีความยาว 211 หน้า ในส่วนของคดีจำนำข้าวเรามีการยื่นสำนวนของการระบายข้าวที่มีนายบุญทรงเพิ่มประกอบไปด้วยเนื่องจากมีความเกี่ยวพันกัน ทำให้แถลงปิดคดีของคดีจำนำข้าวรวมแล้วเป็น 376 หน้า โดยรายละเอียดของแถลงการณ์ปิดคดีในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นการสรุปประเด็นข้อพิพาทว่ามีประเด็นใดบ้างที่มีการสืบพยานที่มาผ่านมาว่าตรงไหนรับฟังได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร หักล้างกันได้อย่างไร การแถลงปิดคดีก็เพื่อให้ศาลมองประเด็นที่คู่ความทั้งสองนำเสนอมาเพื่อประกอบการพิจารณาเพื่อทำคำวินิจฉัย ซึ่งในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ทางคณะทำงานอัยการที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดก็พร้อมจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาทั้งสองคดี
