ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ถือเป็นการพลิกกติกาบนกระดานการเมืองไทย ในเรื่องที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านฉลุย ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
มีเนื้อหาบัญญัติว่า ต่อจากนี้ให้อายุความสะดุดหยุดลง ถ้าจำเลยหลบหนี ไม่ให้นับระยะเวลาที่หลบหนีเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ และเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเผ่นหนีไปอีก คดีจะไม่หมดอายุความ ยังต้องเข้าไปนอนในมุ้งสายบัวเมื่อหวนกลับมา
เรียกว่า ดัดหลังปิดประตูตายทุกช่องทางสำหรับพวกศรีธนญชัย ถ้าจะหนีต้องหนีทั้งชีวิต
นักการเมืองรวมถึงนักวิชาการ วิเคาระห์ ฟันธงว่าสองคู่พี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และทักษิณ ชินวัตร อ่วมอรทัยจากกฎหมายลูกฉบับใหม่
ในทำนองว่า "ทักษิณ" แม้จงใจไม่กลับประเทศไทย แต่คงไม่รอด ต้องถูกเช็กบิลในคดีที่ศาลจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวต่อไปทันที ตามกฎหมายลูกตัวใหม่ คร่าวๆ มี 4 คดี รวมมูลค่าแต่ละคดีเบ็ดเสร็จมหาศาล หลายหมื่นล้านบาท
อีกคดีเก่าที่ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 2 ปีนั้น ถือว่าการหนีที่ผ่านมานั้นเรียกว่าหนีฟรี ไม่มีประโยชน์ เพราะดันไปเข้าง่ามเงื่อนไขไม่นับอายุความ สำหรับหรับนักโทษหนีคดี ส่วนนายหญิงปู ที่กำลังเผชิญชะตากรรมโกงจำนำข้าว อาจต้องเดินตามรอยเท้าของพี่ชาย หากหนี ต้องหนีจนแก่ตาย
เนื้อหากฎหมายมีข้อดีตรงที่ถูกใจคอซาดิสต์ ที่อยากเห็นบ้านเมืองปฏิรูป ขจัดคอร์รัปชันไม่ให้นักการเมืองโกงมีที่ยืน โดยเฉพาะพวกโกงบ้านกินเมืองที่เคยใช้ช่องโหว่ทางกระบวนการยุติธรรมดิ้นจนพ้นผิด จากนี้นักการเมืองบาป มีหนาวแน่
เป็นข้อดีวางยาแรงไว้ขจัดนักโกงเมืองขี้ฉ้อ
แต่ข้อเสียมันคลุมเครือตรงที่กฎหมายตัวนี้ไม่ชัดเจนเรื่อง "การนับโทษย้อนหลัง" ที่มิเคยปรากฏมาก่อน สรุปแล้วถูกหลักการหรือไม่ ขัดรัฐธรรมนญหรือเปล่า สนช.ผู้มีส่วนออกกฎหมายบางคนยังเเนะนำให้ใครสงสัยต้องไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ
หากมีคนบ้าไปร้องจริงๆ คงวุ่นวายเสียเวลาอีก !!!
นอกจากนี้ ยังถูกคนนินทาหมาดูถูก ฝ่ายจนเเต้มอย่างเครือข่ายเพื่อไทยออกมาตัดพ้อว่าไอ้พวกสนช.ลิ่วล้อรับงานมาพุ่งหอกใส่ คิดจะบีบคั้นกันให้ตายอยู่ฝ่ายเดียว ท่าทีของฝ่ายจนตรอกเครือข่ายนายใหญ่ จึงเป็นที่มาของข้อเสียอีกข้อหนึ่งคือ ทำลายเวทีการปรองดองที่รัฐบาลทำมาอย่างสิ้นซาก
เพราะเป็นกฎหมายที่อีกฝ่ายคิดว่า รัฐบาลเขียนขึ้นมาเล่นงานอย่างชัดเจน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ "ยิ่งลักษณ์”กำลังจะขึ้นศาล เพื่อสืบพยานในคดีโกงจำนำข้าวนัดสุดท้ายในวันที่ 21 ก.ค.
ซึ่งมันก็สุ่มเสี่ยงวัดใจมวลชนที่เป็นกองเชียร์จะแห่กันมาที่ศาลฎีกาฯ แม้วันนี้เรี่ยวแรงฝ่ายเพื่อไทยจะถอยร่นด้วยพิษของปัญหาท่อน้ำเลี้ยงจากการถูกเงื่อนตายของคสช.บีบรัดมาสามปี
ทว่าใครจะรับประกันจะไม่มีเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวให้ลุกลามบานปลาย
นอกจากนี้ ยังน่าเสียดายงบประมาณที่เทลงไปสำหรับเรื่องตามหาความสามัคดีของคนในชาติ ทั้งเรื่อง 4 คำถามของ “บิ๊กตู่”ที่กระทรวงมหาดไทยถลุงงบประมาณตีปี๊บไปบานตะโก้แห้ว
จริงอยู่ที่ ขื่อแปของชาติต้องเข้มข้น คนผิดต้องรับโทษทัณท์ โดยเฉพาะคนโกงต้องไม่ลอยนวล แต่การเลือกผ่านกฎหมายในห้วงเวลาที่อีกฝ่ายกำลังถูกศาลชี้ขาดสุ่มเสี่ยงเพลี่ยงพล้ำนั้นมันดูชอบกลอยู่
ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ใช่ไม่สนับสนุนกฎหมายแก้เผ็ดฉบับใหม่
เพราะเอาเข้าจริงๆ หากเดาใจคสช.ในฐานะผู้มีอำนาจ ที่กุมบังเหียนโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. กับเครือข่ายนักกฎหมายโคตรอภินิหาร คิดถึงเเค่ "ยิ่งลักษณ์ -ทักษิณ" หรือไม่
ฟันธงเลย ไม่ใช่ล้านเปอร์เซ็นต์ ตอบเลย “ยิ่งลักษณ์-ทักษิณ”เป็นผลพลอยได้
เป้าหมายที่แท้จริงของกฎหมายดังกล่าว เป็นการวางหมากกลซ้อนซ่อนปมที่จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือสำหรับรัฐบาลนายกฯคนนอก ในอนาคต ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวเต็งนอนมา
ชัดเจนว่า คสช.เดินหมากรุกอยู่ฝ่ายเดียวทั้งกระดานมาตลอดสามปี ไม่มีนักการเมืองกล้าขยับหืออือ ดังนั้น หากมองไปที่กลไก และกติกาใหม่ที่ออกมาแล้วถูกถล่มก่อนหน้านี้ อย่างร่างกฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี บวกกับกฎหมายแผนและขั้นตอนการฏิรูปประเทศ จะเห็นถึงความแยบยลสำหรับการวางโครงสร้างอำนาจและมือไม้
สมมติกฎหมาย3ฉบับนี้ ใช้ควบคู่กันจะทรงอานุภาพมากมายมหาศาล !!!
ทั้งรัฐธรรมนูญใหม่ และพ.ร.บ.ใหม่ สอดรับกันอย่างลงตัว โดยเฉพาะการใช้งบประมาณของรัฐบาลในอนาคต การแปรญัตติของส.ส.ในเรื่องงบกลาง ก็สุ่มเสี่ยงถูกชงเรื่องให้ศาลฟันหัวขาด
นักการเมืองต้องตกอยู่ภายใต้กฎเหล็กที่คสช.นั่งหัวขบวนกำกับการร่าง ถ้านักการเมืองแปรญัตติไม่ถูกใจ ห้าวเป้งไปเหยียบตาปลาผู้มีอำนาจ แล้วมีลิ่วล้อนักร้องยื่นเรื่องทุจริตจนคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ทุกอย่างมันก็เหมือนสุนัขโดนใส่ปลอกคอ
เป็นอีกนัยยะสำคัญคือ คสช.จ้องกำราบและกินรวบทั้งกระดานการเมือง วางแผนอยู่ยาวในสถานการณ์บ้านเมืองที่เต็มไปด้วยจุดเปราะบาง
เขียนกติกาวางหลักประกันอำนาจ โดยบีบนักการเมืองที่กระสันเลือกตั้งให้ต้องมาเล่นในกติกาที่กำหนดโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง
ก็ต้องถามใจนักการเมือง ยังอยากจะเล่นกันอีกไหม !!!
