ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ฆ่ายกครัว 8 ศพ งานนี้มืออาชีพ-เก็บงานเนียนกริ๊บ “ผบ.แป๊ะ” ลุยเอง เบาะแสเริ่มเข้าเค้า โยง “นายหัวคนดังเมืองชุมพร”
คดีสะเทือนขวัญฆ่ายกครัว 8 ศพ ซึ่งเป็นครอบครัวของ วรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง หมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ .. ตอนนี้เหลือปมสังหารที่เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักอยู่ 4 ประเด็น คือ 1.ขัดแย้งสร้างโรงโม่หิน 2.ปัญหายาเสพติดและธุรกิจสิ่งผิดกฎหมาย 3.ขัดแย้งรุกที่สาธารณะคลองตะเคียน และ 4.ปัญหาชู้สาว .. เท่าที่ติดตามดูเหมือนจะเทน้ำหนักไปให้ประเด็นแรก “ธุรกิจโรงโม่หิน” มากที่สุด กับตัวเงิน 50 ล้านที่การข่าวอ้างว่า “ผู้ใหญ่วรยุทธ” หอบไปเคลียร์ให้เปิดโรงโม่ แต่ผ่านไป 2 ปีก็ไม่สำเร็จสักที .. นอกเหนือจากมูลเหตุที่นำมาสู่การฆาตกรรมสยองครั้งแล้ว ร่องรอยของการสังหารยังถือว่าเป็นร่องรอยของ “มืออาชีพ” มีความ “ไม่ธรรมดา” ในหลายตจุด .. ทั้งการเดินโต้งๆเข้าไปในบ้านของผู้ตาย อดทนเป้ารอเป้าหมายอย่างใจเย็น แถมยังใช้อาวุธปืนขนาด .38 มม.ของ “ผู้ใหญ่วรยุทธ” จ่อยิงศีรษะสมาชิกในบ้านทีละคน ตั้งใจ “จัดฉาก” ว่าเป็นฝีมือของ “ผู้ใหญ่วรยุทธ” เอง .. แม้จะไม่สำเร็จ เพราะมีประจักษ์พยานที่รอดชีวิตให้การเป็นฉากๆ ไม่เท่านั้นยังควบเก๋งของผู้ตายเป็ฯพาหนะหลบหนี พร้อมกวาดหลักฐานในที่เกิดเหตุแบบเนียนกริ๊บ .. ยิ่งไม่ธรรมดาไปใหญ่ เมื่อ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ถึงกับต้องลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดคดีเองเป็นคำรบที่ 2 ในรอบ 3 วัน .. สำทับกับกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่มีเบาะแสสาวไปถึงซุ้มมือปืนของ “นักการเมืองคนดัง” ใน จ.ชุมพร ข่าวว่าเป็น “นายหัวคนดัง” ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา .. ส่วนจะเป็นนายหัวคนไหนรอให้เจ้าหน้าที่มาเฉลยดีกว่า แว่วว่าไม่นานเกินรอ
** ทำธุรกิจสไตล์ “เจ้าจำปี” ตั้งเรื่องซื้อเครื่องบินเป็นว่าเล่น พอขาดทุนมาเอางบประมาณแผ่นดินไปอุ้ม
มาตามนัด “เจ้าจำปี-การบินไทย” จัดแผนเครื่องบิน 28 ลำ ทดแทนเครื่องบินเก่าที่ปลดระวาง เพื่อให้ฝูงบินยังคงที่ 100 ลำ คาดสรุปได้ในเดือนหน้า ชง ครม.เห็นชอบปลายปีนี้ .. รวดเร็วทันใจต่างจากพวกผลสอบการทุจริต เงินสินบน หรือกระทั่งสรุปรายงานขาดทุนป่นปี้ .. กลายเป็นโปรเจคต์ของตาย เวลามีการสรรหา “ดีดีการบินไทย” แทบทุกงวด ที่ต้องตั้งเรื่องซื้อเครื่องบินคู่ขนานกันไป วาดฝันเพิ่มรายได้ ข้ออ้างเดิมๆ ที่ฟังไม่ค่อยจะขึ้น .. ย้อนกลับไปเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง การกู้เงิน Euro Commercial Paper หรือ ECP Programme ของกระทรวงการคลัง ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2560 แบ่งออกเป็น 3 งวดรวด งวดละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแปลงเป็นเงินไทยทั้งสิ้น 5,291,140,000 บาท อ่านว่า “ห้าพันกว่าล้านบาท” เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ .. นี่แหละการทำธุรกิจสไตล์เจ้าจำปี พอมีกำไรก็แจกผู้ถือหุ้น คนการบินไทยอยู่กันอย่างเทวดา พอขาดทุนมาเอางบประมาณแผ่นดินไปอุ้ม .. จริงไม่จริง วาน อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตอบที.
** เงื้อง่าราคาแพง กว่าจะลงดาบเชือด-เช็กบิลทุจริตเงินทอนวัด ศรัทธาศาสนาเสื่อม ศรัทธารัฐบาลทรุด
เรื่องอื้อฉาวเงินทอนวัด เป็นข่าวติดต่อกันนานแรมเดือน มีข้อมูลพาดพิงถึงทั้งภิกษุ-ฆราวาส โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่-ผู้บริหารใน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) .. แต่ดูท่าผู้เกี่ยวข้องเงื้อง่าราคาแพง กว่าจะขยับสางปมทุจริตนรกรับประทานกบาลแบบนี้ .. กับคำสั่งที่ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งลงนามโยกย้าย ประนอม คงพิกุล รอง ผอ.พศ. ที่มีชื่อเอี่ยวทุจริตเงินทอนวัดมาตั้งแต่ต้นให้ไปอยู่สำนักงาน กพ. ก่อนจะมากล่าวอย่างภูมิอกภูมิใจกับสื่อ "ถ้ามีมูลก็ย้ายจนได้" .. ทั้งที่ชื่อ “รองฯประนอม” อยู่ในสำนวนของกองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) มานานนม ไม่รู้ติดขัดอะไร กว่าเรื่องจะไปถึงนายกฯ .. แล้วก็ไม่ใช่ “รองฯประนอม” คนเดียว ในสำนวน บก.ปปป. พบว่าวัดที่เกี่ยวข้อง 12 วัด อยู่ในทุกภาคของประเทศ เงินที่เสียหายกว่า 60 ล้านบาท ตรวจไปตรวจมาก็ลามไปถึงกว่า 400 วัดทั่วประเทศ วัดดังๆก็หลายวัด รวมทั้งวัดของ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) บางรูปด้วย .. เครือข่าย “มารศาสนา” หยิบหยับขนาดนี้ แต่กระบวนการตรวจสอบอืดซะยิ่งกว่าอะไร จะไปจับได้ไล่ทันได้ยังไง .. แล้วถ้าจับ “รองฯประนอม” เป็นแพะบูชายัญคนเดียว มันก็ไม่สวยนะท่าน .. ที่น่าขันไปใหญ่ ก็ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เพิ่งสั่งการให้ ศอตช.เข้ามาช่วยตรวจสอบ .. เป็น “สุวพันธุ์” อดีต รมต.สำนักนายกฯ กำกับดูแล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสียด้วยซิ.
** สนช.ผ่านร่าง กม.อาญานักการเมืองใหม่ ยิงหมัดตรง “สองศรีพี่น้องชินวัตร”
สัญญาณชัดแจ๋ว เมื่อมติที่ประชุม สนช.เห็นชอบแบบเอกฉันท์ 176 เสียง ผ่านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง .. สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เปิดทางให้มีการพิจารณาคดี-ไต่สวนลับหลังจำเลย พร้อมด้วยปิดช่องหลบหนีคดีของเหล่า “คนดัง-ผู้อิทธิพล” ที่มักเลือกหนีคดีระหว่าง รอให้คดีขาดอายุความ แต่กฎหมายใหม่กำหนดว่า หากมีการหลบหนี ก็จะหยุดนับอายุความ .. เห็นว่าเขียนไว้ใน “บทเฉพาะกาล” ด้วยว่า ให้มีผลบังคับคดีเก่าที่ยังไม่ขาดอายุความด้วย .. นอกจาก “นักโกงเมือง”ที่ต้องร้อนๆหนาวๆแล้ว “สองศรีพี่น้องชินวัตร” ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร – ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็โดนเข้าเต็มๆ .. คนพี่มีคดีค้างอยู่ในศาลอาญานักการเมือง 5 คดีที่ยังไม่หมดอายุความ .. ส่วนคนน้องก็ร่ำๆว่าอาจจะสบช่องช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนศษลนักฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ติดปีกหนีตามไปอยู่กับ “พี่ชาย”.
ช.ชฎา
-----------
รูป
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา
สุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ
ทักษิณ ชินวัตร
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
** ฆ่ายกครัว 8 ศพ งานนี้มืออาชีพ-เก็บงานเนียนกริ๊บ “ผบ.แป๊ะ” ลุยเอง เบาะแสเริ่มเข้าเค้า โยง “นายหัวคนดังเมืองชุมพร”
คดีสะเทือนขวัญฆ่ายกครัว 8 ศพ ซึ่งเป็นครอบครัวของ วรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง หมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ .. ตอนนี้เหลือปมสังหารที่เจ้าหน้าที่ให้น้ำหนักอยู่ 4 ประเด็น คือ 1.ขัดแย้งสร้างโรงโม่หิน 2.ปัญหายาเสพติดและธุรกิจสิ่งผิดกฎหมาย 3.ขัดแย้งรุกที่สาธารณะคลองตะเคียน และ 4.ปัญหาชู้สาว .. เท่าที่ติดตามดูเหมือนจะเทน้ำหนักไปให้ประเด็นแรก “ธุรกิจโรงโม่หิน” มากที่สุด กับตัวเงิน 50 ล้านที่การข่าวอ้างว่า “ผู้ใหญ่วรยุทธ” หอบไปเคลียร์ให้เปิดโรงโม่ แต่ผ่านไป 2 ปีก็ไม่สำเร็จสักที .. นอกเหนือจากมูลเหตุที่นำมาสู่การฆาตกรรมสยองครั้งแล้ว ร่องรอยของการสังหารยังถือว่าเป็นร่องรอยของ “มืออาชีพ” มีความ “ไม่ธรรมดา” ในหลายตจุด .. ทั้งการเดินโต้งๆเข้าไปในบ้านของผู้ตาย อดทนเป้ารอเป้าหมายอย่างใจเย็น แถมยังใช้อาวุธปืนขนาด .38 มม.ของ “ผู้ใหญ่วรยุทธ” จ่อยิงศีรษะสมาชิกในบ้านทีละคน ตั้งใจ “จัดฉาก” ว่าเป็นฝีมือของ “ผู้ใหญ่วรยุทธ” เอง .. แม้จะไม่สำเร็จ เพราะมีประจักษ์พยานที่รอดชีวิตให้การเป็นฉากๆ ไม่เท่านั้นยังควบเก๋งของผู้ตายเป็ฯพาหนะหลบหนี พร้อมกวาดหลักฐานในที่เกิดเหตุแบบเนียนกริ๊บ .. ยิ่งไม่ธรรมดาไปใหญ่ เมื่อ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ถึงกับต้องลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดคดีเองเป็นคำรบที่ 2 ในรอบ 3 วัน .. สำทับกับกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่มีเบาะแสสาวไปถึงซุ้มมือปืนของ “นักการเมืองคนดัง” ใน จ.ชุมพร ข่าวว่าเป็น “นายหัวคนดัง” ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา .. ส่วนจะเป็นนายหัวคนไหนรอให้เจ้าหน้าที่มาเฉลยดีกว่า แว่วว่าไม่นานเกินรอ
** ทำธุรกิจสไตล์ “เจ้าจำปี” ตั้งเรื่องซื้อเครื่องบินเป็นว่าเล่น พอขาดทุนมาเอางบประมาณแผ่นดินไปอุ้ม
มาตามนัด “เจ้าจำปี-การบินไทย” จัดแผนเครื่องบิน 28 ลำ ทดแทนเครื่องบินเก่าที่ปลดระวาง เพื่อให้ฝูงบินยังคงที่ 100 ลำ คาดสรุปได้ในเดือนหน้า ชง ครม.เห็นชอบปลายปีนี้ .. รวดเร็วทันใจต่างจากพวกผลสอบการทุจริต เงินสินบน หรือกระทั่งสรุปรายงานขาดทุนป่นปี้ .. กลายเป็นโปรเจคต์ของตาย เวลามีการสรรหา “ดีดีการบินไทย” แทบทุกงวด ที่ต้องตั้งเรื่องซื้อเครื่องบินคู่ขนานกันไป วาดฝันเพิ่มรายได้ ข้ออ้างเดิมๆ ที่ฟังไม่ค่อยจะขึ้น .. ย้อนกลับไปเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง การกู้เงิน Euro Commercial Paper หรือ ECP Programme ของกระทรวงการคลัง ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2560 แบ่งออกเป็น 3 งวดรวด งวดละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแปลงเป็นเงินไทยทั้งสิ้น 5,291,140,000 บาท อ่านว่า “ห้าพันกว่าล้านบาท” เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ .. นี่แหละการทำธุรกิจสไตล์เจ้าจำปี พอมีกำไรก็แจกผู้ถือหุ้น คนการบินไทยอยู่กันอย่างเทวดา พอขาดทุนมาเอางบประมาณแผ่นดินไปอุ้ม .. จริงไม่จริง วาน อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ตอบที.
** เงื้อง่าราคาแพง กว่าจะลงดาบเชือด-เช็กบิลทุจริตเงินทอนวัด ศรัทธาศาสนาเสื่อม ศรัทธารัฐบาลทรุด
เรื่องอื้อฉาวเงินทอนวัด เป็นข่าวติดต่อกันนานแรมเดือน มีข้อมูลพาดพิงถึงทั้งภิกษุ-ฆราวาส โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่-ผู้บริหารใน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) .. แต่ดูท่าผู้เกี่ยวข้องเงื้อง่าราคาแพง กว่าจะขยับสางปมทุจริตนรกรับประทานกบาลแบบนี้ .. กับคำสั่งที่ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งลงนามโยกย้าย ประนอม คงพิกุล รอง ผอ.พศ. ที่มีชื่อเอี่ยวทุจริตเงินทอนวัดมาตั้งแต่ต้นให้ไปอยู่สำนักงาน กพ. ก่อนจะมากล่าวอย่างภูมิอกภูมิใจกับสื่อ "ถ้ามีมูลก็ย้ายจนได้" .. ทั้งที่ชื่อ “รองฯประนอม” อยู่ในสำนวนของกองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) มานานนม ไม่รู้ติดขัดอะไร กว่าเรื่องจะไปถึงนายกฯ .. แล้วก็ไม่ใช่ “รองฯประนอม” คนเดียว ในสำนวน บก.ปปป. พบว่าวัดที่เกี่ยวข้อง 12 วัด อยู่ในทุกภาคของประเทศ เงินที่เสียหายกว่า 60 ล้านบาท ตรวจไปตรวจมาก็ลามไปถึงกว่า 400 วัดทั่วประเทศ วัดดังๆก็หลายวัด รวมทั้งวัดของ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) บางรูปด้วย .. เครือข่าย “มารศาสนา” หยิบหยับขนาดนี้ แต่กระบวนการตรวจสอบอืดซะยิ่งกว่าอะไร จะไปจับได้ไล่ทันได้ยังไง .. แล้วถ้าจับ “รองฯประนอม” เป็นแพะบูชายัญคนเดียว มันก็ไม่สวยนะท่าน .. ที่น่าขันไปใหญ่ ก็ สุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เพิ่งสั่งการให้ ศอตช.เข้ามาช่วยตรวจสอบ .. เป็น “สุวพันธุ์” อดีต รมต.สำนักนายกฯ กำกับดูแล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสียด้วยซิ.
** สนช.ผ่านร่าง กม.อาญานักการเมืองใหม่ ยิงหมัดตรง “สองศรีพี่น้องชินวัตร”
สัญญาณชัดแจ๋ว เมื่อมติที่ประชุม สนช.เห็นชอบแบบเอกฉันท์ 176 เสียง ผ่านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง .. สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เปิดทางให้มีการพิจารณาคดี-ไต่สวนลับหลังจำเลย พร้อมด้วยปิดช่องหลบหนีคดีของเหล่า “คนดัง-ผู้อิทธิพล” ที่มักเลือกหนีคดีระหว่าง รอให้คดีขาดอายุความ แต่กฎหมายใหม่กำหนดว่า หากมีการหลบหนี ก็จะหยุดนับอายุความ .. เห็นว่าเขียนไว้ใน “บทเฉพาะกาล” ด้วยว่า ให้มีผลบังคับคดีเก่าที่ยังไม่ขาดอายุความด้วย .. นอกจาก “นักโกงเมือง”ที่ต้องร้อนๆหนาวๆแล้ว “สองศรีพี่น้องชินวัตร” ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร – ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็โดนเข้าเต็มๆ .. คนพี่มีคดีค้างอยู่ในศาลอาญานักการเมือง 5 คดีที่ยังไม่หมดอายุความ .. ส่วนคนน้องก็ร่ำๆว่าอาจจะสบช่องช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนศษลนักฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ติดปีกหนีตามไปอยู่กับ “พี่ชาย”.
ช.ชฎา
-----------
รูป
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา
สุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ
ทักษิณ ชินวัตร
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
