ข่าวปนคน คนปนข่าว
**“ทัพฟ้า”ไม่น้อยหน้า “บิ๊กป้อม”ชอปต่อเนื่อง สั่งซื้อเครื่องบินฝึก 8.8 พันล้าน เข้าคอลเลกชั่น คสช. ตาม“เรือดำน้ำ-รถถัง-ยานเกราะ”
ตั้งหน้าตั้งตาเสริมแสนยานุภาพต่อเนื่อง .. ข่าวว่าวันนี้ในที่ประชุม ครม. “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เตรียมเสนอโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้น แบบ ที-50 ทีเอช สัญชาติเกาหลีใต้ จำนวน 8 ลำ ของกองทัพอากาศ งบประมาณจิ๊บๆ 8.8 พันล้านบาท ผูกพัน 3 ปี .. เห็นว่าเป็นโครงการอนุมัติไปตั้งแต่ ต.ค.57 หรือ 5 เดือนหลัง คสช. เข้ามายึดอำนาจ วันนั้น ครม.อนุมัติไป 1 ฝูงบิน 16 ลำ แบ่งออกเป็น 3 เฟส เฟสแรกจัดไป 4 ลำ เซ็นสัญญาไปตั้งแต่ ก.ย. 58 เฟส 2 อีก 8 ลำ และเฟส 3 อีก 4 ลำ ดีดตัวเลขแล้วก็ได้ 1.1 พันล้านบาทต่อลำ หรือ 1.7 หมื่นล้าน ทั้งโครงการ เหตุผลไม่มีอะไรมาก เพื่อทดแทนเครื่องเก่าที่ใกล้ปลดประจำการ .. เอาเป็นว่า 3 ปีกว่าของ คสช. ก็จัดการเสริมแสนยานุภาพไปครบถ้วนทั้ง 3 เหล่าทัพ .. “ทัพบก”ก็ได้ “รถถัง-รถยานเกราะ” ที่รวมๆ แล้วก็หลักหมื่นล้าน .. ส่วน“ทัพเรือ”ได้ของหนักอย่าง “เรือดำน้ำจีน”3.6 หมื่นล้าน .. “ทัพอากาศ”แค่ฝูงเครืองบินฝึกหัดนี่ก็ปาไป 1.7 หมื่นล้าน .. โดยทั้งหมดเป็น “งบผูกพัน”ที่ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้ของ-จ่ายเงินกันครบถ้วน .. ก็ไม่ต้องสงกะสัยว่า ทำไมแต่ละปีกระทรวงกลาโหม ต้องตั้งงบประมาณแบบ “อัตราก้าวหน้า”กระเถิบแบบเนียนๆ ปีละหมื่นล้าน สองหมื่นล้าน ก็มันเป็น “งบผูกพัน”ทั้งน้านนนน
** มุกล่อ“บิ๊กตู่”ลงเลือกตั้งแป้ก “เพื่อไทย”งัดมุกใหม่ชง “ปฏิรูปกองทัพ”ยั่วตบะ“รัฐบาลทหาร”
มุกล่อ “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ลงจากหลังเสือ ไปแต่งตัวลงเลือกตั้งแป้กไปแล้ว แม้ว่าจะใช้ “มวยหลัก”อย่าง “หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาออกหน้าท้าทายด้วยตัวเอง .. แต่ฝ่าย “พรรคเพื่อไทย”ก็ยังพยายามต่อเนื่องในการ “แซะ”รัฐบาล คสช.อย่างต่อเนื่อง .. คราวนี้ส่งนักการเมืองรุ่นเก๋า อำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี มาโยนคำถามจี้ใจดำ กับการ “ปฏิรูปกองทัพ”ที่แทบไม่เคยมีการเอ่ยถึงเลยมาตลอด 3 ปีกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ “รัฐบาลทหาร”ถือธงการปฏิรูปทุกด้าน เข้ามายึดอำนาจ 22 พ.ค.57 .. ทิ่มหมัดตรงๆ ไม่มีรูปมวยอะไรว่า “รัฐบาลท๊อปบูต”มองทุกเรื่องเป็นปัญหา ทั้งการปฏิรูปการศึกษา การเมือง เกษตรกร งบประมาณ กระบวยการยุติธรรม บลาๆๆๆๆ แต่มิเคยเอื้อนเอ่ยถึงการปฏิรูปกองทัพ-ปฏิรูปทหาร .. ก็รู้ทั้งรู้ว่า “เป็นไปไม่ได้”ก็ยังจะออกมาพูดให้เปลืองน้ำลาย .. พอเข้าเค้าว่าไม่ได้หวังผล แค่ต้องยั่วตบะ “รัฐบาลทหาร”
ก็พอสิ้นเสียง “น้านวย” เท่านั้น “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่หลบอยู่หลังม่านอยู่นานสองนาน ก็โดดมาเล่นลูกตามน้ำ ชูจักรกะแร้หนุนการปฏิรูปกองทัพ พร้อมแถม “ลูกเสี้ยม”ด้วยว่า ทีการปฏิรูปตำรวจ ยังให้ “บิ๊กสร้าง”พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ที่สวมเครื่องแบบสีเขียวมาปฏิรูปสีกากีได้ .. วันใดวันหนึ่งมีการปฏิรูปสีเขียวบ้าง ก็น่าจะให้สีกากีมานั่งหัวโต๊ะบ้าง .. ทำเอา “คู่หูโทรโข่งทหาร” ทั้ง “นายพลไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ที่วันนี้เป็นทั้งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือโฆษกรัฐบาล หรือทาง “เสธ.ต๊อด”พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.ออกมาสวนขวับว่า ทุกวันนี้กองทัพก็มีการปฏิรูปตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องถึงมือบรรดาบิ๊กๆ มานั่งตอบ จบข่าว
** ผลงานดีก็ไม่ช่วยอะไร “นายกฯตู่”เซ็นฉับ เด้ง “ณรงค์ เขียดเดช”ผู้ว่าการทางพิเศษฯ ตามธง “บอร์ด กทพ.”
ลือกันอยู่นาน ที่สุดก็ไม่หักมุม .. เมื่อล่าสุด “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เซ็นย้าย “บังเหนียง” ณรงค์ เขียดเดช ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ไปปฎิบัติหน้าที่ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.60 ด้วยเหตุผลเพื่อให้การทำงานสะดวก-ราบรื่น .. หมายเหตุไว้นิดว่าเดิมตั้งเรื่องให้ใช้อำนาจมาตรา 44 ย้ายเหมือนกรณีเด้งผู้บริหารหน่วยงานอื่น แต่กลัลำมาเป็นคำสั่งปกติ โดยไม่ทราบเหตุผล .. เรื่องของเรื่องก็มาจากข่าวก่อนหน้านี้หลายเดือนที่ว่า “ผู้ว่าฯณรงค์” งัดข้อกับ “บอร์ด กทพ.” มาตลอด โดยทางบอร์ด กทพ.ที่มี พล.อ.วิวรรธน์ สุชาติ เป็นประธาน มีความพยายามหลายต่อต่อหลายครั้งในการเขี่ย "ณรงค์” ออกจากตำแหน่ง ทั้งแบบนุ่มนวลเกลี้ยกล่อม-หว่านล้อม จนถึงแบบฮาร์ดคอร์ ให้ “ผู้ใหญ่” เรียก “ณรงค์” เข้าห้องเย็นกล่อมให้สมัครใจเขียนใบลาออกเองด้วยซ้ำ .. ส่วนปิดห้องใคร-ใครปิดห้องนั้น อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กำกับดูแล กทพ. น่าจะเคยได้ข่าวมาบ้าง .. ก่อน บอร์ด กทพ.ที่จะมาสบช่องตั้งข้อหาขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. แต่การตั้งอนุกรรมการสอบสวนปมนี้ก็ยังไม่เรียบร้อย กระทั่งมีคำสั่งนายกฯออกมาแบบไม่รอผลให้สะเด็ดน้ำ .. ที่คำสั่งรีบออกแบบด่วนจี๋ก็เพราะ “บอร์ด กทพ.” ชุดนี้จะสิ้นวาระในวันที่ 13 ก.ค.นี้ หรืออีกไม่กี่วันข้างหน้า เลยชงเรื่องแบบรุกฆาตไปพร้อมกับตัวเองเลย .. ไม่แน่ใจว่า “นายกฯตู่” ผู้เซ็นคำสั่งจะทราบไหมว่า “ผู้ว่าฯณรงค์” ถูกตั้งข้อหาขาดคุณสมบัติ เพราะช่วงเดือน ม.ค. 2559 ที่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ.ดันยังไม่ลาออกจากผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ของ กทพ.ที่มีสถานะเป็น “นิติบุคคล” .. ตีความตามตัวบทกฎหมาย ก็น่าจะขัดคุณสมบัติอยู่ แต่หากดูในแง่ความเป็นจริง สหกรณ์ออมทรัพย์ก็เป็นหน่วยงานของ กทพ.เอง ไม่ได้เป็ฯคู่แข่ง-คู่เทียบอะไรที่ทำให้หน่วยงานเสียประโยชน์ .. แล้ว “นายกฯตู่” ผู้เซ็นคำสั่ง รู้ไหมว่าผลประเมินการทำงานตลอด 1 ปี 6 เดือน ของ “ผู้ว่าฯณรงค์” ที่ประเมินโดยบอร์ดที่มี “พล.อ.วิวรรธ์” เป็นประธานนั้นเข้าขั้น “ดีมาก” เอาแค่รายได้ของ กทพ.ในปี 2559 ส่งคืนคลังได้ถึง 6,300 ล้านบาท มากกว่าปี 2558 ในยุคผู้ว่าฯคนเก่าที่นำส่งได้ 3,200 ล้านบาท แค่เกือบ 1 เท่าตัว เรื่องพวกนี้ “นายกฯตู่” รู้ไหมน้าาาาา.
ช.ชฎา