รอยเตอร์ส - กระทรวงกลาโหมแดนมังกรเผย (1 ก.พ.) การจัดตั้ง “เขตการสู้รบ” (battle zone) แห่งใหม่ จำนวน 5 เขต ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปกองทัพ ที่ผู้นำสูงสุดตั้งใจกระทำอยู่ในเวลานี้
ความพยายามปฏิรูปกองทัพของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เกิดขึ้นพร้อมกับที่จีนกำลังแผ่ขยายอิทธิพลในพื้นที่พิพาท บริเวณทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ทั้งการทุ่มทุนด้านเรือดำน้ำและเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือ รวมถึงการพัฒนาเครื่องบินรบล่องหนของกองทัพอากาศ
แผนการปฏิรูปกองทัพประกอบด้วยการก่อตั้ง “โครงสร้างการบังคับบัญชาร่วมเชิงยุทธการ” ภายในปี พ.ศ.2563 การปรับปรุงกองทัพระดับภูมิภาคที่มีอยู่ และการตัดลดจำนวนทหารลง 300,000 นาย ในเดือนก.ย. ปีก่อน ซึ่งกลายเป็นเรื่องเซอร์ไพร์สไม่น้อย
ช่วงปลายปี พ.ศ.2558 สี จิ้นผิง ผู้ครองตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ได้เปิดม่านแนะนำ กองบัญชาการประจำกองทัพพีแอลเอ กองกำลังขีปนาวุธนำวิถี และกองกำลังสนับสนุนทางยุทธศาสตร์
หลายสัปดาห์ถัดจากนั้น สีได้ทำการแบ่งแยกกองบัญชาการกองทัพพีแอลเอจากเดิม 4 กองฯ ออกเป็น 15 หน่วยใหม่ ซึ่งรับผิดชอบภารกิจด้านต่างๆ อาทิ โลจิสติกส์ การพัฒนาอุปกรณ์ กิจการการเมือง และการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดในวานนี้ ซึ่งสื่อทางการจีนออกมาสะบัดธงส่งสัญญาณล่วงหน้า ก็เป็นการจัดเรียงกองทัพภาคเจ็ดแห่งครั้งใหม่ โดยลดทอนเหลือเพียง “เขตการสู้รบ” จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ เขตตะวันออก เขตตะวันตก เขตใต้ เขตเหนือ และเขตกลาง
แถลงการณ์ออนไลน์ของกระทรวงกลาโหมระบุว่า แต่ละเขตการสู้รบถือเป็น “โครงสร้างการบังคับบัญชาสู้รบร่วมระดับสูงสุด” ซึ่งประธานาธิบดีสีกล่าวว่า เขตฯ จะรับผิดชอบการตอบโต้ภัยคุกคามความมั่นคง การส่งเสริมสันติภาพ และการระงับกรณีขัดแย้ง
“เขตการสู้รบทั้งหมดต้องเชื่อฟังคำสั่ง และยืนยันความเป็นผู้นำของพรรคฯ อย่างไม่มีเงื่อนไข” สีกล่าว โดยสื่อทางการจีนเผยแพร่ภาพสีมอบธงแก่บรรดาผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของเขตการสู้รบ
หยัง อี่ว์จวิน โฆษกกระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์ออนไลน์อีกฉบับว่า จีนยังคงรักษาการดำเนินนโยบายป้องกันประเทศ นโยบายต่างประเทศ และการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จีนได้เร่งยกเครื่องความสามารถทางอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ยังเผชิญความท้าทายในการบูรณาการโครงสร้างกองบัญชาการ ที่ถูกจัดแบ่งตามภูมิภาคเดิมและมีความสลับซับซ้อน
การตัดลดกำลังพลครั้งใหญ่และการขยายวงปฏิรูปกองทัพ ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์และโต้แย้งขึ้นมา โดยหนังสือพิมพ์ของกองทัพถึงกับต้องออกมาเตือนกระแสต่อต้าน ขณะนายใหญ่สีลุยถอนรากถอนโคนการคอร์รัปชั่น ที่แผ่กิ่งก้านเรื้อรังในหมู่ผู้นำระดับสูงของกองทัพพีแอลเอ