xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.สส.สั่งเช็กทริป วสท.ทัวร์ยุโรปแล้ว ถ้าพบผิดให้เรียกคืนเงินหมด ย้ำปีนี้ใช้งบไม่มาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สั่งรอง ผบ.สส.เช็กทริป วิทยาลัยเสนาธิการทหาร ทัวร์ยุโรป ปี 59 จุดไหนไม่ถูกระเบียบ คาดใช้เวลาถึง 10 วัน ยันหลักสูตรตามมาตรฐานโลก พร้อมปฏิรูปตัวเอง ปรับปรุงแก้ไข อ้างอเมริกา อังกฤษ ไปดูกันทั้งทวีปเป็นเดือน ยันปีนี้ลดเวลาลงแล้ว ใช้งบไม่มาก ย้ำจำเป็นที่ทหารจะต้องเปิดหูเปิดตา แย้มถ้าพบผิดให้ลงโทษเรียกคืนเงินหมด

วันนี้ (16 มี.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงการวิพากษ์วิจารณ์การเดินทางไปดูงานทวีปยุโรปของนักศึกษาวิทยาลัยเสนาธิการทหาร (วสท.) กองบัญชาการกองทัพไทย ว่าการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศของนักศึกษาวิทยาลัยการทหารเป็นการใช้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน เมื่อมีเสียงทักท้วงก็จะมีการตรวจสอบ ได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.สุทธิพันธ์ กฤษณคุปต์ รอง ผบ.สส.ดูแลด้านการศึกษา ลงไปดูแลในรายละเอียดว่ามีประเด็นใดที่ทำไม่ถูกระเบียบหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลา 7-10 วัน เพราะเป็นเรื่องที่เกิดเมื่อปี 2559 และนักศึกษาหลายท่านก็ได้แยกย้ายไปทำงาน

พล.อ.สุรพงษ์ยังกล่าวอีกว่า หลักสูตรวิทยาลัยเสนาธิการทหารเป็นหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานสากลทั่วโลกก็มีคล้ายกัน และเป็นโอกาสที่เปิดให้นายทหารจากกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศมาศึกษาร่วมกันเพื่อให้มีความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน ถือเป็นโอกาสที่สำคัญเพราะเป็นการคัดเลือกนายทหารไม่ถึง 100 นายจากนายทหารเกือบพันคนในระดับพันเอกเข้ามา

“ผมจะให้มีการตรวจสอบรายละเอียดเพราะว่าหลักสูตรในลักษณะนี้และไปดูงานที่เป็นทางการจะมีเงื่อนไขว่าไม่ให้เผยแพร่ข้อมูล ดังนั้นข้อมูลส่วนใหญ่จึงไม่ได้ออกมามากนัก และภาพที่ออกมาเป็นภาพช่วงเวลาพักผ่อนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งไปเที่ยว ซื้อของ แล้วดูฟุตบอล ล่องเรือ ต้องรอให้มีการตรวจสอบในเรื่องรายละเอียดและจะชี้แจงให้ทราบอีกครั้งเพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะเป็นช่วงของการปฏิรูป กองทัพก็จะต้องปฏิรูปตัวเองและปรับปรุงทบทวนว่าอะไรที่ทำมาจากปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ในปีนี้เราได้มีการปรับปรุงเรื่องของการดูงานซึ่งลดระยะเวลาลงเพื่อใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและจะมีการทดลองประเมินผลต่อไป” พล.อ.สุรพงษ์กล่าว

พล.อ.สุรพงษ์ยังชี้แจงอีกว่า วิทยาลัยเสนาธิการทหารจะเดินทางไปดูงานในหลายภูมิภาคโดยการหมุนเวียนกันไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ การจัดทำเอกสารและยุทธศาสตร์ต่างๆ จะมีความหลากหลาย ในต่างประเทศก็มีการดูงานในลักษณะนี้ เช่น หลักสูตรของประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ไม่ได้ดูงานแค่ 10 วันเหมือนของเรา แต่ใช้เวลาเป็นเดือนไปครั้งหนึ่งก็จะดูทั้งทวีป และมีการกระจายกันออกไป แต่เนื่องจากว่าเราเป็นประเทศที่เศรษฐกิจไม่ได้เข้มแข็ง และอยู่ในระดับปานกลาง จึงดูประมาณ 10 วัน ถือเป็นข้อสังเกตที่มีความสำคัญ และเราก็ไปตรวจสอบว่ามีการใช้งบประมาณที่คุ้มค่า ประหยัดเพียงพอหรือไม่ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงทบทวนก็จะดำเนินการต่อ

พล.อ.สุรพงษ์ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศในปี 2560 นี้ โดยจะมีคณะกรรมการของสถาบันศึกษาต่างๆ ได้พูดคุยกันอยู่แล้ว โดยในปีนี้เราให้น้ำหนักในเรื่องของการดูงานในประเทศอาเซียนบวกสาม เพราะเป็นช่วงที่มีความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในภูมิภาค จึงมีความจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางใกล้และระยะเวลาก็ลดลงมาเหลือไม่ถึง 10 วัน และคงใช้งบประมาณไม่มาก

เมื่อถามว่า เลิกดูงานในต่างประเทศได้หรือไม่ พล.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า การดูงานในต่างประเทศต้องดูมาตรฐานสากลว่าการศึกษาในหลักสูตรลักษณะเช่นนี้ทำอะไรกันบ้าง เราก็ต้องอยู่ในมาตรฐานที่ใกล้เคียง อาจจะจำกัดด้วยงบประมาณและระยะทางใกล้กว่า ในยุคนี้มีความจำเป็นที่ทหารจะต้องได้รู้ได้เห็นเพราะนายทหารของเราที่เติบโตขึ้นมาก็อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดตามชายแดน เมื่อมาเรียนโรงเรียนเสนาธิการเหล่าทัพ เมื่อขึ้นมาในระดับพันตรีก็จะได้เห็นประเทศรอบบ้าน และในระดับพันเอกก็จะมีส่วนหนึ่งที่มาเรียนหลักสูตรนี้จะได้รู้ได้เห็นมากขึ้น ถือเป็นแนวทางที่ปฏิบัติงานนานแล้วและเป็นไปตามสากล แต่อย่างไรก็ตาม เรามีการทบทวนการต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณที่คุ้มค่ามีความประหยัด

เมื่อถามว่า หากพบว่ามีการใช้จ่ายงบประมาณไม่คุ้มค่ามีบทลงโทษหรือไม่ พล.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า การใช้งบประมาณทางราชการมีกฎระเบียบชัดเจน ถ้าใครทำอะไรผิดระเบียบก็จะมีการลงโทษอยู่แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ หากมีใครทำอะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องลงโทษซึ่งก็มีในหลายๆ งานที่มีความบกพร่อง มีการลงโทษโดยการเรียกเงินคืนทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการทหารสูงสุดได้ทำเอกสารชี้แจงรายละเอียดของหลักสูตรวิทยาลัยเสนาธิการทหาร ว่าเป็นหลักสูตรทางทหารระดับสูงที่รับนายทหารสัญญาบัตรระดับพันเอกขึ้นไปจากกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ตลอดจนข้าราชการพลเรือนและภาคเอกชน โดยที่ผ่านการคัดเลือกจากหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อเตรียมให้มีความพร้อมในการเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง เสริมวิสัยทัศน์ ความสัมพันธ์ทางทหาร และรับผิดชอบการดำเนินงานในระดับยุทธศาสตร์ เมื่อผ่านการศึกษาแล้วให้สามารถเป็นผู้นำของหน่วยงานในอนาคตหรือเป็นผู้บริหารหน่วย จึงต้องกำหนดหลักสูตรในการสร้างภาวะผู้นำ ทั้งด้านยุทธศาสตร์ทหาร และการปฏิบัติการร่วม เพื่อให้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจทางทหาร ที่สำคัญในภาพรวมของกองทัพไทย มีระยะเวลาการศึกษา 12 เดือน

สำหรับหลักสูตรการศึกษาจะมีทั้งการศึกษาในห้องเรียน การศึกษาเป็นกลุ่ม การทำวิทยานิพนธ์ ทั้งนี้การดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ใช้ระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น มีลักษณะเช่นเดียวกับหลักสูตรของหลายประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างโอกาสให้แก่ผู้นำองค์กรรุ่นใหม่ นำประสบการณ์ที่ได้รับไปพัฒนาใช้ในหน่วยงานของตนเอง รวมทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนการดูงานในต่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ วิทยาลัยเสนาธิการทหารกำหนดไปศึกษาดูงานในภูมิภาคต่างๆ เพื่อศึกษาสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงที่ครอบคลุมในหลายมิติ ได้แก่ ภูมิศาสตร์ สังคมจิตวิทยา เศรษฐกิจ การเมือง การทหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาจัดทำยุทธศาสตร์ทหารรองรับยุทธศาสตร์ชาติ ร่วมกับนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร และนักศึกษาจากวิทยาลัยการทัพทุกเหล่าทัพ อันจะนำไปสู่การจัดทำแผนแม่บทการปฏิรูปการบริหารจัดการปรับปรุงโครงสร้างกองทัพให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้การเดินทางไปดูงานแต่ละครั้ง มีความเข้มงวดจริงจัง สำหรับในปี 2560 การเดินทางไปดูงานของนักศึกษาเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทุกหน่วยต้องใช้งบประมาณอย่างประหยัด โดยให้ไปดูงานกลุ่มประเทศอาเซียนบวก 3 เท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น