หลังจากมีข่าวซื้อขายตำแหน่งตำรวจในภาคใต้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งด่วนย้ายพล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในทันที
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่งออกหมายเรียกอาจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์และพ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เข้ารับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากการขึ้นพูดในเวทีเสวนา “ตำรวจไทย มีไว้ทำอะไร” โดยเปิดโปงการซื้อขายตำแหน่งและการรับส่วยของตำรวจ
การซื้อขายตำแหน่งในแวดวงตำรวจ จริงหรือไม่จริง คนไทยทั้งประเทศรู้กันดี แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ประชาชนทั้งประเทศคือ เหตุใดจึงไม่มีรัฐบาลชุดไหนรู้
และทำไมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่ปรารถนาจะรับรู้ ทำไมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงมักจะออกมาแก้ต่างแทนตำรวจ
ไม่เคยมี ผบ.ตร.คนไหน ออกมายอมรับการซื้อขายตำแหน่ง มีแต่ ผบ.ตร.ที่ออกมาปฏิเสธข่าว และแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวคนที่ออกมาเปิดโปง
แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะแก้ตัวอย่างไร ในคำสั่งย้ายด่วนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับข่าวฉาวโฉ่ซื้อขายตำแหน่ง
เพราะคำสั่งย้ายด่วน เกิดขึ้นภายหลังจากที่นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ประกาศจะนำตัวนายตำรวจที่จ่ายเงินซื้อตำแหน่ง เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์เพื่อให้ข้อมูล
การย้ายผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นการยอมรับใช่ไหมว่า มีการซื้อขายตำแหน่งจริง และคำสั่งย้าย เป็นการฆ่าตัดตอนเพื่อดับกระแสการเปิดโปงการซื้อขายตำแหน่งที่กำลังลุกโชนขึ้นอีกครั้งหรือไม่
ภารกิจในการเขย่าวงการสีกากี นายวิทยาบรรลุความสำเร็จไปแล้ว เพราะตำรวจสะเทือนทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แต่นายวิทยาประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ในการเรียกความสนใจจากพล.อ.ประยุทธ์ เพราะยังไม่มีท่าทีตอบรับใดๆ จากผู้นำประเทศ
ทั้งที่การซื้อขายตำแหน่ง เป็นบ่อเกิดแห่งการทุจริตในวงการตำรวจ เป็นต้นตอของการประพฤติมิชอบ เป็นต้นเหตุของการรับส่วย และทำให้ตำรวจละเว้นหรือเลือกปฏิบัติ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทุกหย่อมหญ้า
พล.อ.ประยุทธ์อาจจะอยู่ในช่วงเวลา “เข้าเงียบ” ไม่พูดไม่จากับนักข่าว แต่ไม่มีเงื่อนไขใดที่จะไม่ติดต่อสนทนากับนายวิทยา ซึ่งกำ “ใบเสร็จ” การซื้อขายตำแหน่งของตำรวจอยู่ในมือ และพร้อมจะนำใบเสร็จมากางให้พล.อ.ประยุทธ์ดู
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์มีความตั้งใจที่จะปราบการทุจริต ต้องการกวาดล้างข้าราชการที่ประพฤติมิชอบ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปตำรวจ จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะปฏิเสธการขอเข้าพบของนายวิทยา เพื่อหอบหลักฐานและพยานเอกสารซื้อขายตำแหน่งของตำรวจมาแสดง
แต่จนถึงขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังเงียบ ไม่มีกระแสข่าวว่าให้ความสนใจกับการเปิดโปงปัญหาการซื้อขายตำแหน่งในแวดวงตำรวจแต่อย่างใด ปล่อยให้ตำรวจชิงเปิดยุทธการฆ่าตัดตอน เพื่อดับกระแสการซื้อขายตำแหน่งไปก่อนหน้า
ต้องถามกองเชียร์พล.อ.ประยุทธ์กันแล้ว เหนื่อยบ้างไหมกับการลุ้นให้พล.อ.ประยุทธ์แก้ปัญหา ล้ากันหรือไม่กับการเอาใจช่วยรัฐบาลทหาร และท้อกันหรือยัง สำหรับการสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ก้าวขึ้นมาเป็นวีรบุรุษ
เพราะ 3 ปีแล้ว สังคมไทยยังไม่กลับสู่ความสงบสุข 3 ปีผ่านไปภายใต้ยุค คสช. ปัญหาใหญ่ๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาตำรวจ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์แทบไม่แตะเลย
พล.อ.ประยุทธ์กับตำรวจ จะเปรียบเหมือนงูเห็นเชือกกล้วยหรือเปล่าหนอ เพราะมีปัญหาเรื่องตำรวจทีไร พล.อ.ประยุทธ์พูดเสียงติดอยู่ในลำคอทุกครั้ง
เช่นเดียวกัน การเปิดโปงการซื้อขายตำแหน่งครั้งล่าสุด จนสร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ใบเสร็จการซื้อขายที่นายวิทยา “กำ”ไว้ ในที่สุดคงต้องขยำทิ้งไป
เพราะพล.อ.ประยุทธ์ไม่อยากดู ไม่อยากรับรู้ว่าตำรวจซื้อขายตำแหน่ง และไม่อยากแก้ปัญหาใดๆ ของตำรวจทั้งสิ้น
ประเทศนี้ก้มหน้าทนอยู่กันไปวันๆ แล้วกัน อย่าริอ่านหวังอัศวินม้าขาวเข้ามาช่วยปัดเป่าทุกข์ให้ประชาชน