ผบ.ตร.สั่งขยายผลแก๊งเปรี้ยวค้ายา จัดทีมล่า"ไอ้เก้า"

"จักรทิพย์" สั่งตรง "สมหมาย กองวิสัยสุข" ผบช.ปส. ประสานข้มมูลพื้นที่ ขยายผล "แก๊งเปรี้ยวหั่นศพ" พัวพันขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จี้เอ็กซเรย์ทุกพื้นที่เข้มทุกด่านทั่วประเทศ ด้าน ปปส. ประสานพม่า เร่งล่า"ไอ้เก้า" หนึ่งในหัวหน้าแก๊งค้ายา ที่พาสามสาวหลบหนี ขณะที่ บช.ปส. พบเงินในบัญชี "เอิร์น" สะพัดผิดปกติ

วานนี้ (7 มิ.ย.) นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึง ความคืบหน้าการแลกเปลี่ยนหมายจับ 19 นักค้ายาเสพติด ที่หลบหนีหมายจับระหว่างไทยกับพม่า ว่า ในส่วนของไทยมีผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับไป18 ราย หนึ่งในนั้นคือนายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ"เก้า" ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่หลบหนีระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาลอุทธรณ์ และมาปรากฏชื่อว่า เป็นผู้ให้การช่วยเหลือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ 3 ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม ที่หลบหนีไปทำงานในร้านคาราโอเกะ ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก

นอกจากนี้ ยังมีรายชื่อนักค้ายาเสพติดอื่นๆ ที่หลบหนีหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปรากฏในบัญชีรายชี่อของป.ป.ส. อาทิ พ.ท.ยี่เซ หรือ นายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล นางฟอง ปทุมมณี นางสุชาดา ทวยภา และ นายวีระ หมื่นจะตา เป็นต้น

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า สำหรับนักค้ายาเสพติดที่หลบหนีคดีนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึก พบว่า หลายคนเข้าไปลงทุนทำธุรกิจอยู่ในฝั่งพม่า พื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก และใกล้เคียง โดยประกอบธุรกิจ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ ซึ่งคนเหล่านี้บางครั้งอาจจะลักลอบเข้ามาในเขตประเทศไทย ตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้ตนได้หารือกับ พล.ต.จัตวา อ่อง วิน อู ผบ.ตร.เมียนมา ในฐานะเลขาธิการ ป.ป.ส.เมียนมาแล้ว และได้รับการตอบรับที่ดี

**ผบ.ตร.ขยายผล"เปรี้ยว"พัวพันค้ายา

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จึงให้กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และพื้นที่ประสานข้อมูลกัน เบื้องต้นได้ทราบข้อมูลจาก กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (บช.ภ.4) ว่า น.ส.ปรียานุช ไม่ได้เป็นขบวนการใหญ่ แต่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องมีการขยายผล บูรณาการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ถ้าหากพบข้อมูล หรือความผิดเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม ขณะเดียวกันก็ให้สืบสวนติดตาม นายธวัชชัย อ้อมชมภู หรือ เก้า อายุ 29 ปี ผู้ที่พาผู้ต้องหาหนีด้วย

"ผมได้สั่งให้พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ตรวจสอบ ปราบปราม กวาดล้าง พร้อมเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะยาเสพติด ไม่ได้มีแค่ภาคใดภาคหนึ่ง โดยเฉพาะ จ.ขอนแก่น เป็นเส้นทางผ่านภาคอีสาน ต้องเข้มงวด ต้องมีการสกัดกั้นทุกด่าน ตั้งแต่ด่านชายแดนมุกดาหาร หนองคาย และ นครพนม" ผบ.ตร. กล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึง กรณีสื่อออนไลน์ ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมานั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ในเชิงเข้าข้างน.ส.เปรี้ยว และพวก ว่า ผบ.ตร. ไม่ได้ปกป้องผู้ต้องหา และมีประสบการณ์ในการทำงานด้านการสืบสวนมาเป็นเวลานาน ไม่มีความจำเป็นต้องนำเกียรติของตน มาแลกกับการปกป้องผู้ต้องหาอย่างแน่นอน จึงขอประชาชนให้ใช้วิจารณญาณและชั่งน้ำหนักในการรับข่าวสาร

** พบเงินบัญชี"เอิร์น"สะพัดผิดปกติ

แหล่งข่าวจาก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เปิดเผยว่า ทางบช.ปส. กำลังสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติด ที่ให้การช่วยเหลือ 3 ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ หลบหนีไปตามสถานที่ต่างๆใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยพบว่าบุคคลที่ให้การช่วยเหลือน.ส.ปรียานุช มีรายชื่ออยู่ในบัญชีเครือข่ายค้ายาเสพติดของตำรวจ บช.ปส.

"บุคคลดังกล่าวเป็นเครือข่ายระดับกลาง อาศัยอยู่แถบภาคอีสาน แต่ยังไม่ชัดเจนว่า การเข้ามาให้การช่วยเหลือ น.ส.ปรียานุช กับพวกหลบหนี มีความสัมพันธ์กันในลักษณะใด อาจเป็นแขกที่มาใช้บริการ หรือเป็นคนที่นำมายาเสพติดมาส่งให้น.ส.ปรียานุช เพื่อจำหน่ายในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลว่า น.ส.ปรียานุช กับพวก เกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดแบบใด" แหล่งข่าว กล่าว

ส่วน น.ส.กวิตา หรือเอิร์น หนึ่งในผู้ต้องหา มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเป็นล้านบาทต่อเดือนนั้น ยอมรับว่าผิดปกติแน่นอน โดยยืนยันว่า หากขยายผลพบว่าเงินเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือพัวพันกับการค้าเสพติด จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม และอายัดทรัพย์สินดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ มีรายงานว่านายธวัชชัย หรือ "เก้า" อายุ 29 ปี ชาว ต.บ้านใหม่ อ.เมืองฯ จ.ปทุมธานี ที่ถูกศาลจังหวัดปทุมธานี และศรีสะเกษ ออกหมายจับ ในคดียาเสพติด ถูกระบุว่าเป็นผู้ที่พาน.ส.ปรียานุชกับพวก หลบหนีไปตามสถานที่ต่างๆใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาซึ่งทางการไทยได้ประสานไปยังทางการเมียนมา เพื่อให้ช่วยติดตามตัวแล้ว แต่ยังไม่มีการพบตัวนายเก้า แต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลในเชิงลึกว่า ความสัมพันธ์ของนายธวัชชัย กับผู้ต้องหาทั้งสามสาว เป็นทั้งคู่ค้าส่งยา และ คู่ขาบริการ โดยก่อนหน้าที่ ทั้งสามสาวจะมุ่งหน้าไป ท่าขี้เหล็กนั้น ได้โทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือจากนายธวัชชัย โดยเลือกที่จะเลือกฝากชะตากรรมไว้ในมือของ "เอเย่นยานรก" แทนจะหนีไปฝั่งลาวร่วมกับ นายวศิน นามพรหม หรือ นิว ผู้ต้องหาชายอีกคนหนึ่งที่เป็นคนขับรถ ซึ่งต่อมาถูกทางการสปป.ลาวจับกุมตัวส่งมาให้

ด้านพล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก. สส.ภ.4 เปิดเผยว่า ได้มีการประสานข้อมูลร่วมกับบช.ปส. และ ปปส. ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และการเข้าไปมีส่วนพัวพันกับยาสเพติด ของผู้ต้องหากลุ่มนี้ โดยเฉพาะน.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว ผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนในประเด็นดังกล่าวทั้งหมด ขณะเดียวกัน ก็ต้องสืบสวนสอบสวนจากผู้ใกล้ชิดกับผู้ต้องหาด้วยเช่นกัน

พล.ต.ต.ยรรยง กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบสารเสพติดของผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว พบเพียงน.ส.อภิวันทน์ หรือ แจ้ เพียงคนเดียวที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า เสพมาจากประเทศเมียนมา โดยประเด็นดังกล่าวได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมแต่รายละเอียดต่างๆ นั้นไม่สามารถเปิดเผยได้

**ขอครีมกันแดด แป้งผัดหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจคุมตัวแก๊งสาวฆ่าหั่นศพไปฝากขังยังเรือนจำกลางขอนแก่น โดย "เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้" ถูกคุมขังผ่านพ้นคืนที่ 2 มาแล้ว ซึ่งต่อมา พี่สาวของ เอิร์น ได้ไปขอเยี่ยมน้องสาว และพูดคุยประมาณ 5 นาที ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า เอิร์นบอกว่าวันเกิดเหตุไปเที่ยวผับอยู่ พอออกมาจากผับ ก็เจอกลุ่ม ของเปรี้ยว เข้าพอดี ซึ่งเปรี้ยว บอกให้ขึ้นรถ เดี๋ยวจะพาไปส่งที่บ้าน แต่สุดท้ายกลับพาไปร่วมหอลงโลงในคดี ตนจึงบอกให้น้องยอมรับ พลาดไปแล้วก็ต้องยอมรับผิด ทำตัวให้ดีๆ รอให้ข่าวซากว่านี้ ถึงจะพาครอบครัวคนอื่นๆ มาเยี่ยม

"น้องของหนูที่จริงเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง และติดเพื่อนมาก เขาพลาดเพราะคบเพื่อนผิด เขาบอกว่า นอนคุกมา 2 คืน ถูกแยกขังเดี่ยวในแดนหญิง นอนร้องไห้ตลอด สลับกับคิดมากจนเครียด แต่เขาบอกให้หนูไม่ต้องกังวล เขากำลังปรับสภาพจิตใจอยู่ คราวหน้าหากจะมาไม่ต้องเอาเงินมาให้ เพราะยังไงก็ไม่ได้ใช้ ขอเป็นเครื่องสำอางดีกว่า เช่น ครีมกันแดด แป้งผัดหน้า ดินสอเขียนคิ้ว " พี่สาวเอิร์น กล่าว