รู้จัก “กลุ่มว้าแดง” แหล่งผลิตยาเสพติดรายใหญ่นับล้านเม็ด ที่ “บังรอน” ซุกหัวนอน มาถึงวันนี้ ว่ากันว่า สามสาว “เปรี้ยว - เอิร์น - แจ้ง” หนีคดีฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” ไปพึ่งใบบุญที่นู่น
การคลี่คลายคดีที่ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ น้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวคาราโอเกะที่ถูกฆ่าหั่นศพ และจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ได้แก่ นายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี และ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ อายุ 21 ปี
ส่วนอีก 2 ราย ได้แก่ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว อายุ 24 ปี และ น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น อายุ 25 ปี ออกจากชายแดนด้านแม่สาย จ.เชียงราย ไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ของพม่า ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา
และพบว่า บัตรผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอร์เดอร์พาส หมดอายุไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค. โดยออกนอกประเทศ พร้อมกับ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ง อายุ 28 ปี
กระทั่งมีรายงานว่า ได้ไปพักพิงอยู่กับ “กลุ่มว้าแดง” โดยก่อนหน้านี้ไปอาศัยร้านคาราโอเกะที่ชื่อว่า “สตาร์เทรค คาราโอเกะ” ซึ่งบริหารงานโดยกลุ่มว้าแดง แล้วออกไปเมื่อ 28 พ.ค.
หลายคนคงสงสัยว่า “ว้าแดง” เป็นใคร เกี่ยวข้องกับสองสาวอย่างไร?
ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดน ตรงข้าม อ.เมืองฯ จ.แม่ฮ่องสอน ขึ้นไปจนถึงพื้นที่ตรงข้าม จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย มีชนกลุ่มน้อยจำนวนหลากหลายกลุ่มยึดครองพื้นที่อยู่บนพื้นที่รัฐฉาน
ได้แก่ กลุ่มว้าอิสระ (WNA), กลุ่มกองทัพกู้ชาติแห่งรัฐฉาน (SSA), กลุ้มว้าแดง (UWSA), กลุ่มกองทัพรัฐฉานใต้ (SSS) มีโรงงานผลิตยาเสพติด นับสิบโรง ทั้งขนาดเล็ก กลาง และ ขนาดใหญ่
เป็นแหล่งผลิตยาเสพติด ส่งเข้ามาจำหน่ายในไทย และใช้ไทยเป็นทางผ่าน เพื่อส่งไปยังประเทศที่ 3 ทั้งในกลุ่มโซนอเมริกา, เอเชีย และยุโรป
เงินที่ได้จากการจำหน่ายยาเสพติดจำนวนมหาศาล ส่วนใหญ่เป็นเงินบำรุงกองทัพของชนกลุ่มน้อย และรวมไปถึงการจ่ายส่วย ทำให้ยาเสพติดจำนวนมาก ยังคงทะลักเข้าสู่ไทย จนปราบปรามไม่หวาดไม่ไหว
โรงงานผลิตยาบ้าของชนกลุ่มน้อยแต่ละแห่ง มีขีดความสามารถในการผลิตเฮโรอีน และยาบ้า แต่ละโรงงานผลิตยาบ้าได้มากถึง 1 ล้านเม็ดต่อหนึ่งวัน รวมวันละมากถึง 7 ล้านเม็ด
ข้อมูลจากกองกำลังผาเมือง ระบุว่า ต้นทุนในการผลิตยาบ้าของชนกลุ่มน้อยเหล่านี้เพียงแค่เม็ดละ 10 บาท ขายปลีกเม็ดละ 25 บาท แต่เมื่อการลำเลียงเป็นไปด้วยความลำบาก ต้องหลบหนีตำรวจและทหาร ราคาขายจะสูงขึ้นตกเม็ดละ 50 บาท
เมื่อไปถึง จ.เชียงใหม่ จะขายกันในราคาต้นทุนเม็ดละ 80 บาท ก่อนที่จะถูกลำเลียงผ่านช่องทางต่างๆ หากสามารถเข้าถึงกรุงเทพฯ ได้ ราคาขายจะสูงถึงเม็ดละ 180 - 200 บาท และถ้าส่งไปถึงภาคใต้จะมีราคาถึงเม็ดละ 300 บาท
ทุกวันนี้เราจะเห็นสารพัดวิธีลำเลียง ที่ตำรวจและทหารมักจะตามจับกุมตัวได้ เป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ตามจังหวัดภาคเหนือลงมาถึงกรุงเทพฯ บางครั้งยังเห็นบนเส้นทางภาคใต้ก็มี
ในส่วนของ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน มีแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ รู้จักกันดีในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืนและผู้เสพยาไอซ์ คนในวงการและนักเล่นยาจะเกรงกลัวอิทธิพลอย่างมาก
“เปรี้ยว ปรียานุช” ถือเป็นหนึ่งในแขนขาของแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ สามีเป็นผู้ค้ายาเสพติด ถูกจับกุมในปี 2559 พร้อมกับผู้ต้องหาอีกหลายราย
และเมื่อทราบว่า “น้องแอ๋ม วริศนา” เป็นสายให้กับตำรวจ นำข้อมูลของเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติและขบวนการค้ายาเสพติดใน จ.ขอนแก่น ไปแจ้ง
กลุ่มนายทุนและเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด จึงไม่พอใจและมีคำสั่งตรงมาถึง “เปรี้ยว ปรียานุช” ซึ่งเป็นผู้วางแผนก่อเหตุทุกขั้นตอน
การหายตัวไปของสามสาว “เปรี้ยว - เอิร์น - แจ้ง” คงไม่ต่างไปจาก “นายสุรชัย เงินทองฟู หรือ บังรอน” อาชญากรค้ายานรกรายใหญ่ ก่อเหตุชักปืนยิงใส่ตำรวจที่ตั้งด่านเมื่อปี 2541 แล้วคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย
บังรอนไปอาศัยอยู่กับ “เว่ย เซียะ อิง” น้องชายของ “เว่ย เซียะ กัง” ราชายาเสพติดชาวว้าแดง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังต้องการตัวไปลงโทษ และถูกตั้งค่าหัวแพงที่สุดถึง 1 ล้านบาท
แม้จะมีความเป็นไปได้ที่ 3 สาวแก๊งฆ่าหั่นศพน้องแอ๋มจะอยู่ในชะตากรรมของกลุ่มว้าแดง แต่ใครจะเชื่อว่า การเข้าไปอยู่อาศัยในกลุ่มว้าแดง จะมีชีวิตสุขสบายหรือไม่
เพราะชนกลุ่มน้อยที่ตั้งหน้าตั้งตาผลิตยาเสพติดอย่างเอาเป็นเอาตาย อยู่ในธุรกิจสีดำสนิท อยู่ในสภาวะไร้รัฐ ไร้ขื่อแป หากทั้ง 3 สาวหมดประโยชน์ กลายเป็นภาระให้กับกลุ่มว้าแดง ที่นานาชาติจับตามองอยู่
ชีวิตพวกเขาอาจเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับว่าหวยจะออกแบบไหนแค่นั้น!