“3 สวยจิตโหด” เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้ ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพ "น้องแอ๋ม" ยังลอยนวล! เบาะแสชี้ชัด หนีไปกบดาน "ท่าขี้เหล็ก" ดินแดนแห่งธุรกิจมืดแหล่งยักษ์ใหญ่ ล่าสุด รอดเงื้อมมือตำรวจไปได้ คาดขาใหญ่หนุน วิจารณ์วุ่น อยากตามรอย "คดีอีเปรี้ยวบงการ" ให้ทัน ต้องรู้จักพื้นที่สีดำแห่งนี้ให้ดี และนี่คือการขุดเจาะทุกเบื้องลึกมุมโฉด บนพื้นที่แห่งการอำพรางคนผิด!!
*** แฉวิธีการกบดาน
คดี “ฆ่าหั่นศพ” น้องแอ๋ม-วาริสรา กลิ่นจุ้ย สาวร้านคาราโอเกะที่ จ.ขอนแก่น กลายเป็นที่สนใจอย่างมากของสังคม อาจเป็นเพราะอีเปรี้ยว-ปรียานุช โนนวังชัย พร้อมพวกอีก 2 คนที่ถูกกล่าวหาเป็น“ฆาตกร” นั้น หากมองดูผิวเผินก็เป็นเพียงหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาสะสวยไม่น่าจะสามารถลงมือได้โหดเหี้ยมถึงขนาดนี้
ถ้าทบทวนคำให้การของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ซึ่งระบุชัดว่าแรงจูงใจให้เกิดฆาตกรรมครั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่ “แอ๋ม” ผู้ตายไปให้ข้อมูลกับตำรวจว่า เปรี้ยวและแฟนอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติด และหลังเกิดเหตุทั้ง 3 ก็หนีไปกบดานที่ จ.ท่าขี้เหล็ก สหภาพเมียนมาร์ มิติมืดอีกแห่งหนึ่งของโลก ที่รวมแหล่งการค้าผิดกฎหมายทุกรูปแบบที่นี่จึงปลอดภัยต่อคนสีเทา
ดังนั้น การหนีไปท่าขี้เหล็ก ของ“3 สวยจิตโหด” จึงสรุปได้ว่าไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะหากเป็นเพียงสาวคาราโอเกะที่ใสซื่อก็คงไม่ยากกับการจับกุม แต่นี่เวลาล่วงเลยมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้วเจ้าหน้าที่ไทยและพม่าก็ยังไม่สามารถจับกุมคนทั้ง 3 ได้เลย
หลังก่อเหตุ ทั้ง เปรี้ยว และ เอิญ ได้ทำ บัตรผ่านแดนชั่วคราว หรือบอร์เดอร์พาสหลบหนีข้ามพรมแดนแม่สาย จ.เชียงราย เพื่อข้ามไปเป็นพนักงานที่ร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ ซึ่งอยู่ห่างจากพรมแดนแม่สาย 4 ก.ม. แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบกลับไม่พบตัวทั้ง 3 จึงเชิญผู้จัดการร้านพร้อมพนักงานสาวร้าน 8 คน มาสอบสวน โดยพนักงานร้านทั้งหมดให้การว่า พบเห็นทั้ง 3 คนเข้ามาพักที่ห้องพักภายในร้านตั้งแต่กลางคืนวันที่ 25 พ.ค. โดยอาศัยอยู่จนถึงช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ค. จากนั้นช่วงบ่ายวันเดียวกันทั้ง 3 คนได้หายตัวไปโดยไม่ทราบว่าไปอยู่พื้นที่ใด
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เมียนมากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางหลบหนี ซึ่งพบว่ามีหลายเส้นทางทั้งถนนอาร์สามบี ขึ้นไปทางทิศเหนือสู่บ้านท่าเดื่อ-เมืองเชียงตุง และอีกเส้นทางไปทางทิศตะวันตกในเขตปกครองพิเศษที่ 2 ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มว้า ซึ่งคาดว่าจะทราบพื้นที่กบดานแหล่งใหม่ภายใน 1-2 วันนี้
สำหรับร้านคาราโอเกะแห่งนี้เดิมชื่อว่า ‘สตาร์แทรค คาราโอเกะ’ มีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวว้าแดงกลุ่มหนึ่งดูแลกิจการ แต่ช่วงหลังประสบปัญหาขาดทุน จึงขายกิจการให้ชาวไทยตั้งแต่เดือนม.ค.60 ก่อนเปิดเป็นร้านอาหารและคาราโอเกะ โดยนำสาวงามจากไทยไปเป็นพนักงาน รวมทั้ง แก๊งสวยหั่นศพ “เปรี้ยว-เอิญ-แจ้” ด้วย ล่วงเลยมา 3 วันแล้ว ข่าวคราวของ “เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้” ก็ยังเงียบฉี่ หลังหายไปจากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมา ตามที่สืบทราบว่าไปกบดานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
*** เจาะความมืดดำของท่าขี้เหล็ก
“ท่าขี้เหล็ก” ถือเป็นแดนสวรรค์ของคนสีเทา เพราะหนาแน่นไปด้วยร้านค้าของเถื่อนและบ่อนน้อยใหญ่ไม่ต่ำกว่า 4 แห่งที่ผุดขึ้นมารองรับนักพนันจากจีน ชนกลุ่มน้อยในพม่า ชาวพม่า และคนไทย ผู้ประกอบการบ่อนมีทั้งคนไทย พม่า และชนกลุ่มน้อย อาทิ บ่อนฮ่องลึก อยู่บริเวณบ้านหลวง เจ้าของเป็นชาวจีนฮ่อ เชื้อสายไทย, บ่อนปงถุน เจ้าของเป็นชาวพม่า บ่อนท่าล้อ เจ้าของเป็นชาวพม่าเชื้อสายจีน, บ่อนสันทรายเจ้าของเป็นชาวพม่า และบ่อนขนาดใหญ่คือ เรจินา เจ้าของเป็นอดีตนักการเมืองไทย วงการเรียกขานกันว่า “เฮีย ก” บ่อนแห่งนี้มีทั้งสนามกอล์ฟ ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว และห้างสรรพสินค้า
เป็นที่รู้กันดีอยู่ว่า “บ่อน” ถือเป็นธุรกิจคู่ขนาน “ยาเสพติด” โดยแหล่งข่าวชายแดน ระบุว่า กลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ที่นั่นมีความเกี่ยวพันธุ์กับชาติพันธุ์ทีมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติด มีเครือข่ายเกี่ยวกับธุรกิจร้านคาราโอเกะร่วมกัน มีรูปแบบจัดหาหญิงสาวจากฝั่งไทยให้ข้ามไปขายบริการเพราะบุคคลบางกลุ่มในประเทศเพื่อนบ้านมีกำลังซื้อสูง โดยหากสามารถนำหญิงสาวไปจากฝั่งไทย จะมีราคาสูงขึ้น จากคนละ 1,500-2,500
บาท เป็นกว่า 10,000-20,000 บาทต่อคน และเส้นทางหลบหนีต่อไปจากท่าขี้เหล็ก ก็มีเส้นทางที่จะไปยังเขตอิทธิพลของกลุ่มค้ายาเหล่านี้ได้
ดังนั้น การหายตัวไปในดินแดนที่รายล้อมไปด้วยบ่อนกาสิโน จึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “เปรี้ยว” จะไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
และหากคิดเชื่อโยงจากสมมติฐานด้านบน “เปรี้ยว” ผู้ลงมือฆ่า น่าจะเป็นข้อต่อคนสำคัญของคดียาเสพติด ไม่ใช่แค่คดีฆ่าหั่นศพ ดังนั้น การหายตัวไปของเปรี้ยวและพรรคพวก ก่อนที่จะถูกเข้าจับกุมเพียงนิดเดียว จึงน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะถ้าไม่ใช่การพาหนี ก็เป็นไปได้ว่า เปรี้ยวเป็นคนต่อมาที่ได้รับใบสั่งตายรายถัดจากน้องแอ๋ม
ถึงวันนี้หลายคนเฝ้าภาวนาให้เปรี้ยวปลอดภัย เพราะถ้าจับ “เปรี้ยว” ได้ก็คงเป็นหนังยาว ที่ต้องขยายผลต่อไปให้ถึงขบวนการใหญ่ต่อไป
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754