ตั้ง 4 ข้อหาฉกรรจ์ "เปรี้ยว แอนด์เดอะแก๊ง" ฆ่าคนตาย-ซ่อนอำพรางศพ-ปล้นทรัพย์-รับของโจร โทษหนักถึงประหาร เผยนาทีมรณะเจอคนตายโดยบังเอิญ จึงชวนขึ้นรถ ก่อนนำไปทำร้ายจนตายคามือ สารภาพเห็นจวนตัวศพเริ่มแข็ง จึงชำแหละเพื่ออำพรางหนีความผิด เปิดเส้นทางหนีหลังก่อคดี ขึ้นเครื่องบินตั้งหลักที่กรุงเทพฯ ก่อนไปทำงานบริการชายแดนเชียงราย รอข้ามแดน เชื่อความสำเร็จทางคดี มาจากฝ่ายไทย-พม่า ช่วยกันกดดันจนหมดทางไปต้องซมซานเข้ามอบตัว เตรียมทำแผน ที่จ.ขอนแก่น วันนี้
จากกรณี 3 สาว "แก๊งเปรี้ยว" ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ"เปรี้ยว”อายุ 24 ปี น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น อายุ 25 ปี และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ อายุ 28 ปี ร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ "น้องแอ๋ม" สาวคาราโอเกะ ที่ จ.ขอนแก่น แล้วนำไปฝังดิน ที่อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ก่อนหลบหนีออกนอกประเทศไปยังเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทางทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย นั้น
ต่อมา ผู้ต้องหาทั้งสามคนได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเมียนมา ที่โรงพักท่าขี้เหล็ก ซึ่งทางตำรวจเมียนมาได้ควบคุมตัวมาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ที่ ด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อคืนวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อเช้าวานนี้ (4 มิ.ย.) พล ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.ตม.) ได้นำคณะเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนที่ จ.เชียงราย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสามคน ใส่หมวก และแว่นตา ขึ้นรถตู้ออกจากสำนักงาน ตม.เชียงราย อย่างรวดเร็ว โดยที่ทั้งหมดไม่ยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่พยายามเข้าไปสอบถาม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อนำขึ้นเครื่องบินฟอกเกอร์ กองบินตำรวจ เพื่อนำตัวไปยังแถลงข่าวที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ณัฐธร พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนมาให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต. เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.4 และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ร่วมกันสอบปากคำ ในห้องกระจก ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. โดยใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 30 นาที หลังสอบปากคำเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเดินทางไปยังกองบินตำรวจ เพื่อขึ้นเครื่องบิน เดินทางต่อไปยัง จ.ขอนแก่น
จากนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ พล.ต.ท.ณัฐธร พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ผกก.สภ.เขาสวนกวาง ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมตอบข้อซักถามสื่อมวลชน เกี่ยวกับรายละเอียดของคดี โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของประชาชน ตนจึงได้สั่งการ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ลงไปกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวน โดยหลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน ตำรวจก็สามรถสืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ ว่าเป็นใคร ซึ่งได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 คน เป็นหญิง 4 คน และ ผู้ชาย 1 คน ตนจึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายวศิน นามพรหม อายุ 22 ปี ได้ที่ จ.หนองคาย ต่อมาน.ส.เบนซ์ ซึ่งเป็นแฟนสาวของนายวศิน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ ขณะเดียวกัน ทราบว่ามีผู้ต้องหาที่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ออกทางด่านชายแดน จ.เชียงราย ทางการไทยได้ประสานไปยังตำรวจเมียนมา ให้ช่วยติดตามจับกุม จนในที่สุด น.ส.ปรียานุช และพวก ทนแรงกดดันไม่ไหว เข้ามอบตัวกับตำรวจเมียนมา
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำน.ส.ปรียานุช ทราบว่า เจ้าตัวมีความตั้งใจจะมอบตัวอยู่แล้ว ประกอบกับถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก จึงเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ของเมียนมา ก่อนถูกส่งตัวให้กับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย
จากการสอบปากคำถึงมูลเหตุจูงใจในการสังหาร น.ส.ปรียานุช ให้การว่า เกิดจากความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด และหนี้สินส่วนตัว โดยน.ส.ปรียานุช อ้างว่า วันเกิดเหตุไม่ได้มีการล่อลวงผู้ตายมมาพบ แต่เป็นการพบผู้ตายโดยบังเอิญ หลังจากไม่เจอกันนานกว่า 1 ปี จึงมีการเรียกผู้ตายขึ้นรถเพื่อเคลียร์ปัญหาส่วนตัว ส่วนที่ผู้ตายยอมขึ้นรถ เพราะทั้งคู่รู้จักกันอยู่แล้ว ซึ่งน.ส.ปรียานุช อ้างว่าต้องการเพียงแค่สั่งสอน ไม่ได้ต้องการให้ถึงกับชีวิต แต่เมื่อน.ส.วาริศรา เสียชีวิต จึงได้ตัดสินใจใน 2 ทางเลือกว่าจะนำศพถ่วงน้ำ หรือหั่นศพก่อนนำฝังดิน
ส่วนกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ และสื่อมวลชน ลงข่าวว่าน.ส.ปรียานุช เกี่ยวข้องกับยาเสพติดข้ามชาตินั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากสืบสวนสอบสวนไม่พบว่าน.ส.ปรียานุช และพวก มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติแต่อย่างใด เป็นเพียงการเสพยาเสพติดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เท่านั้น โดยเมื่อปี 2559 ตำรวจจับกุมน.ส.วาริศรา ในคดียาเสพติด จึงมีการขยายผลการสืบสวนสอบสวน แต่รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนการสอบสวน และอาจส่งผลรูปคดี ส่วนเรื่องประเด็นการยืมเงิน ทราบว่าผู้ตายได้ยืมเงิน น.ส.ปรียานุช 3-4 หมื่นบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"เรากดดันทุกวิถีทาง เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เป็นที่สนใจของประชาชน คดีนี้ไม่มีความซับซ้อน ทั้งการก่อเหตุ การหลบหนี จนกระทั่งผู้ต้องหาตัดสินใจเข้ามอบตัว ซึ่งเขาก็ตั้งใจมอบตัวอยู่แล้ว ไม่อยากให้คนที่ไปพักอาศัยด้วย ได้รับความเดือดร้อน ประกอบกับผู้ต้องหาได้สติ รู้สึกสำนึกผิดด้วย จึงได้เข้ามอบตัว ส่วนที่ต้องชำแหละศพ เพราะเขาก็ทำอะไรไม่ถูก หลังจากที่ลงมือฆ่า ศพเริ่มแข็งแล้ว ส่วนน.ส.เบนซ์ นั้นน.ส.ปรียานุช อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม
ดังกล่าว รวมทั้งการช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนีไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แต่อาจเป็นเพียงการให้คำแนะนำ เพราะน.ส.เบนซ์ เคยไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี่ น.ส.ปรียานุช ก็มีประสบการณ์การเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ทั้งมาเลเซีย สิงค์โปร์ จึงไม่มีใครช่วยทั้ง 3 คนหลบหนี อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นคำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งจะพูดอย่างไรก็ได้ ตำรวจไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด เพราะเรามีข้อมูล มีแนวทางการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว" พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว และว่า หลังจากนี้ ได้สั่งการให้มีการตรวจร่างกายผู้ต้องหา รวมทั้งตรวจหาสารเสพติด ก่อนมอบตัวผู้ต้องหาให้กับ บช.ภ.4 ทำการสอบปากคำ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งได้มอบหมายให้พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ลงไปกำกับดูแลการทำแผนฯ และการสอบสวน ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ด้าน พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า คดีนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งกำชับให้ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่ง สตม.เป็นหนึ่งในคณะกรรมการประสานชายแดน หรือ ทีบีซี ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือที่ดีจากประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับน.ส.ปรียานุชกับพวก หลังก่อเหตุผู้ต้องหาเดินทางมาค้างคืนที่ กทม. 1 คืน ต่อมาวันที่ 25 พ.ค. เดินทางต่อไปยังจ.เชียงราย จากนั้นเดินทางไปที่ว่าการ จ.เชียงราย เพื่อพบกับนายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้จัดการสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เพื่อขอหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ระหว่างนั้นก็ทำงานที่สถานบันเทิงใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากนั้น วันที่ 27-28 พ.ค.ได้เดินทางข้ามแดนไปกับลูกค้า ไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ก่อนตระเวนพักตามอาคารร้าง และกระท่อมร้าง หลังทราบข่าวจึงประสานไปยังโรงแรมที่พัก และสถานบริการต่างๆ ไม่ให้รับผู้ต้องหาเข้าทำงาน หรือให้ที่พัก เป็นการช่วยกดดันให้ผู้ต้องหาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ ในวันที่ 3 มิ.ย.
ขณะที่ พล.ต.ต. เจริญวิทย์ กล่าวว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ เป็นเรื่องความแค้นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ประเด็นนี้แทบจะไม่มีน้ำหนักเลย ซึ่งหลังจากนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาไปที่ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เพื่อสอบปากคำ จากนั้นจะควบคุมตัวทำแผนฯ คาดว่าน่าจะใช้เวลาเพียง 1 วัน โดยครอบคลุมจุดที่เกิดเหตุทั้งหมด คาดว่า 7-8 จุด
สำหรับข้อหาที่จะแจ้งกับผู้ต้องหา ประกอบด้วย ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ปล้นทรัพย์ และรับของโจร ซึ่งคดีนี้ ถือว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ จากข้อหาดังกล่าว มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล เป็นผู้ตัดสิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเพียงต้นทางเท่านั้น
ส่วนที่บ้านห้วยบาก หมู่ 6 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น นางสาคร ภาษี อายุ 62 ปี แม่ของ น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว ได้จัดเสื้อผ้า เพื่อเตรียมตัวไปพบหน้าลูกสาว หลังจากเกิดเรื่อง พร้อมทั้งเตรียมฝรั่ง ซึ่งเป็นผลไม้โปรดของเปรี้ยว จำนวน 3 ลูก เพื่อจะให้เปรี้ยวได้รับประทาน ซึ่งสีหน้าท่าทางของนางสาคร ดีขึ้นกว่าทุกครั้งที่ผู้สื่อข่าวได้มาพูดคุย
โดยนางสาคร บอกว่า รู้สึกดีใจอย่างมาก ที่รู้ว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งได้รับข่าวจากเหมียว ซึ่งเป็นพี่สาวของเปรี้ยว ขับรถมาบอกตนเองเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังมีข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้แล้ว ที่ประเทศเมียนมา ตนจึงได้ไปซื้อฝรั่ง ซึ่งผลไม้ของโปรดเปรี้ยวมาไว้รอต้อนรับลูก และอยากจะขอกอด ขอหอมแก้มลูกสาว เป็นอันดับแรก พร้อมจะบอกกับลูกว่า "ที่ผ่านมาก็ขอให้ถือซะว่าเป็นบทเรียน อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก และอยากจะขอโทษกับครอบครัวของน้องแอ๋ม ผู้เสียชีวิต ลูกสาวทั้ง 2 คน คงมีเวรกรรมต่อกัน ขอให้อย่าจองเวรกัน"