สวยจิตโหดป็อปปูลาร์! แก๊งอีเปรี้ยวชัคกี้ 3 ฆาตกรฆ่าหั่นศพแอ๋ม ในที่สุดก็ทนความกดดันการไล่ล่าจองตำรวจไม่ไหว มอบตัวจนได้! อึ้งพฤติกรรมแก๊งสาวโหดมีความโนสนโนแคร์ลั้ลลาไม่ทุกข์ร้อนระหว่างถูกคุมตัวที่ ตม.เชียงราย 3 นางชิลล์ขีดสุด กินดีอยู่ดี ยิ้มจิกกล้อง พร้อมชูสองนิ้ว ตร.ขอเซลฟี่ กินขนม ดูดบุหรี่ ขอสวยมาส์กหน้าก่อนนอน สังคมตั้งข้อสงสัยแบบนี้ก็ได้เหรอ กุญแจมือหายไปไหน การคุมตัวอาชญากร จำเป็นต้องต้องวีไอพีขนาดนี้มั้ย!?
กล้องวงจรปิดพม่าดี๊ดี ชัดเป๊ะ!
ไม่รอด! “เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้” หลังจากรวมหัวกันฆ่าหั่นศพ แอ๋ม - วริสรา กลิ่นจุ้ย สาวคาราโอเกะใน จ.ขอนแก่น แล้วนำศพไปทิ้งที่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ก่อนจะเดินทางออกจากประเทศไทยไปที่ด่านแม่สาย จ.เชียงราย โดยใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว หรือ บอร์เดอร์พาส ข้ามไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค. และไปหลบหนีอยู่ในป่า เพราะเจ้าหน้าที่ออกไล่ล่า เปรี้ยวเล่าว่า หลังจากฝังศพแอ๋มก็แยกย้ายกันหนี โดยตนเองมีเงินติดตัวหลายหมื่นบาทจึงเดินทางไปประเทศเมียนมา พร้อมกับ เอิร์น และแจ้ จากนั้นไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะ ประมาณ 2 วันแต่ทางร้านที่ทำงานถูกกดดันและอาจถูกปิดร้าน จึงออกมาหลบไปตามหมู่บ้านต่างๆในเมืองท่าขี้เหล็ก โดยใช้เงินที่มีติดตัวเป็นค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
ทว่าก่อนหน้านี้คิดจะเข้ามอบตัว แต่สงสาร เอิร์น และ แจ้ เพราะทั้งคู่บอกว่า ขอเวลาทำใจก่อน จนกระทั่งออกจากป่าไปเดินซื้อของที่ตลาด ร้านเสื้อผ้าในตลาดท่าล้อ ท่าขี้เหล็ก ตามที่กล้องวงจรปิดของเมียนมาบันทึกภาพได้ไว้ชัดเจน การจับครั้งนี้เป็นการประสานกับทาง ทีบีซี เมียนมา หลังจากที่มีการประสานกับทางการไทย เขาจึงมีการกดดันอย่างหนักในพื้นที่ท่าขี้เหล็ก ด้วยการตรวจค้นตามสถานบันเทิง ตามบ้านพักของผู้ต้องสงสัย จากนั้นก็ทนความกดดันไม่ไหวขอเข้ามอบตัวด้วยตัวเอง ทางการไทยจึงรับตัว 3 สาวมาคุมตัวไว้ที่ ตม.เชียงราย
โลกโซเชียลฯ เหน็บทำไมภาพวงจรปิดของเมียนมาชัดเจนจับภาพได้แม่นยำ ต่างกับไทยกล้องวงจรปิดภาพไม่ชัด เบลอขั้นสุด บางแห่งกล้องวงจรปิดใช้การไม่ได้ นอกจากนี้ ในภาพกล้อวงจรปิดยังเผยให้เห็นถึง 3 สาวฆาตกรเดินช้อปปิ้งอย่างสบายใจ ไม่มีการปกปิดหน้าตา เดินช้อปชิลล์โดยไม่ได้เกรงกลัวตำรวจแม้แต่อย่างใด พอช้อปเสร็จก็มามอบตัวหน้าตาเฉย
นักโทษวีไอพี ของกินพร้อม ดูดบุหรี่สบายใจเฉิบ!
"นี่นึกว่ามางานสัมมนาอาเซียน" หนึ่งความคิดเห็นจากโลกโซเชียล หลายคนบอกไปในทิศทางเดียวกันว่าเป็นผู้ต้องหาที่สบายที่สุดขณะถูกควบคุมตัวก่อนนำเข้ามา กทม.ที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย
"เปรี้ยวตลาดแตกเป็นฆาตกรโหดที่ชิคๆ กินอิ่ม นอนหลับ ดูดบุหรี่เต็มปอด ถูกสอบสวนด้วยท่านั่งเก๋ๆ พร้อมหมอนผ้าห่มนุ่มนิ่มที่กำลังจะเป็นสินค้าขายดีชิ้นต่อไป " เพจเฟซบุ๊กแหม่มโพธิ์ตั้งคำถามถึงความไม่ทุกข์ร้อนของพวกเธอ
"นี่ปาร์ตี้ขนมปังเหรอ! อึ้งหนักมาก"
"เหมือนตกรถเที่ยวสุดท้าย แล้วมาขอ ตม.นอนคืนหนึ่งเพราะหาที่พักไม่ได้”
ภาพที่เห็นคือ เปรี้ยว เอิร์น แจ้ ถูกตำรวจล้อมตัวในห้องสอบสวนโดยมีอากัปกิริยานิ่งเฉย นั่งไขว่ห้างกอดหมอน ทั้งยังมีภาพที่สามสาวนอนหลับโดยห่มผ้าห่มสายรุ้งที่คาดว่าซื้อมาจากตลาดท่าขี้เหล็ก หนำซ้ำมีการมาสก์หน้าด้วยครีมบำรุงผิว เพราะคงยึดสโลแกนว่า เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย แม้จะเป็นฆาตกรก็ตาม
นอกจากนี้ ยังมีการแชะภาพร่วมเฟรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หัวเราะยิ้มตาหยีหน้าตาเบิกบานใจทั้งผู้ต้องหาและตำรวจ ราวกับคุยเรื่องตลกสนุกสนานกันอยู่ ไม่มีความเครียดในแววตาสักนิด
อีกภาพที่ชาวเน็ตพูดถึง คือ ระหว่างอยู่ในห้อง ทั้งสามสาวสูบบุหรี่อย่างสบายใจเฉิบ โดยมีขนมกรุบกริบ ของว่าง และกาแฟกระป๋องเสิร์ฟอยู่ที่โต๊ะ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับวิจารณ์เปรียบได้กับผู้ต้องหาระดับวีไอพี ไม่มีความสำนึกกับสิ่งที่ลงมือกระทำ
อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ยังเล่าว่า ทั้ง 3 ผู้ต้องหานั้นนอนเรียงกันหลับสนิท แปลก! เพราะปกติผู้ต้องหาคดีร้ายแรงน่าจะเครียดจนนอนไม่หลับ แต่อาจเป็นเพราะความอ่อนเพลียจากการเดินทาง และหลบหนีในช่วงหลายวัน จึงทำให้หลับไม่สนิทมาหลายวัน
สำหรับหน้าตาของ 3 สาวแก๊งฆ่าหั่นศพที่หลายคนให้ความสนใจนั่นก็คือเรื่อง “หน้าตา” เพราะจัดว่า “สวย” หลายคนให้สมญานามพวกเธอคือฆาตกร “สวยสังหาร” เพราะภาพโปรไฟล์จากเฟซบุ๊กส่วนตัวของพวกเธอที่เห็นในโลกโซเชียลฯนั้น ทั้ง 3 คนมีหน้าตาในโปรไฟล์ที่สวยหรู
ทว่า ตัวจริงกลับราวคนละคนโดยเฉพาะ “เอิร์น” หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ไม่ตรงปก” อย่างแรง เรียกว่าเดินผ่านตำรวจหลายคนก็ไม่รู้ว่าเธอคือฆาตกร หลายคนอยากรู้ว่าเธอใช้แอปพลิเคชันอะไร มือถือยี่ห้อไหน ใครสอนแต่งหน้า!? วิจารณ์กันให้แซด
ฆาตกรสุดฮอต!? ตร.ขอเซลฟี่
เปรี้ยวมาส์กหน้าขาว ยิ้มร่า พร้อมชูสองนิ้ว สู้ตายค่ะ เป็นภาพฮือฮากับการเซลฟี่กับตำรวจอย่างไม่สะทกสะท้าน อีกทั้งก่อนที่จะถูกส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแถลงข่าว แก๊งเปรี้ยวยังมีการส่องกระจกแต่งหน้าเมกอัปเพิ่มเลเวลความสวยในห้องตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย อย่างไม่สะทกสะท้าน
พร้อมยังเปิดโอกาสให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปอวดราวกับคนดัง ทำเอาชาวเน็ตถึงกับวิจารณ์ว่า เป็นผู้ต้องหาที่มีความเป็นอยู่สุขสบาย ไม่สนใจเลยว่าทำผิดกฎหมายอะไรไว้ และอันที่จริงผู้ต้องหาที่เป็นถึงอาชญากรอำมหิตไม่สมควรทำแบบนี้ทั้งสิ้น ส่วนตำรวจเองก็ไม่ควรจะขอเซลฟี่ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วย หากครอบครัวของผู้ตายเห็นจะรู้สึกอย่างไร
“เล่นละครลิงกันอยู่หรอคะ ผู้ต้องหานะไม่ใช่นางแบบที่จะให้เวลาแต่งหน้ามีข้าวให้กิน ฆ่าคนนะไม่ใช่ฆ่าปลาเป็นฆาตกรทำไมสบายจังคะ ไม่แปลกใจทำไมคนฆ่าแกงกันเยอะแยะ” อีกหนึ่งความคิดเห็นจากโลกโซเชียลฯ
นอกจากข้างในห้องจะมีเจ้าหน้าที่ขอถ่ายรูปร่วมเฟรมกันมากมายแล้ว ด้านนอกก็ฮอตไม่แพ้กันเพราะชาวบ้านที่ อ.แม่สาย และจากที่อื่นๆ มาดักรออยู่หน้าประตูสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย อ.แม่สาย หลังทราบว่า เจ้าหน้าที่จะนำตัวแก๊งเปรี้ยวเดินทางเข้า กทม.
หลายคนเปิดเผยว่า ติดตามข่าวสารเปรี้ยวทุกวัน ผ่านสื่อหลัก สื่อออนไลน์ โลกโซเชียล เสพข่าวและลุ้นอย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่จะจับกุมตัวได้ จึงอยากมาเห็นด้วยตัวจริงด้วยตาตัวเอง
อย่างไรก็ดี สำหรับในมุมมองของตำรวจที่ไม่ขอเอ่ยนามต่อกรณีนี้ จากการสอบถามของทีมผู้จัดการ Live ถึงสาเหตุของการที่ทำไมถึงให้ผู้ต้องหาสามารถแต่งหน้าทำสวยมาส์กหน้าได้ เพราะต้องการให้ 3 สาวซึ่งเป็นผู้หญิงลดความเครียดวิตกกังวลลงด้วยการแต่งหน้า เป็นผลทางจิตวิทยาทำให้ผู้ต้องหาสบายใจ ผ่อนคลาย อบอุ่นให้มากที่สุด จากนั้นพวกเธอจะคายทุกอย่างออกมา ก่อนที่จะสอบปากคำเชิงลึก ดังนั้นการให้การสนับสนุนและเตรียมตัวที่ดี ทำให้ผู้ต้องหาสามารถให้การได้อย่างครบถ้วน และคำให้การก็มีความสอดคล้องกันมากที่สุด
ทว่า ข้อสงสัยที่เหตุใดเจ้าหน้าที่ถึงไม่ใส่กุญแจมือผู้ต้องหานั้น นิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ ไขข้อสงสัยชี้แจงว่า การที่เจ้าหน้าที่จะใส่กุญแจมือหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและการประเมินสถานการณ์ของพนักงานสอบสวน ว่า ผู้ต้องหารายใดมีความสุ่มเสี่ยงต่อการหลบหนีการจับกุม ดังนั้นจะใส่กุญแจมือหรือไม่ใส่กุญแจมือผู้ต้องหาก็ย่อมได้
กล้าใช้มั้ย! หมอนอีเปรี้ยวหั่นศพ
อย่างไรก็ตาม ปรากฎการณ์ "อีเปรี้ยวตลาดแตก" ยังสะเทือนไปถึงแวดวงการตลาดจนนักการตลาดออนไลน์ถึงกับอึ้ง เมื่อพบว่า แม่ค้าออนไลน์เกาะกระแส "อีเปรี้ยว" ขายหมอน ผ้าห่มรุ่นอีเปรี้ยว 3G และขายขนมตุ๊บตั๊บได้ไวมากๆ จาก Real Time Content ที่ใครหลายคนคุ้นเคยกันดีมาสู่การตลาดแบบ Real Time Comment
"ไหนๆก็ไหนๆและโดนจับแล้วก็อุ่นใจ แต่ได้กอดหมอนผ้าห่มด้วยมันก็จะอุ่นๆกว่าหน่อย สินค้าพร้อมส่ง 390 บาท ทุกตัวส่งฟรี EMS หมอนผ้าห่มรุ่นอีเปรี้ยว 3G มีที่ซุกมือด้วยนะเอาไว้ซ่อนมีดได้ อุ้ย!! ผิดๆเอาไว้ซุกมืออุ่นๆ อยากได้ ลายเซ็นขอได้ แม่ค้าอยู่แม่สายเหมือนกัน ถ้าตำรวจให้เข้าไปเดี๋ยวขอให้"
“ที่เห็นในจานคือขนมถั่วตุ๊บตั๊บพม่า ห่อละ 45 บาท ทักเฟซฯมาสอบถามกับเราได้”
เห็นได้จากสิ่งที่นักการตลาดดิจิทัลชื่อดัง "ชัยพนธ์ ชวาลวณิชชัย" หรือครูชัย ได้โพสต์ระบุปรากฎการณ์ในครั้งนี้ผ่านเฟซบุ๊ก Chaiyapon Kru Chai Chawanwanitchai โดยเขาบอกว่า พฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคยุคโซเชียลฯ นอกจากจะเข้าไปกดอ่านเนื้อหาที่โพสต์แล้ว ส่วนใหญ่มักจะกดเข้าไปอ่านคอมเมนต์ด้วย ดังนั้นจึงเป็นช่องทางให้แม่ค้าออนไลน์เกาะแสข่าวเปิดการขาย และเร่งปิดการขายแบบชนิดที่เรียกได้ว่า "ไวสายฟ้าแล่บ"
"...มีนิยามศัพท์ใหม่ เหนือกว่า Real Time Content คือ Real Time Comment คุณพระ ไวกว่านี้มีอีกไหม 2 top comment ที่ว่าคือการโพสต์ขายของตรงๆ ยิ่งรูปที่เป็นหมอน ขณะที่ผมเขียนโพสต์นี้ตอนนี้ตีหนึ่ง ซึ่งในเฟซฯ มีคนโพสต์ขายหมอนอันนี้มากกว่า 5 คนแล้ว ทั้งๆ ที่รูปนี้ ผ่านมาแค่ชั่วโมงกว่าๆ แค่นั้น..." ก่อนจะทิ้งท้ายถึงการทำการตลาดออนไลน์ไว้ว่า "ความไวคือหัวใจของความสำเร็จบนโลกออนไลน์เสมอ"
ทั้งนี้ แม้การใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ หรือกระแสข่าวที่เกิดขี้นในปัจจุบันแล้วเปิดการขายไปยังผู้บริภาคผ่านการโพสต์ต่างๆ ด้านหนึ่งอาจมองว่าไว เข้าถึงลูกค้าหลากหลาย แต่บางความเห็นมองว่า ความไวโดยเกาะกระแสการดังในทางลบอาถูกกระแสตีกลับจนเป็นพิษต่อสินค้านั้นๆ ได้
"ความไว คือส่วนหนึ่งของหัวใจการขายก็จริง แต่การขายแบบไร้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เกาะกระแสการดังในทางลบ สินค้านั้นจะขายได้อย่างต่อเนื่อง จนพาพ่อค้าแม่ค้าท่านนั้นร่ำรวยจริงหรือ ยกตัวอย่างง่ายๆ จะมีใครอยากเอาหมอนมาโชว์ แล้วบอกว่า ฉันใช้หมอนแบบเดียวกับเปรี้ยวหั่นศพบ้าง มันไม่ใช่การตลาดที่น่าชื่นชม แต่มาจากคนที่ไม่เข้าใจการตลาด แต่แค่เป็นคนอยากขายไวๆ เข้าว่าเท่านั้น
ความไวมีผลจริงค่ะ แต่การคอมเมนต์ในเน็ตเร็วกว่านะคะ กว่าที่ผู้บริโภคจะกดสั่งซื้อออนไลน์ อินบอกซ์สั่ง หรือนั่งรถไปซื้อ เขาน่าจะเริ่มเห็น กระแสตีกลับของคนอีกฝั่งในโลกออนไลน์ที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความนอนเซ้นส์ของการซื้อเพื่อเลียนแบบบุคคลที่ไม่น่าเลียนแบบบ้างแล้ว ดังนั้นความไวของกระแสตีกลับ อาจเป็นพิษต่อสินค้านั้นก็ได้นะคะ ประมาณว่า ถ้าใช้ช่วงนี้ระวังโดนเพื่อนล้อ" ความเห็นหนึ่งจากผู้ใช้สื่อโซเชียลฯ
เรียกได้ว่าก็ต้องเสพข่าวกันอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับคดีนี้หลายคนก็ยังให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เปรี้ยวรับสารภาพลงมือฆ่าหั่นศพแอ๋มจริงโดยมีเพื่อนร่วมลงมือช่วยหั่นศพอีก 3 คน คือ เอิร์น แจ้ และ วศิน สาเหตุเพราะโกรธแค้นผู้ตาย เป็นสายตำรวจแจ้งจับสามีที่เพิ่งแต่งงาน ต่อจากนี้ก็รอติดตามการทำแผนประกอบรับสารภาพ เชื่อว่า หลายคนจ้องตาไม่กระพริบ!
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754