xs
xsm
sm
md
lg

“เสรี”ชงจำหน่ายคดีสร้างปรองดอง ปชป.สับใช้ ม.44 นิรโทษฯล้าหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - “สปท.เสรี” ชงไอเดียสร้างความปรองดอง ผุดโมเดลจำหน่ายคดีชั่วคราวช่วยชาวบ้านที่ต้องโทษคดีการเมืองเล็กน้อย ส่วนแกนนำ-คนติดคดีแรง ให้สู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม “สาธิต” รองหัวหน้า ปชป.ซัด “สุชน” คิดล้าสมัย ถามหวังใช้ ม.44 นิรโทษฯใครกันแน่ ชี้ศาลยกฟ้อง ปชช.เกือบหมดแล้ว เหลือแต่แกนนที่ต้องคดี

วานนี้ (3 ม.ค.) นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยว่า แนวทางการปฏิรูปเพื่อสร้างความปรองดองของ สปท.มีความคืบหน้าไประดับหนึ่งแล้ว โดยที่ประชุม สปท.การเมืองได้ตั้งคณะกรรมาธิการเต็มคณะเพื่อพิจารณาแนวทางดังกล่าว โดยวางหลักการสร้างความปรองดองแยกเป็นกลุ่มๆ ได้แก่ ในส่วนแกนนำชุมนุม หากมีคดีติดตัวจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนระดับประชาชนทั่วไป จะแยกตามความหนักเบาของคดี หากเป็นคดีที่มีความผิดร้ายแรงอาทิ มาตรา 112 คดีทุจริต ความผิดอาญาร้ายแรงเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งเป็นความผิดที่ประชาชนรับไม่ได้ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน ไม่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ อย่างไรก็ตามหากเป็นคดีในส่วนประชาชนทั่วไปที่มีอัตราโทษไม่รุนแรง มีโทษจำคุก 3-5 ปี เช่น การฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปชุมนุมทางการเมือง คดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาศาลแขวง หรือกรณีการขัดคำสั่งไม่ไปรายงานตัว สปท.การเมืองได้เสนอแนวทางลดหย่อนการลงโทษ อาทิ คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาล จะขอให้ศาลจำหน่ายคดีชั่วคราวระหว่างการสืบพยานไว้ชั่วคราว เพื่อให้โอกาสผู้กระทำผิดกลับตัว แต่มีเงื่อนไขว่า ระหว่าง 3-5 ปี ห้ามไปกระทำความผิดซ้ำ ทั้งการไปร่วมการชุมนุม การปลุกระดมข่มขู่ ขอย้ำว่าเป็นแนวทางลดหย่อนให้เฉพาะประชาชนในคดีที่มีอัตราโทษไม่รุนแรงเท่านั้น ไม่รวมถึงแกนนำที่จะต้องไปสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม

ส่วนกรณีที่ นายสุชน ชาลีเครือ กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง กล่าวถึงแนวคิดที่จะเสนอให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อนิรโทษกรรมแก่ประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมทางการเมืองนั้น นายเสรี กล่าวว่า อยากให้ใช้แนวทางตามกฎหมายปกติไปก่อน แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลด้วย หากต้องการความรวดเร็ว ก็สามารถใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษได้ อย่างไรก็ตามแนวทางดังกล่าวเป็นเพียงแค่หลักเกณฑ์ที่ สปท.การเมืองวางไว้เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ใช่ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ จะต้องรอการประชุมหารือเพื่อหาข้อยุติต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนที่ สปท.จะหมดวาระการทำงานในเดือน ก.พ.นี้.

** “วิรัตน์” ให้พ่วงผู้เสียทายใน 3 จว.ใต้

ขณะที่ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเห็นว่าคดีที่ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้คือคดีที่เกี่ยวข้องกับความผิดตามมาตรา 112 ไม่ว่าจะเป็นตัวการผู้สนับสนุน ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใช้คนอื่นให้กระทำความผิด จะต้องไม่มีการนิรโทษกรรมและต้องลงโทษสถานหนักกับบุคคลเหล่านี้ เช่นเดียวกับคดีอาญาร้ายแรงและคดีทุจริตทุกประเภท ทั้งนี้ควรนิรโทษกรรมให้กับผู้ชุมนุมที่ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธซึ่งมาตรา 63 รัฐธรรมนูญ 2550 บัญญัติรองรับสิทธิไว้อย่างชัดเจน รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยรองรับความชอบของการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธไว้แล้ว และจะต้องมีมาตรการเยียวยาทางด้านการเงินและเยียวยาทางด้านจิตใจให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บจากการเข้าร่วมชุมนุมโดยสงบดังกล่าวโดยจัดเงินดูแลหรือจะเอาหาอาชีพที่เหมาะสม หรือมาตรการอื่นที่เหมาะกับผู้ชุมนุมดังกล่าวนั้น นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้คือ จังหวัดยะลา , จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเกิดขึ้นเพราะการใช้นโยบายผิดพลาดในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 และเริ่มรุนแรงขึ้นในปี พ.ศ.2547 โดยใช้อำนาจข่มเหงรังแกพี่น้องจังหวัดภาคใต้อย่างไม่เป็นธรรม ลุแก่อำนาจ

** “สาธิต” เชื่อ “สุชน” มีนัยซ่อนเร้น

ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ข้อเสนอของนายสุชนถือที่ล้าสมัยและควรต้องตอบคำถามสังคมก่อนว่า ทำเพื่อใคร และใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์จากการนิรโทษกรรมที่เสนอมา เพราะข้อเท็จจริงในเวลานี้ แทบจะไม่มีพี่น้องประชาชนคนที่เป็นเหยื่อในการชุมนุมทางการเมือง ที่เหลืออยู่มีแต่ผู้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม ในทางกลับกันผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมเหล่านี้ล้วนเป็นแกนนำในการชุมนุมทั้งสิ้น อีกทั้งขณะนี้ความขัดแย้งหรือความปรองดองของคนในชาตินั้น สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ที่สำคัญที่สุด คือ ข้อเสนอนี้จะเป็นการล้างอำนาจของฝ่ายตุลาการหรือไม่ เพราะบางคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองนั้น ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว มีผลพิพากษาทั้งลงโทษผู้ที่ทำผิด และที่ยกฟ้องให้พี่น้องประชาชนไปแล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น