xs
xsm
sm
md
lg

คนไทย 4.0 จะอยู่รอดอย่างไร...?

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

ช่วงนี้มีข่าวความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีแปลกใหม่มาให้ชาวบ้านได้รับรู้เพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อมรับสภาวะความเปลี่ยนแปลง ยิ่งรัฐบาลคุณท่านประโคมเรื่องประเทศไทยยุค 4.0 แล้ว ส่วนหนึ่งคงตั้งความหวังปนเพ้อฝันว่าจะเป็นช่วงของการลืมตาอ้าปากกินดีอยู่ดี

ทว่าสังคมชาวบ้านทั่วไปรับรู้แต่ข่าวร้าย เทคโนโลยีใหม่จะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจไม่ต้องการแรงงานคนเป็นอีกต่อไป โรงงานจะใช้หุ่นยนต์ในกระบวนการผลิตมากขึ้น ธนาคารไม่ต้องใช้คนเยอะ ห้างขายสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตมีช่องให้จ่ายเงินเอง ไม่มีพนักงานเก็บเงิน

ปั๊มน้ำมันหลายแห่งเปิดบริการคนขับรถเติมน้ำมันเอง ไม่ง้อแรงงานต่างชาติแล้ว ต่อไปรถบริการรับจ้างก็ไม่ต้องมีคนขับ ทุกอย่างใช้ระบบอัตโนมัติ ไม่ต้องการคนบริการอีกต่อไป เท่ากับว่าความต้องการใช้แรงงานคน และพนักงานจะมีน้อยจนถึงขั้นไม่มีเลย

ประเทศไทยยังไม่ไปไกลถึงขั้นนั้น เอาเพียงแค่ทุกวันนี้ก็ได้สร้างความหวาดหวั่นว่าการหางานทำ การดิ้นรนดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด จะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ทุกวันนี้มีนักศึกษาปริญญาตรีจบใหม่ตกค้างว่างงานเพิ่มขึ้นในแต่ละปี หาทางออกให้ตัวเองไม่ได้

ต่อไปจะมีประเด็นการทำงานเพื่อความอยู่รอด และการทำงานเพื่ออยู่ดีกินดี การว่างงานนานๆ ทำให้สูญเสียความมั่นใจ นานๆ เข้าก็ขาดความเคารพเชื่อมั่นในตัวเอง แต่ละวันผ่านไปขีดความสามารถในการแข่งขันคนเข้าสู่ตลาดแรงงานยิ่งลดต่ำ เป็นปัญหา

ระดับประเทศ มีดัชนีวัดขีดความสามารถในการแข่งขัน ในระดับบุคคล มีการประเมินว่าใครมีความสามารถมากกว่าในการทำประโยชน์ให้นายจ้าง หรือองค์กร

ทุกวันนี้ เราอยู่ในระดับต่ำทั้ง 2 ประเภท เมื่อเทียบกับประเทศในระนาบเดียวกันด้านเศรษฐกิจ ประชากรของประเทศไทยเริ่มถูกมองว่าไม่ได้เป็น “ทรัพยากรมนุษย์” มีมูลค่าเพิ่มอีกต่อไป เป็นเพียงกลุ่มผู้มีทักษะระดับธรรมดาหรือด้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ

ประเทศไทย 4.0 ซึ่งรัฐบาลคุยนักว่าจะนำพาบ้านเมืองสู่ความเจริญนั้น ต้องมาดูอย่างชัดเจนว่าคนกลุ่มไหนจะอยู่รอดได้ ในสภาวะการแข่งขันในกลุ่มคนไทยกันเอง และกับคนต่างชาติซึ่งไหลบ่าเข้ามาอยู่ในเมืองไทยในทุกระดับชั้น แย่งงาน แย่งทำทุกอย่าง

ทั้งนี้ด้วยความรู้เห็นเป็นใจ และเต็มใจของรัฐบาลซึ่งเปิดอ้าซ่าให้คนต่างชาติเข้ามาทำมาหากินอยู่อาศัยระยะยาว เพียงมีเงินฝากแค่ 3 ล้านบาท และมีอายุเกินกว่า 50 ปี มีรายได้เดือนละ 1 แสนบาทเป็นอย่างต่ำ ซึ่งเป็นข้อกำหนดไม่รัดกุมเข้มงวด น่าเหลือเชื่อ

เพียงแค่นี้ สามารถเปิดช่องให้ชาวจีนและชาวอินเดียแห่กันเข้ามาอยู่อาศัยอย่างสบายๆ หลับตานึกดูว่าถ้าเข้ามาชาติละ 10 ล้าน เราจะมีประชากรรับเชิญ ซื้อใบถิ่นที่อยู่ 10 ปีมากถึง 20 ล้านคน แล้วคนไทยธรรมดาในภาคชนบท ภาคเกษตร จะอยู่อย่างไร

ชาวชนบท คนเมืองระดับต่ำกว่าชนชั้นกลาง มีขีดความสามารถอย่างไรในการดำรงชีพ เพราะต่างชาติเข้ามาพร้อมกับเงินและปัจจัยหนุนอย่างอื่นล้วนมีศักยภาพมากกว่าคนไทยในภาคชนบทและภาคเกษตร รวมทั้ง “ทรัพยากรมนุษย์” หนุ่มๆ ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

หลับตานึกถึงอนาคตประเทศไทยและคนไทยไร้ขีดความสามารถในการแข่งขันแล้วรู้สึกสยดสยองจริงๆ ทุกวันนี้คอนโดฯ สูงอยู่เกลื่อนเมือง ถ้าไปสำรวจจริงๆ มีสักกี่เปอร์เซ็นต์ถูกครอบครองเป็นเจ้าของโดยคนไทย รวมทั้งหมู่บ้านจัดสรรราคาปานกลางถึงแพงๆ ด้วย

เรามีพื้นฐานแข็งแกร่งเพียงพอหรือยังในการผลักดันประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4.0 มีสักกี่เปอร์เซ็นต์ของคนไทยโดยรวม โดยเฉพาะคนอยู่นอกเมือง รับรู้และเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลง การก้าวกระโดดโดยคนที่พร้อม โดยไม่เหลียวมองคนอื่นว่าเป็นอย่างไร

ไหนว่าจะยึดศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรอินทรีย์ ดัชนีความสุข และความพอมีพอกินทุกครัวเรือน? แผนประเทศไทย 4.0 จะเป็นการฟื้นความคิด ความทะเยอทะยานดันให้ไทยเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่ หรือ Nics อีกรอบ ใช่หรือไม่

จะเป็นประเทศไทย 4.0 ได้อย่างไร ในเมื่อหนี้ครัวเรือน และหนี้ของประเทศทำให้คนไทยต้องแบกหนี้ต่อหัวจนหลังแอ่น แทบจะขาดความสามารถในการกู้จากต่างประเทศ การเร่งออกพันธบัตรมาขายหลายแสนล้านบาทนั้น เป็นเพราะรัฐบาลขาดเงินสดใช่หรือไม่

เราคุยฟุ้งว่าการสื่อสารทางโทรศัพท์ก้าวไปถึงระดับ 4 จี แต่ทั้งเมืองไม่มีโทรศัพท์สาธารณะให้ใช้อีกต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นบริการระดับพื้นฐานมีไว้ให้ใช้ แต่จะมีคนต้องการใช้หรือไม่ก็ตาม เราอ้างว่าทุกคนมีโทรศัพท์มือถือใช้ ไม่จำเป็นต้องมีตู้สาธารณะไว้ก็ได้

ประเทศไทย 4.0 จะเป็นอย่างไร ทุกคนหรือส่วนใหญ่ลืมตาอ้าปากได้จริงหรือ การสนับสนุนให้ธุรกิจย่อยหรือเอสเอ็มอีขยายฐานแข็งแกร่ง ช่างขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริง เมื่อร้านค้าย่อย โชห่วย ได้ล้มหายตายจากไปอย่างรวดเร็วเพราะการค้าแบบโมเดิร์นเทรด

ร้านค้าแบบสะดวกซื้อทุกหัวระแหง ทำให้ร้านค้า แม่ค้ารายย่อยใกล้สูญพันธุ์ ข้อเสนอแนะของพ่อค้ายักษ์ใหญ่ว่าด้วย “ทฤษฎี 2 สูง” คือ “การบริหารประเทศโดยปล่อยให้สินค้าราคาสูง และเงินเดือนสูงตามนั้น” เป็นแนวทางการค้าแบบกินเนียน กินไร้ติดขัด

ทุกวันนี้สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ต้นทุนสูงเพราะปัจจัยการผลิตสูง รายได้ตก แต่รายได้พ่อค้าขายปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ เคมีเกษตร และร้านค้าสะดวกซื้อรวยติดอันดับโลก ส่วนเกษตรกร ผู้บริโภค มีแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น ผู้ค้ารายย่อยตายเรียบ ที่ยังอยู่ก็เพียงรอวันตาย

ที่เจ็บปวดคือพ่อค้ารวยติดอันดับโลกไม่ยอมรับซื้อสินค้าเกษตร แถมยังใช้เล่ห์หาทางนำเข้าสินค้าเกษตรเพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ และสินค้าอื่นๆ เสริมอิทธิพลเหนือกลไกของตลาด ทั้งอยู่เหนือแนวคิด เส้นทางนโยบายของรัฐอีกด้วย

ประเทศไทย 4.0 ขาดมาตรการป้องกันการค้าผูกขาด พ่อค้าขาดจริยธรรม คุณธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น