ชาวบ้านได้เห็นดาวเด่นสำนักธรรมกายเล่นลิ้นโชว์ลีลา ตีฝีปากแนวตะแบง แสดงพฤติกรรมท้าทายความสามารถผู้รักษากฎหมาย หยามเหยียดความเป็นนิติรัฐ ตีข่าวป่าวร้องฟ้องชาวโลกทุกวัน ในที่สุดศาลอาญาอนุมัติหมายค้นสำนักชิตังเมขาดำอีกรอบ
ศาลกำหนดช่วงวันที่ 13-16 เดือนนี้ ให้เจ้าหน้าที่เลือกตามสะดวก! จะทำได้มั้ย?
เป็นเพียงหมายค้นเท่านั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจดูว่านักเทศน์เสียงเนียนหูชิตังเมขาดำ ผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีฟอกเงิน รับของโจร บุกรุกที่ดินของรัฐ และข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่จะตามมาเป็นพรวน ยังกบดานอยู่ในบริเวณสำนักพื้นที่กว้าง 4,000 ไร่หรือเผ่นหนีไปแล้ว
ชาวบ้านอยากรู้เหมือนกันว่าตัวชิตังเมขาดำยังอยู่ ระยะหลังเริ่มมีความไม่แน่ใจ เจ้าหน้าที่บอกได้แต่เพียงว่า “เชื่อว่ายังคงอยู่” ขณะที่พวกสาวกฝีปากเก่งระดับแนวหน้า นุ่งห่มเหลืองและนุ่งชุดขาวเล่นลิ้นตีสำนวนกำกวม อ้างว่าไม่พบเห็นนานกว่า 6 เดือนแล้ว
รับรองงานนี้ไม่หมูสำหรับเจ้าหน้าที่แน่ๆ เพราะคนนุ่งห่มเหลือง นุ่งชุดขาวในสำนักได้แข็งขืน เล่มเกมซ่อนกล สับเปลี่ยนตัวผู้รักษาการเจ้าอาวาส ปั่นหัวเจ้าหน้าที่เข้าขั้นแสดงจินตนาการบรรเจิด ตั้งตำแหน่ง “เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์” ช่วยผู้ต้องหาแบบไม่อาย
ทั้งสาวกนุ่งห่มเหลือง นุ่งชุดขาว เล่นลิ้น ลีลาตะแบง โชว์ความรู้ด้านกฎหมาย จิตวิทยามวลชน ความสามารถในการปลุกระดม จุดม็อบ ป่าวร้องว่าการบุกจะเกิดความรุนแรง
ใครจะทำให้เกิดความรุนแรง พวกสาวกที่ตกใจตามที่นายโฆษกบังอาจว่างั้นเรอะ!
มันก็ตลก เป็นโฆษก เป็นรองเจ้าอาวาส เป็นแกนนำสำนักระดับ 5 เสือ เล่นลิ้นอ้างหน้าด้านๆ ว่าไม่รู้ว่าหัวหน้าอยู่หรือไม่อยู่ ทั้งๆ ที่อ้างว่าเจ้าสำนักกระดิกตัวไปมอบตัวไม่ได้ เพราะอาพาธอาการปางตาย ชาวบ้านสงสัยว่าอ้างอาการป่วยไม่ยอมรับหมายศาลได้หรือ
เจตนาของชิตังเมขาดำและสาวกทั้งหลายชัดเจนว่าไม่ยอมรับอำนาจศาล สภาพนิติรัฐของประเทศไทย เป็นสำนักอยู่เหนือทั้งอาณาจักรและศาสนาจักร เป็นรัฐอิสระ!
สถานภาพของสำนักไม่ใช่วัดแน่นอน ไม่เปิดเผย ไม่ยอมให้คนทั่วไปเข้าเหมือนวัดอื่นๆ มีระบบป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ล่าตัวผู้ต้องหาอาชญากรร้าย
สาวกนุ่งห่มขาว ห่มจีวรเหลืองของพระร่วมรับบทเป็นโล่มนุษย์ วางแนวกำลังหลายชั้น มีแผนซับซ้อน แสดงพฤติกรรมปกป้องคุ้มครองชิตังเมขาดำ ไม่ยอมให้เข้าไปค้นหาจับกุมตัว ว่ากันง่ายๆ คือไม่เคารพกฎหมายนั่นเอง ปากก็อ้างว่าชิตังเมขาดำบริสุทธิ์
“ท่านถูกใส่ร้าย” ระยะหลังอ้างว่าความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีชิตังเมขาดำเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ยกย่องผู้ต้องหาคดีอาญาให้ดูสูงส่งเหลือคณา
เมื่อศาลออกหมายค้นให้แล้ว เจ้าหน้าที่ส่งทีมเข้าไปแล้ว เจอ รปภ.หน้าประตู จะดูซิว่าพวกยามจะให้เข้าหรือไม่ ถ้าไม่ยอม เจ้าหน้าที่ต้องรวบตัวพวก รปภ.เล่นงานเจ้าของบริษัททันที จะใช้มาตรา 44 หรือกฎหมายธรรมดาก็ได้ แล้วสอบสวนดูบัญชีการเสียภาษี
อ้อ! ต้องดูก่อนด้วยว่า รปภ.จะยอมเปิดประตูสำนักให้เข้าไปโชว์หมายค้นหรือไม่!ถ้ายอมเปิดประตู จากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องถาม รปภ.ว่า รู้มั้ยชิตังเมขาดำนอนป่วยอยู่ในอาคารหลังไหน! รับรองว่าเจอลีลาเล่นลิ้นซึ่งเป็นพฤติกรรมเอกลักษณ์ของสำนักแน่นอน
ชาวบ้านอยากรู้ว่า เข้าไปแล้วจะเผชิญสาวกนุ่งห่มเหลือง หรือนุ่งชุดขาวนั่งสวดเสียงดังหรือสวดในใจ พวกแนวหน้าคงอยากรู้ว่าจะโดนรวบตัวหรือไม่ ถ้านั่งนิ่งดื้อแพ่ง ณ จุดนี้เจ้าหน้าที่จะใช้ยุทธวิธีอย่างไร ใครนำหน้า ใช้เจ้าหน้าที่หญิง ชาย หรือรวมคณะเดียว
ดูว่าแม้กระทั่งบนถนนเส้นทางเข้าสู่บริเวณด้านใน มีคนและคนแต่งกายคล้ายนักบวชนั่งกันเต็มจนไม่มีพื้นที่ว่างหรือไม่ โดยปกติ ถ้านั่งในโบสถ์ วิหาร หรือที่ไหนก็ตาม คนนั่งข้างในสามารถขอแหวกทางเข้าออกไปปลดทุกข์ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้เสมอ
เจ้าหน้าที่มีคำถามง่ายๆ “ชิตังเมขาดำอยู่ไหน” ถ้ามีคำตอบว่าไม่รู้ ก็บอกว่าต้องเข้าไปค้น ถ้าเจอตัว ขอดูว่าป่วยหนัก ขาดำเน่าในจริงหรือไม่ เพราะผ่านไปกว่า 6 เดือน! ถ้าป่วยมากขนาดนั้นจริงไม่ยอมรับการรักษาขั้นผ่าตัด ป่านนี้โดนหามขึ้นเมรุเผาไปนานแล้ว
เป็นชาวพุทธผู้ฝักใฝ่ธรรมะ ดังเช่นสาวกนิกายชิตังเมย่อมเป็นผู้มีจิตมุทิตาการุณย์ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นพลเมืองดี เคารพกฎหมาย ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการจับกุมตัวผู้ต้องหาอาชญากรร้ายแรง สร้างความเสื่อมเสียให้กับสำนักอันเป็นที่เคารพของสาวก
มาถึงขั้นนี้ พฤติกรรมของสาวกไม่ใช่พุทธศาสนิกชนธรรมดาแน่ แต่เป็นผู้ปกป้องเจ้าสำนักนิกายชิตังเมขาดำ ไม่ว่าศาลจะออกหมายอะไร ก็ไม่ยอมรับทั้งนั้น ยอมตายว่างั้นเถอะ! ป่าวร้องให้สาวกทั่วโลกว่าเจ้าหน้าที่จะทำรุนแรง นั่นนี่โน่น มีแต่พวกงมงายที่เชื่อ
พฤติกรรมกระทำผิดกฎหมายมีมาโดยตลอด ล่าสุดสร้างสะพานหลายจุดไม่ได้รับอนุญาต แม้จะมี ก็ไม่ยอมให้ผู้อื่นได้ใช้ เอาไว้เฉพาะกิจกรรมของสาวกสำนักเท่านั้น แสดงให้เห็นจิตใจคับแคบ ต้องการแต่เงินบริจาค ถึงขั้นตั้งสหกรณ์ต่อท่อตรงส่งเงินเข้าสำนัก
นี่เป็นเดิมพันราคาแพงของทั้ง 2 ฝ่าย ภาครัฐต้องแสดงให้เห็นความสำเร็จในการรักษาสภาวะความเป็นนิติรัฐ ความสามารถในการดำเนินคดี จับกุมผู้หลบหนีหมายจับของศาลอาญา เป็นความยืดเยื้อ ภายใต้ความกดดันและความสงสัยว่าจะทำได้หรือไม่
ฝ่ายสาวกชิตังเมขาดำก็มีเดิมพันสูง ต้องไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ได้ตัวชิตังเมขาดำไปเด็ดขาด โดนจับสึกยัดตัวเข้าห้องขังระยะยาวประกันตัวไม่ได้แน่ เพราะพฤติกรรมดื้อแพ่งมาโดยตลอด จากนั้นคดีต่างๆ จะตามมา ถึงขั้นล่มสลายของสำนักชิตังเมขาดำก็เป็นได้
ถ้าไปเจอตัวชิตังเมขาดำ ก็ว่าไปตามรูปคดี แต่ถ้าค้นทั้งสำนักแล้วไม่พบจะมีคำถามว่ายังกบดานอยู่หรือหนีไปนานแล้ว ทุกฝ่ายต้องมีคำตอบให้ชาวบ้านฟังแล้วน่าเชื่อด้วยนะ
ศาลกำหนดช่วงวันที่ 13-16 เดือนนี้ ให้เจ้าหน้าที่เลือกตามสะดวก! จะทำได้มั้ย?
เป็นเพียงหมายค้นเท่านั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจดูว่านักเทศน์เสียงเนียนหูชิตังเมขาดำ ผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีฟอกเงิน รับของโจร บุกรุกที่ดินของรัฐ และข้อกล่าวหาอื่นๆ ที่จะตามมาเป็นพรวน ยังกบดานอยู่ในบริเวณสำนักพื้นที่กว้าง 4,000 ไร่หรือเผ่นหนีไปแล้ว
ชาวบ้านอยากรู้เหมือนกันว่าตัวชิตังเมขาดำยังอยู่ ระยะหลังเริ่มมีความไม่แน่ใจ เจ้าหน้าที่บอกได้แต่เพียงว่า “เชื่อว่ายังคงอยู่” ขณะที่พวกสาวกฝีปากเก่งระดับแนวหน้า นุ่งห่มเหลืองและนุ่งชุดขาวเล่นลิ้นตีสำนวนกำกวม อ้างว่าไม่พบเห็นนานกว่า 6 เดือนแล้ว
รับรองงานนี้ไม่หมูสำหรับเจ้าหน้าที่แน่ๆ เพราะคนนุ่งห่มเหลือง นุ่งชุดขาวในสำนักได้แข็งขืน เล่มเกมซ่อนกล สับเปลี่ยนตัวผู้รักษาการเจ้าอาวาส ปั่นหัวเจ้าหน้าที่เข้าขั้นแสดงจินตนาการบรรเจิด ตั้งตำแหน่ง “เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์” ช่วยผู้ต้องหาแบบไม่อาย
ทั้งสาวกนุ่งห่มเหลือง นุ่งชุดขาว เล่นลิ้น ลีลาตะแบง โชว์ความรู้ด้านกฎหมาย จิตวิทยามวลชน ความสามารถในการปลุกระดม จุดม็อบ ป่าวร้องว่าการบุกจะเกิดความรุนแรง
ใครจะทำให้เกิดความรุนแรง พวกสาวกที่ตกใจตามที่นายโฆษกบังอาจว่างั้นเรอะ!
มันก็ตลก เป็นโฆษก เป็นรองเจ้าอาวาส เป็นแกนนำสำนักระดับ 5 เสือ เล่นลิ้นอ้างหน้าด้านๆ ว่าไม่รู้ว่าหัวหน้าอยู่หรือไม่อยู่ ทั้งๆ ที่อ้างว่าเจ้าสำนักกระดิกตัวไปมอบตัวไม่ได้ เพราะอาพาธอาการปางตาย ชาวบ้านสงสัยว่าอ้างอาการป่วยไม่ยอมรับหมายศาลได้หรือ
เจตนาของชิตังเมขาดำและสาวกทั้งหลายชัดเจนว่าไม่ยอมรับอำนาจศาล สภาพนิติรัฐของประเทศไทย เป็นสำนักอยู่เหนือทั้งอาณาจักรและศาสนาจักร เป็นรัฐอิสระ!
สถานภาพของสำนักไม่ใช่วัดแน่นอน ไม่เปิดเผย ไม่ยอมให้คนทั่วไปเข้าเหมือนวัดอื่นๆ มีระบบป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ล่าตัวผู้ต้องหาอาชญากรร้าย
สาวกนุ่งห่มขาว ห่มจีวรเหลืองของพระร่วมรับบทเป็นโล่มนุษย์ วางแนวกำลังหลายชั้น มีแผนซับซ้อน แสดงพฤติกรรมปกป้องคุ้มครองชิตังเมขาดำ ไม่ยอมให้เข้าไปค้นหาจับกุมตัว ว่ากันง่ายๆ คือไม่เคารพกฎหมายนั่นเอง ปากก็อ้างว่าชิตังเมขาดำบริสุทธิ์
“ท่านถูกใส่ร้าย” ระยะหลังอ้างว่าความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีชิตังเมขาดำเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ยกย่องผู้ต้องหาคดีอาญาให้ดูสูงส่งเหลือคณา
เมื่อศาลออกหมายค้นให้แล้ว เจ้าหน้าที่ส่งทีมเข้าไปแล้ว เจอ รปภ.หน้าประตู จะดูซิว่าพวกยามจะให้เข้าหรือไม่ ถ้าไม่ยอม เจ้าหน้าที่ต้องรวบตัวพวก รปภ.เล่นงานเจ้าของบริษัททันที จะใช้มาตรา 44 หรือกฎหมายธรรมดาก็ได้ แล้วสอบสวนดูบัญชีการเสียภาษี
อ้อ! ต้องดูก่อนด้วยว่า รปภ.จะยอมเปิดประตูสำนักให้เข้าไปโชว์หมายค้นหรือไม่!ถ้ายอมเปิดประตู จากนั้นเจ้าหน้าที่ต้องถาม รปภ.ว่า รู้มั้ยชิตังเมขาดำนอนป่วยอยู่ในอาคารหลังไหน! รับรองว่าเจอลีลาเล่นลิ้นซึ่งเป็นพฤติกรรมเอกลักษณ์ของสำนักแน่นอน
ชาวบ้านอยากรู้ว่า เข้าไปแล้วจะเผชิญสาวกนุ่งห่มเหลือง หรือนุ่งชุดขาวนั่งสวดเสียงดังหรือสวดในใจ พวกแนวหน้าคงอยากรู้ว่าจะโดนรวบตัวหรือไม่ ถ้านั่งนิ่งดื้อแพ่ง ณ จุดนี้เจ้าหน้าที่จะใช้ยุทธวิธีอย่างไร ใครนำหน้า ใช้เจ้าหน้าที่หญิง ชาย หรือรวมคณะเดียว
ดูว่าแม้กระทั่งบนถนนเส้นทางเข้าสู่บริเวณด้านใน มีคนและคนแต่งกายคล้ายนักบวชนั่งกันเต็มจนไม่มีพื้นที่ว่างหรือไม่ โดยปกติ ถ้านั่งในโบสถ์ วิหาร หรือที่ไหนก็ตาม คนนั่งข้างในสามารถขอแหวกทางเข้าออกไปปลดทุกข์ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ได้เสมอ
เจ้าหน้าที่มีคำถามง่ายๆ “ชิตังเมขาดำอยู่ไหน” ถ้ามีคำตอบว่าไม่รู้ ก็บอกว่าต้องเข้าไปค้น ถ้าเจอตัว ขอดูว่าป่วยหนัก ขาดำเน่าในจริงหรือไม่ เพราะผ่านไปกว่า 6 เดือน! ถ้าป่วยมากขนาดนั้นจริงไม่ยอมรับการรักษาขั้นผ่าตัด ป่านนี้โดนหามขึ้นเมรุเผาไปนานแล้ว
เป็นชาวพุทธผู้ฝักใฝ่ธรรมะ ดังเช่นสาวกนิกายชิตังเมย่อมเป็นผู้มีจิตมุทิตาการุณย์ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นพลเมืองดี เคารพกฎหมาย ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการจับกุมตัวผู้ต้องหาอาชญากรร้ายแรง สร้างความเสื่อมเสียให้กับสำนักอันเป็นที่เคารพของสาวก
มาถึงขั้นนี้ พฤติกรรมของสาวกไม่ใช่พุทธศาสนิกชนธรรมดาแน่ แต่เป็นผู้ปกป้องเจ้าสำนักนิกายชิตังเมขาดำ ไม่ว่าศาลจะออกหมายอะไร ก็ไม่ยอมรับทั้งนั้น ยอมตายว่างั้นเถอะ! ป่าวร้องให้สาวกทั่วโลกว่าเจ้าหน้าที่จะทำรุนแรง นั่นนี่โน่น มีแต่พวกงมงายที่เชื่อ
พฤติกรรมกระทำผิดกฎหมายมีมาโดยตลอด ล่าสุดสร้างสะพานหลายจุดไม่ได้รับอนุญาต แม้จะมี ก็ไม่ยอมให้ผู้อื่นได้ใช้ เอาไว้เฉพาะกิจกรรมของสาวกสำนักเท่านั้น แสดงให้เห็นจิตใจคับแคบ ต้องการแต่เงินบริจาค ถึงขั้นตั้งสหกรณ์ต่อท่อตรงส่งเงินเข้าสำนัก
นี่เป็นเดิมพันราคาแพงของทั้ง 2 ฝ่าย ภาครัฐต้องแสดงให้เห็นความสำเร็จในการรักษาสภาวะความเป็นนิติรัฐ ความสามารถในการดำเนินคดี จับกุมผู้หลบหนีหมายจับของศาลอาญา เป็นความยืดเยื้อ ภายใต้ความกดดันและความสงสัยว่าจะทำได้หรือไม่
ฝ่ายสาวกชิตังเมขาดำก็มีเดิมพันสูง ต้องไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ได้ตัวชิตังเมขาดำไปเด็ดขาด โดนจับสึกยัดตัวเข้าห้องขังระยะยาวประกันตัวไม่ได้แน่ เพราะพฤติกรรมดื้อแพ่งมาโดยตลอด จากนั้นคดีต่างๆ จะตามมา ถึงขั้นล่มสลายของสำนักชิตังเมขาดำก็เป็นได้
ถ้าไปเจอตัวชิตังเมขาดำ ก็ว่าไปตามรูปคดี แต่ถ้าค้นทั้งสำนักแล้วไม่พบจะมีคำถามว่ายังกบดานอยู่หรือหนีไปนานแล้ว ทุกฝ่ายต้องมีคำตอบให้ชาวบ้านฟังแล้วน่าเชื่อด้วยนะ