xs
xsm
sm
md
lg

จับ “ธัมมชโย” ส่อลากยาว (อีกแล้ว) ดีเอสไอยังส่งหนังสือเชิญให้มอบตัว!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


“เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมาได้ให้คณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษ ที่ 27/2559 ทำหนังสือไปถึงผู้ปกครองฝ่ายสงฆ์ ทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินการนำตัวพระธัมมชโยมามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ ในวันนี้ยังได้ให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปยังวัดพระธรรมกาย เพื่อยื่นหนังสือถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อสอบถามว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกายหรือไม่ หากพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัด ก็ขอให้นำตัวพระธัมมชโยออกมามอบตัว”

“หากรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่ดำเนินการตามที่ดีเอสไอได้ทำหนังสือไปดังกล่าวก็อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเนื่องจากรักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย”

“ดีเอสไออยู่ระหว่างรอคำตอบจากการทำหนังสือส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ขอให้รอคำตอบจากหน่วยงานดังกล่าวก่อน”

นั่นคือคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี่เองของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่รับผิดชอบคดีธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดีความผิดที่เกี่ยวกับการรับของโจร และร่วมกันฟอกเงิน ที่เกี่ยวกับการดำเนินการกับธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับในเวลานี้ไม่น้อยกว่าสามใบแล้ว และหนึ่งในนั้นเป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

พิจารณาจากคำพูดดังกล่าวก็เข้าใจความหมายชัดเจนว่า “ยังไม่มีทาง” จับกุมธัมมชโย ตามที่มีการคาดหมายกันก่อนหน้านี้ว่าจะจับกุมหลังวันที่ 30 พฤศจิกายน แต่ไม่เกินวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสำคัญ แต่เมื่อฟังคำพูดล่าสุดมันก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการ “ส่งหนังสือ” ขอความร่วมมือ ขออนุญาต รวมไปถึง “หนังสือเชิญ” ให้ผู้ต้องหารายนี้ “เข้ามอบตัว” ต่อทางการ ซึ่งตามขั้นตอนแบบนี้มันก็ต้องใช้เวลาอีกหลายวัน กว่าจะส่งหนังสือไปถึง กว่าจะยืนยันว่าได้รับหนังสือแล้ว กว่าจะตอบ หรือว่ายังเงียบ ก็ต้องส่งหนังสือเตือนไปอีกฉบับสองฉบับ เหมือนกับมีขั้นตอนแบบว่า มีหมายเรียก เรียกไปครั้งสองครั้ง ถ้ายังไม่มาก็ออกหมายจับอะไรแบบนั้น ในขั้นตอนแบบนี้ก็คงใช้เวลาอีกเป็นเดือน

ที่สำคัญเวลานี้ยังไม่รู้ว่าผู้ต้องหายังคงอยู่ในวัดพระธรรมกาย หรือว่าหลบหนีออกไปแล้ว อย่างไรก็ดี เมื่อมีขั้นตอนให้อ้าง ให้ทำแบบนี้ มันก็ได้แต่รอฟังเท่านั้น แม้จะมองออกในทางยื้อเวลา หรือเตะถ่วงกันออกไปอีก ไม่ต่างจากการให้สิทธิพิเศษกับผู้ต้องหารายนี้

แน่นอนมักจะอ้างว่า “เป็นเรื่องละเอียดอ่อน” การบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นพระในวัด และยังมีบรรดาสาวก รวมไปถึงมวลชนที่ระดมมาเป็นกำแพงมนุษย์ขัดขวาง อาจเกิดเรื่องบานปลายได้นั้น เรื่องแบบนี้มันจะเกิดหรือไม่เกิดไม่รู้ แต่หากดำเนินการไปตามกฎหมายที่ถูกต้องแบบไม่เลือกปฏิบัติ เป็นผู้รักษากฎหมายโดยสมบูรณ์ มันก็ต้องทำตามหน้าที่ ใครขัดขวางก็จับคนนั้น บางทีก็อยากรู้เหมือนกันว่ามีใครบ้างที่กล้าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน เพราะจะมีโทษทางอาญา

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาบ้านเมืองที่ยังมีปัญหาส่วนสำคัญมาจากเรื่องการไม่บังคับใช้กฎหมายโดยเสมอภาค เลือกปฏิบัติ สองมาตรฐาน หรือไร้มาตรฐาน แล้วแต่จะว่ากันไป และกรณีที่เป็นแบบนี้แหละทำให้เกิดปัญหาใหม่ตามมา ซึ่งกรณีของธัมมชโย อยู่ในลักษณะที่ว่านี้ ซึ่งหากไม่จับกุมตัวหรือยื้อเวลาออกไปอีก มันก็ยิ่งส่งผลในทางลบกับกระบวนการยุติธรรมลงไปอีก

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากรูปการณ์เท่าที่เห็นแล้ว เชื่อว่าคงยังอีกนานกว่าจะมีการจับกุม หรือดำเนินการตามกฎหมายต่อไป หรืออาจต้องรอเวลาตามที่ทางอัยการได้แถลงไว้ก่อนหน้านี้ก็ได้ว่าให้ส่งตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องศาลก่อนหมดอายุความภายในเวลา 15 ปี หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ เพราะในความเป็นจริงอำนาจรัฐไม่สามารถครอบคลุมอย่างเสมอภาคได้ทุกแห่งแล้ว!
กำลังโหลดความคิดเห็น