กระแสช่วยเหลือชาวนาจากหลายวงการ ให้ความทุกข์ยากเบาลงเพราะปัญหาราคาข้าวตกต่ำยังคงแรง หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรเอกชนพากันเปิดพื้นที่ช่วยรับซื้อข้าวตามสภาพที่รับได้ ทหารออกไปเกี่ยวข้าว นวดข้าว รวมทั้งขนข้าวไปขาย ช่วยลดต้นทุนแพง
รัฐบาลคุณท่านยังหามาตรการและโครงสร้างเชิงถาวรเพื่อช่วยเหลือชาวนาให้ผ่านฤดูกาลนี้ไปก่อน เป็นการผ่อนแรงจากภาระต้นทุนสูง ราคาขายต่ำ มีรายได้พอให้ผ่านไปได้ ส่วนมาตรการอื่นๆ ในภายหน้าก็หวังว่าจะช่วยเหลือชาวนาให้มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้
กระแสช่วยเหลือชาวนามาแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เจ้าของโรงสี พ่อค้าคนกลาง ผู้ส่งออก ซึ่งอยู่ระดับกลางน้ำ ปลายน้ำ ไม่สามารถกดราคา กดหัวชาวนาได้ง่ายเหมือนเดิม กระแสของการพึ่งตนเองในการสีข้าว ขายข้าว ก็ได้สร้างความเห็นใจด้วย
ระดับพลังของการรับซื้อข้าวโดยตรงจากชาวนายังห่างไกลจากสภาพความต้องการแท้จริงตามกลไกของตลาด ซึ่งมีความต้องการเพื่อการบริโภคภายในประเทศ และส่งออก
ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าของโรงสี ไซโล หรือพ่อค้ามีโกดังเก็บข้าวไว้เองได้ การที่ชาวนาต้องการผู้รับซื้อ หรือเก็บข้าวไว้เอง ย่อมมีปัญหาต่อเนื่องโยงกับการต้องมียุ้งฉางเก็บข้าว
ข้าวเปลือกต้นฤดู ทำให้มีข้าวออกมามาก ยิ่งปริมาณเกินความต้องการบริโภคและรับซื้อเพื่อส่งออก พื้นที่โกดังเก็บข้าวมีน้อย ก็ทำให้ปัญหากระจุกตัว สาหัสกว่าปกติ
ยิ่งมีขบวนการกดราคาข้าวโดยพ่อค้าด้วยแล้ว ชาวนาก็เป็นยิ่งกว่าลูกไก่ในกำมือ!
ราคาข้าวจึงต่ำกว่าเพราะการอ้างความชื้นและเหตุอื่นๆ สารพัด ชาวนาไร้อำนาจต่อรองจึงต้องการให้ผ่านไปโดยมีเงินใช้หนี้ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้อยู่รอด
สภาพดักดานเช่นนี้เป็นมาหลายสิบปี นับวันจะเลวร้ายเมื่อชาวนาต้องขายนาเพราะแบกรับปัญหาไม่ไหว คนรุ่นลูกหลานไม่ต้องการทำนา เมื่อเห็นความทุกข์ยากของพ่อแม่ อำนาจต่อรองด้านอื่นก็ลดลงเมื่อไม่มีควายไถนาเอง ต้องพึ่งเครื่องจักรกลทุกระดับ
ถ้ามีความจำเป็นต้องจ้างคนด้วยอัตราค่าแรง 300 บาทต่อวัน ยิ่งเพิ่มภาระหนัก
การลงแขกแทบไม่เหลือ เมื่อสภาพของชุมชนเปลี่ยนไป การพึ่งพาช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างเต็มแรงเหมือนยุคก่อน ไม่มีอีกต่อไป บางช่วงธรรมชาติไม่เป็นใจ ก็ยิ่งซ้ำเติม
ชาวนายุคนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของที่นาและพวกเช่าที่ดินทำนา ล้วนไม่มียุ้งฉาง ระบบการทำนายุคใหม่คือการใช้เครื่องจักรไถ คราด หว่าน เก็บเกี่ยว พ่นเมล็ดข้าวใส่รถขนส่ง เอาไปขายให้โรงสี ทำให้ไม่มีเวลาตากข้าว ความชื้นสูง ราคาข้าวจึงต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
การช่วยเหลือตัวเอง เช่น การสีข้าวขายเอง ความช่วยเหลือภาครัฐ และหน่วยงานต่างๆ จึงเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว ฤดูกาลต่อไป ถ้ารัฐบาลไม่มีคุณท่านเป็นผู้นำ กระแสการช่วยเหลืออาจเป็นไปในรูปแบบอื่น นักการเมือง พ่อค้าคงเห็นชาวนาเป็นเหยื่อโอชะ
ภายใต้รัฐบาลคุณท่านแท้ๆ ยังมีนักการเมืองกล้ากดราคาข้าว เริ่มรับซื้อจากชาวนา เอามาขายให้ผู้บริโภคในราคาถูก อ้างว่าเป็นการช่วยเหลือชาวนา
ราคาข้าวหอมมะลิชาวนาควรขายได้ในราคา 40-45 บาทต่อกิโล ก็นำมาขายให้ผู้บริโภคเพียง 20-25 บาทต่อกิโล เมื่อเป็นแบบนี้คนทั่วไปดูไม่ออกว่าชาวนาจะได้อะไร
เห็นได้ชัดว่าการใช้ข้าวปริมาณน้อยมาซื้อขายเพื่อกดราคาทั่วไปให้ต่ำลง ไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองตัวแสบเท่านั้น ยังมีเครือข่ายพ่อค้าอยากเอาหน้า ทำตัวเป็นนักบุญ รับซื้อข้าว ขายข้าว แต่ราคาขาย 25 บาทต่อกิโล แล้วจะให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้อย่างไร
สันดานหรือธรรมชาติของพ่อค้า จะให้ยอมขาดทุนเพื่อเอาหน้า เป็นไปไม่ได้!
สันดานนักการเมืองก็ย่อมต้องการสร้างภาพ หวังคะแนนนิยมให้คงอยู่ บางพวกหน้าด้านถึงขนาดทำอะไรก็ได้ขอเพียงให้ได้เป็นข่าว สร้างกระแสลวงโลก พอโดนจับได้ไล่ทันก็เลิกซื้อขายข้าว เพราะจำนวนที่นำข้าวมาสร้างพฤติกรรมลวงโลกมีเพียงไม่กี่ตัน
ฤดูกาลนี้ยังเต็มกลืน ถ้าไม่มีกระแสต่อเนื่อง จะทำอย่างไรถ้าสภาพตลาดข้าวในและต่างประเทศยังเป็นเช่นนี้อยู่ ที่น่าห่วงคือ ราคาตกต่ำจะเข้าทางกลุ่มอื่นๆ เช่นการชี้แนะให้ชาวนาเลิกปลูกข้าว หันไปปลูกพืชชนิดอื่น เช่นข้าวโพดป้อนโรงงานอาหารสัตว์
ดูแล้วเนียนพอใช้ มีเสียงจากบางส่วนในรัฐบาลให้ปลูกข้าวโพด แต่มีคนรู้ทันร้องเอะอะว่าเป็นแผนเข้าทางพ่อค้า กลุ่มธุรกิจเกษตรรายใหญ่ ทำให้การชี้นำไม่ได้ผลเต็มที่
ยิ่งมีคลิปเปิดโปงว่ากลุ่มธุรกิจการเกษตรชักนำให้ชาวนาปลูกข้าวโพด แต่ไม่รับซื้อด้วยราคาประกัน เป็นเล่ห์การค้าเพื่อขายเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี และยาปราบศัตรูพืช ก็ยิ่งเป็นภัยร้ายแรงในการฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมชาวนาข้าว และเกษตรกรให้จมอยู่ในสภาพทาส
เมื่อคลิปถูกเผยแพร่ มีข่าวว่ากลุ่มธุรกิจเกษตรที่โดนประจานพฤติกรรมเอาเปรียบต่างเร่งไล่ล่าลบในโซเชียลมีเดีย แต่แผนชั่วร้ายได้ถูกเปิดโปงให้เห็นว่าเป็นกลุ่มหน้าเดิม
นักบุญกำมะลอจึงโดนกระชากหน้ากากให้เห็นสภาพพ่อค้าหน้าเลือด!
ทางออกที่จีรังไม่ใช่ไม่มี แต่ต้องการความร่วมมืออย่างจริงจังของทุกฝ่าย เริ่มจากชาวนาเพื่อสร้างอำนาจต่อรองอย่างจริงจัง เริ่มด้วยการเลิกใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมีเกษตรทุกชนิด เพื่อเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ ลดต้นทุน แรงกดดันและสภาพทาสปัจจัยการผลิต
การรวมตัวตั้งสหกรณ์หรือองค์กรอื่น โดยให้รัฐบาลและหน่วยงานที่ต้องการช่วยเหลือชาวนาสร้างโครงการ โครงสร้างต้นแบบ ให้เป็นลักษณะเอื้อประโยชน์รวมกัน สถาบันการเงินของรัฐต้องช่วยเหลือเต็มที่ ไม่มีการยึดโฉนดเอาไปให้นักกว้านซื้อที่ดิน
คนดีในประเทศนี้ยังมีเยอะ ถ้าต้องการช่วยเหลือชาวนาแท้จริง ต้องมีความจริงใจต่อเนื่อง อำนาจรัฐและกฎหมายมีพลังเพียงพอ ขอให้เอาจริงไม่เกรงใจพ่อค้าเท่านั้น
รัฐบาลคุณท่านยังหามาตรการและโครงสร้างเชิงถาวรเพื่อช่วยเหลือชาวนาให้ผ่านฤดูกาลนี้ไปก่อน เป็นการผ่อนแรงจากภาระต้นทุนสูง ราคาขายต่ำ มีรายได้พอให้ผ่านไปได้ ส่วนมาตรการอื่นๆ ในภายหน้าก็หวังว่าจะช่วยเหลือชาวนาให้มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้
กระแสช่วยเหลือชาวนามาแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เจ้าของโรงสี พ่อค้าคนกลาง ผู้ส่งออก ซึ่งอยู่ระดับกลางน้ำ ปลายน้ำ ไม่สามารถกดราคา กดหัวชาวนาได้ง่ายเหมือนเดิม กระแสของการพึ่งตนเองในการสีข้าว ขายข้าว ก็ได้สร้างความเห็นใจด้วย
ระดับพลังของการรับซื้อข้าวโดยตรงจากชาวนายังห่างไกลจากสภาพความต้องการแท้จริงตามกลไกของตลาด ซึ่งมีความต้องการเพื่อการบริโภคภายในประเทศ และส่งออก
ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าของโรงสี ไซโล หรือพ่อค้ามีโกดังเก็บข้าวไว้เองได้ การที่ชาวนาต้องการผู้รับซื้อ หรือเก็บข้าวไว้เอง ย่อมมีปัญหาต่อเนื่องโยงกับการต้องมียุ้งฉางเก็บข้าว
ข้าวเปลือกต้นฤดู ทำให้มีข้าวออกมามาก ยิ่งปริมาณเกินความต้องการบริโภคและรับซื้อเพื่อส่งออก พื้นที่โกดังเก็บข้าวมีน้อย ก็ทำให้ปัญหากระจุกตัว สาหัสกว่าปกติ
ยิ่งมีขบวนการกดราคาข้าวโดยพ่อค้าด้วยแล้ว ชาวนาก็เป็นยิ่งกว่าลูกไก่ในกำมือ!
ราคาข้าวจึงต่ำกว่าเพราะการอ้างความชื้นและเหตุอื่นๆ สารพัด ชาวนาไร้อำนาจต่อรองจึงต้องการให้ผ่านไปโดยมีเงินใช้หนี้ และใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้อยู่รอด
สภาพดักดานเช่นนี้เป็นมาหลายสิบปี นับวันจะเลวร้ายเมื่อชาวนาต้องขายนาเพราะแบกรับปัญหาไม่ไหว คนรุ่นลูกหลานไม่ต้องการทำนา เมื่อเห็นความทุกข์ยากของพ่อแม่ อำนาจต่อรองด้านอื่นก็ลดลงเมื่อไม่มีควายไถนาเอง ต้องพึ่งเครื่องจักรกลทุกระดับ
ถ้ามีความจำเป็นต้องจ้างคนด้วยอัตราค่าแรง 300 บาทต่อวัน ยิ่งเพิ่มภาระหนัก
การลงแขกแทบไม่เหลือ เมื่อสภาพของชุมชนเปลี่ยนไป การพึ่งพาช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างเต็มแรงเหมือนยุคก่อน ไม่มีอีกต่อไป บางช่วงธรรมชาติไม่เป็นใจ ก็ยิ่งซ้ำเติม
ชาวนายุคนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของที่นาและพวกเช่าที่ดินทำนา ล้วนไม่มียุ้งฉาง ระบบการทำนายุคใหม่คือการใช้เครื่องจักรไถ คราด หว่าน เก็บเกี่ยว พ่นเมล็ดข้าวใส่รถขนส่ง เอาไปขายให้โรงสี ทำให้ไม่มีเวลาตากข้าว ความชื้นสูง ราคาข้าวจึงต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
การช่วยเหลือตัวเอง เช่น การสีข้าวขายเอง ความช่วยเหลือภาครัฐ และหน่วยงานต่างๆ จึงเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว ฤดูกาลต่อไป ถ้ารัฐบาลไม่มีคุณท่านเป็นผู้นำ กระแสการช่วยเหลืออาจเป็นไปในรูปแบบอื่น นักการเมือง พ่อค้าคงเห็นชาวนาเป็นเหยื่อโอชะ
ภายใต้รัฐบาลคุณท่านแท้ๆ ยังมีนักการเมืองกล้ากดราคาข้าว เริ่มรับซื้อจากชาวนา เอามาขายให้ผู้บริโภคในราคาถูก อ้างว่าเป็นการช่วยเหลือชาวนา
ราคาข้าวหอมมะลิชาวนาควรขายได้ในราคา 40-45 บาทต่อกิโล ก็นำมาขายให้ผู้บริโภคเพียง 20-25 บาทต่อกิโล เมื่อเป็นแบบนี้คนทั่วไปดูไม่ออกว่าชาวนาจะได้อะไร
เห็นได้ชัดว่าการใช้ข้าวปริมาณน้อยมาซื้อขายเพื่อกดราคาทั่วไปให้ต่ำลง ไม่ใช่เฉพาะนักการเมืองตัวแสบเท่านั้น ยังมีเครือข่ายพ่อค้าอยากเอาหน้า ทำตัวเป็นนักบุญ รับซื้อข้าว ขายข้าว แต่ราคาขาย 25 บาทต่อกิโล แล้วจะให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้อย่างไร
สันดานหรือธรรมชาติของพ่อค้า จะให้ยอมขาดทุนเพื่อเอาหน้า เป็นไปไม่ได้!
สันดานนักการเมืองก็ย่อมต้องการสร้างภาพ หวังคะแนนนิยมให้คงอยู่ บางพวกหน้าด้านถึงขนาดทำอะไรก็ได้ขอเพียงให้ได้เป็นข่าว สร้างกระแสลวงโลก พอโดนจับได้ไล่ทันก็เลิกซื้อขายข้าว เพราะจำนวนที่นำข้าวมาสร้างพฤติกรรมลวงโลกมีเพียงไม่กี่ตัน
ฤดูกาลนี้ยังเต็มกลืน ถ้าไม่มีกระแสต่อเนื่อง จะทำอย่างไรถ้าสภาพตลาดข้าวในและต่างประเทศยังเป็นเช่นนี้อยู่ ที่น่าห่วงคือ ราคาตกต่ำจะเข้าทางกลุ่มอื่นๆ เช่นการชี้แนะให้ชาวนาเลิกปลูกข้าว หันไปปลูกพืชชนิดอื่น เช่นข้าวโพดป้อนโรงงานอาหารสัตว์
ดูแล้วเนียนพอใช้ มีเสียงจากบางส่วนในรัฐบาลให้ปลูกข้าวโพด แต่มีคนรู้ทันร้องเอะอะว่าเป็นแผนเข้าทางพ่อค้า กลุ่มธุรกิจเกษตรรายใหญ่ ทำให้การชี้นำไม่ได้ผลเต็มที่
ยิ่งมีคลิปเปิดโปงว่ากลุ่มธุรกิจการเกษตรชักนำให้ชาวนาปลูกข้าวโพด แต่ไม่รับซื้อด้วยราคาประกัน เป็นเล่ห์การค้าเพื่อขายเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี และยาปราบศัตรูพืช ก็ยิ่งเป็นภัยร้ายแรงในการฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมชาวนาข้าว และเกษตรกรให้จมอยู่ในสภาพทาส
เมื่อคลิปถูกเผยแพร่ มีข่าวว่ากลุ่มธุรกิจเกษตรที่โดนประจานพฤติกรรมเอาเปรียบต่างเร่งไล่ล่าลบในโซเชียลมีเดีย แต่แผนชั่วร้ายได้ถูกเปิดโปงให้เห็นว่าเป็นกลุ่มหน้าเดิม
นักบุญกำมะลอจึงโดนกระชากหน้ากากให้เห็นสภาพพ่อค้าหน้าเลือด!
ทางออกที่จีรังไม่ใช่ไม่มี แต่ต้องการความร่วมมืออย่างจริงจังของทุกฝ่าย เริ่มจากชาวนาเพื่อสร้างอำนาจต่อรองอย่างจริงจัง เริ่มด้วยการเลิกใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมีเกษตรทุกชนิด เพื่อเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ ลดต้นทุน แรงกดดันและสภาพทาสปัจจัยการผลิต
การรวมตัวตั้งสหกรณ์หรือองค์กรอื่น โดยให้รัฐบาลและหน่วยงานที่ต้องการช่วยเหลือชาวนาสร้างโครงการ โครงสร้างต้นแบบ ให้เป็นลักษณะเอื้อประโยชน์รวมกัน สถาบันการเงินของรัฐต้องช่วยเหลือเต็มที่ ไม่มีการยึดโฉนดเอาไปให้นักกว้านซื้อที่ดิน
คนดีในประเทศนี้ยังมีเยอะ ถ้าต้องการช่วยเหลือชาวนาแท้จริง ต้องมีความจริงใจต่อเนื่อง อำนาจรัฐและกฎหมายมีพลังเพียงพอ ขอให้เอาจริงไม่เกรงใจพ่อค้าเท่านั้น