xs
xsm
sm
md
lg

ค้านสร้างสะพานเกียกกาย สถาปนิกชี้กระทบอาคารรัฐสภาใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายขวัญสรวง อติโพธิ อาจารย์พิเศษประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึง กรณีปัญหาความขัดแย้งในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่แยกเกียกกาย ว่า การสร้างรัฐสภาแห่งใหม่นี้ ถูกยื้อระยะเวลามานาน จากสาเหตุหลายๆปัจจัย มีคนหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย จนล่าสุดสมาคมสถาปนิกที่ได้ออกแบบโครงสร้างของอาคารรัฐสภาได้ร่วมประชุมกัน และจะมีการเข้าพบ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
นายขวัญสรวง กล่าวว่า การก่อสร้างรัฐสภาแห่งนี้ ถ้าจะพูดถึงงบประมาณในการก่อสร้างไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน ค่าเวนคืน ราคาเกือบ 4 หมื่นล้านบาท แต่พอมีการประกวดแบบการก่อสร้าง ก็มีผู้ชนะด้วยเหตุผลด้านรูปลักษณ์เป็นสำคัญ และความสง่าราศี ที่ตรงบริเวณเกียกกาย คือที่ที่ทางจุฬาฯ เขาชี้มา เพราะอาคารรัฐสภา ถือว่าเป็นหน้าเป็นตา เป็นเกียรติ ต้องปรากฏตัวให้สวยมากๆ ซึ่งแบบที่เขาชนะมา ตนก็ไม่สงสัยเพราะออกแบบได้สวย และที่สำคัญทั้ง 2 ทาง ติดทางถนนและทางน้ำด้วย ฝั่งน้ำก็ถือเป็นที่วาง ที่สามารถแสดงตัวได้รอบด้าน อันนี้ตนยอมรับ
ส่วนเรื่องของทางกทม. ที่มีความพยายามจะสร้างสะพาน ปัญหานี้ กทม.ก็คือข้าราชการที่มีหน้าที่ชอบหางานประจำ เช่น ฝ่ายโยธาฯ ก็จะหาสะพานมาสร้าง แต่ผังเมืองของกทม. ถูกสร้างมาแบบหยาบๆ มันก็จะมีสะพานอยู่ไม่กี่แห่ง แล้วนานไปสะพานก็อยู่กับเมืองไม่กี่แห่ง ซึ่งก็มีสะพานตกน้ำอยู่หลายแห่ง เช่น สะพานลาดหญ้า-มหาพฤฒาราม สะพานถนนจันทน์-เจริญนคร สะพานราชวงศ์-ท่าดินแดง
"อย่างสะพานเกียกกาย ที่กทม.หยิบยกขึ้นมาว่าเป็นสะพานตกน้ำอีกอันหนึ่ง แต่การสร้างสะพานดังกล่าว ดันมาชนกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ถูกดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 54 ซึ่งก็มี พ.ร.บ. ควบคุมอาคารรอบๆ ว่าต่อไปอย่าให้มีอะไรมาทำให้อาคารเสื่อมลง มีหลักควบคุมความสูง แต่ก็ปรากฏว่า กทม.ทำพฤติกรรมเตะถ่วง สภาก็สร้างไปเรื่อยๆ" นายขวัญสรวง กล่าว
นายขวัญสรวง กล่าวว่า ยิ่งในขณะนี้ภาพลักษณ์ของการเมืองไม่ดีต่อสังคม สภาใหม่จึงไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่ว่าจะสวยแค่ไหนแต่คนไม่ให้คุณค่า แต่ตนเชื่อว่า ถ้ามันมีโอกาสเกิด มันจะเป็นพลังที่จะปกป้องตัวเองได้ว่า อาคารนี้จะเป็นเกรียติ เป็นศรี แต่มันยังไม่ปรากฏตัว แล้วตกที่นั่งของอารมณ์สังคมด้วย เพราะใน
การที่จะคุยกันให้ถูกต้องว่า การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำที่จะมาบดบังความสวยงามของอาคารรัฐสภานั้น จะทำให้รูปลักษณ์ของอาคารรัฐสภาเสียหาย มันไม่มีเพื่อน ไม่มีพวกพ้อง มีแต่พวกองค์การวิชาชีพ ที่เขาเห็นความเสียหายดังกล่าว แต่สาธารณชนไม่มีใครสนใจ แต่ถ้ามีคนบอกว่า จะทำสะพานเฉียดพระปรางค์วัดอรุณฯ รับรองคนลุกฮือแน่นอน
ทั้งนี้ สะพานอันนี้ จะกินระยะทางกว่า 5 กม. ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆ ตัดมาจากสะพานควาย ในแง่เทคนิก ไม่ได้ง่าย งบประมาณในการสร้าง ในการเวนคืน กว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งกำลัวจะออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืน พยายามจะดึงดันทำให้ได้ เพราะฉะนั้นในตอนนี้ มีเรื่องความสมประโยชน์ในหลายๆอย่าง คิดได้อย่างไร ที่อยู่ดีๆ จะให้คนอยู่สะพานควายข้ามมาฝั่งธน และพอไปดูภาพรวมของสะพาน อุโมงค์ ทั้งหมด ผมคิดว่าสะพานเกียกกายไม่มีความจำเป็นอย่างที่สุด
"ในส่วนของคณะผู้ออกแบบนั้น พวกเขาไม่ได้หวงแบบ เพราะถือว่าเป็นงานหลวงที่ผ่านการประกวดไปแล้ว ที่สำคัญใช้เงินหลวงด้วย ในตอนนี้เขาก็พยายามใช้หลักวิชาการ วิชาชีพเข้าสู้ ว่ากันตรงเฉพาะสะพาน เพราะเขาเห็นว่าสะพานดังกล่าว สามารถทำทางเลี่ยงได้ถึง 4 แบบ แต่ทางกทม.กลับไม่ศึกษา" นายขวัญสรวง กล่าว
นายขวัญสรวง กล่าวว่า ทางสถาปนิกที่ออกแบบเห็นว่า การสร้างสะพานดังกล่าวเป็นการพังแบบของอาคารรัฐสภาทั้งหมด และที่สำคัญคือ กระทบด้านความปลอดภัยของตัวอาคารอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการก่อการร้าย ที่กรมสรรพาวุธเขาก็เห็นว่า ผู้ร้ายสามารถยิงลงมาจากสะพานดังกล่างได้อย่างง่ายดาย
"ผมเชื่อว่าสะพานเกียกกาย จะเป็นมลทินให้กับอาคารรัฐสภา เรื่องใหญ่ของการสร้างสะพานอีกอย่างหนึ่งก็คือ การสร้างสะพาน จะยิ่งทำให้ผังเมืองยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่ หากจะสร้างสะพานตามถนนที่ตัดกันอย่างไม่มีแบบแผน เมืองก็ยิ่งจะกระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ที่มันสวนทางกับหลักผังเมือง ที่จะต้องทำให้เมืองมีความหนาแน่น และเปิดโอกาสให้ไปใช้รถไฟฟ้ากันเยอะๆ ต้องทุเลารถ คุมการใช้รถให้ได้ นี่คือหลักในการแก้ไขปัญหาจราจร แต่บ้านเรากลับไม่มีใครพูดถึง ประเทศเราเป็นประเทศเดียว ที่มีการสร้างรถไฟฟ้า พร้อมกับสร้างทางด่วน แล้วสุดท้ายรถไฟฟ้าใครจะขึ้น นี่คือภาพใหญ่ที่เราไม่มีความคิดหลักการอันนี้อยู่เลย" "นายขวัญสรวง กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น