เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (18 ธ.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายแก้วสรร อติโพธิ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายขวัญสรวง อติโพธิ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยสมาชิกเครือข่ายหลายกลุ่ม อาทิ ชมรมวิศวฯจุฬาฯร่วมปฏิรูปประเทศไทย เครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กลุ่มจุฬาประชาคม กลุ่มธรรมศาสตร์อภิวัฒน์ประเทศไทย กลุ่มจุฬาฯรักประเทศไทย กลุ่มไทยสปริง และกลุ่มที่มีชื่อว่า “สนับสนุนนายกฯตู่..เรียกร้องค่าเสียหายจำนำข้าว..จากรัฐบาลปู (สตป.)”เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกพร้อมรายชื่อผู้ร่วมสนับสนุนกว่า 10,800 รายชื่อ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในกรณีโครงการรับจำนำข้าวที่พบตัวเลขขาดทุนทางบัญชีกว่า 5.1 แสนล้านบาท ซึ่งตามกฎหมายแล้วนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่านายกรัฐมนตรี จะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ต้องตั้งคณะกรรมการดังกล่าวตั้งแต่มีการตรวจสอบพบความเสียหาย แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีการดำเนินการดังกล่าว แต่อย่างใด
นายแก้วสรร กล่าวว่า การที่อัยการสูงสุด(อสส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังถกเถียงกันว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ตนอยากให้เลิกพูดเรื่องทุจริต แต่อยากให้มองว่าเกิดความเสียหายแล้ว และจำเป็นต้องชดใช้ความเสียหายดังกล่าว โดยให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินคดีเรียกค่าสินไหมทดแทนกับผู้ที่เกี่ยวข้อง กับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการยื่นหนังสือครั้งนี้ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนของรัฐบาลออกมารับหนังสือดังกล่าว โดย พล.อ.สกล กล่าวว่า ที่ตนมารับเรื่องด้วยตัวเอง เพราะได้รับการประสานจากนายแก้วสรร ผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้มารับเรื่องโดยตรง หากมีกลุ่มอื่นประสานขอให้มีตัวแทนโดยตรงจากนายกฯมารับเรื่องเมื่อเราพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เร่งด่วนก็จะส่งตัวแทนสลับกันมารับเรื่อง ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมรับฟังปัญหาต่างๆ ไม่ว่าประชาชนจะเดือดร้อนในเรื่องใดสามารถมายื่นเรื่องที่ศูนย์บริการประชาชนได้ตลอด ที่ผ่านมาหลายเรื่องสามารถแก้ไขได้แล้ว และเรื่องที่ร้องเรียนนั้น นายกฯรับทราบตลอดและสรุปในแต่ละสัปดาห์ ว่ามีเรื่องร้องเรียนประเด็นใดบ้าง และเรื่องใดที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำกิน การไม่ได้รับความเป็นธรรม ราคาสินค้า เป็นต้น นายกฯ จะสั่งการให้แต่ละกระทรวงรับไปแก้ไขต่อไป
นายแก้วสรร กล่าวว่า การที่อัยการสูงสุด(อสส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังถกเถียงกันว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ตนอยากให้เลิกพูดเรื่องทุจริต แต่อยากให้มองว่าเกิดความเสียหายแล้ว และจำเป็นต้องชดใช้ความเสียหายดังกล่าว โดยให้นายกรัฐมนตรี ดำเนินคดีเรียกค่าสินไหมทดแทนกับผู้ที่เกี่ยวข้อง กับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการยื่นหนังสือครั้งนี้ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนของรัฐบาลออกมารับหนังสือดังกล่าว โดย พล.อ.สกล กล่าวว่า ที่ตนมารับเรื่องด้วยตัวเอง เพราะได้รับการประสานจากนายแก้วสรร ผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้มารับเรื่องโดยตรง หากมีกลุ่มอื่นประสานขอให้มีตัวแทนโดยตรงจากนายกฯมารับเรื่องเมื่อเราพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เร่งด่วนก็จะส่งตัวแทนสลับกันมารับเรื่อง ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมรับฟังปัญหาต่างๆ ไม่ว่าประชาชนจะเดือดร้อนในเรื่องใดสามารถมายื่นเรื่องที่ศูนย์บริการประชาชนได้ตลอด ที่ผ่านมาหลายเรื่องสามารถแก้ไขได้แล้ว และเรื่องที่ร้องเรียนนั้น นายกฯรับทราบตลอดและสรุปในแต่ละสัปดาห์ ว่ามีเรื่องร้องเรียนประเด็นใดบ้าง และเรื่องใดที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำกิน การไม่ได้รับความเป็นธรรม ราคาสินค้า เป็นต้น นายกฯ จะสั่งการให้แต่ละกระทรวงรับไปแก้ไขต่อไป