xs
xsm
sm
md
lg

พท.เดือด เฉ่งสภาปล่อยไทยสปริงจ้อ ซัด ล้ม รบ.มีประโยชน์แฝง ปลุกสาวก 1 ล.ต้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษก พท.ประณามไทยสปริง ใช้ห้องแถลงข่าวสภา ประกาศชุมนุมออนไลน์ต้านระบอบแม้ว โจมตีรัฐ ทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภา อัดน่าละอาย ใช้สถานที่ไม่เหมาะ ติงสภาละเลย หวั่นกลุ่มอื่นเอาอย่าง ยันชง ปธ.สภาสอบ แก๊ง ส.ส.พท.ถล่มซ้ำ ใช้ระบบนอกสภาล้ม รบ.เวทีสภาไม่เหมาะทำแตกแยก ซัดรับใช้เผด็จการใครกันทรยศชาติ เชื่อรบ.ล้มได้ประโยชน์ เหตุหวั่นคืนเงินสินบนยึดทรัพย์ “แม้ว” ปลุกสาวกตั้งเวทีขู่กลับ หวังเกณฑ์ 1 ล้านรวมตัว กทม.

วันนี้ (14 มิ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนกลุ่มไทยสปริง นำโดย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และนายขวัญสรวง อติโพธิ เครือข่ายกลุ่มไทยสปริง ใช้ห้องแถลงข่าวรัฐสภา แถลงข่าวเปิดตัว การประกาศการชุมนุมทางออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “ไทยสปริง 2 : ชุมนุมออนไลน์ แข็งข้อพวกทรยศ” ซึ่งได้มีการเปิดเพจทางเฟซบุ๊ก โดยจะเริ่มกิจกรรมในวันที่ 23 มิ.ย.ว่า การใช้ห้องแถลงข่าวรัฐสภาเป็นสถานที่แถลงข่าว ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภา รวมถึงเนื้อหาของการแถลงข่าวก็เป็นเรื่องของความขัดแย้งและการโจมตีรัฐบาลนั้น ตนมองว่าไม่เหมาะสม เป็นเรื่องที่น่าละอาย ไม่มีวุฒิภาวะ ทั้งๆ ที่เคยมีตำแหน่งสำคัญๆ กันทั้ง 3 ท่าน ทั้งนี้ รัฐสภาเป็นที่ทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่สถานที่สำหรับใช้แถลงข่าวเรื่องที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ความเห็นต่างทางการเมือง การต่อต้านรัฐบาลนั้นสามารถทำได้ แต่ควรไปใช้ห้องของโรงแรมเพื่อแถลงข่าว ไม่ใช่ใช้สถานที่ของรัฐสภา ซึ่งเป็นที่ทำงานของสมาชิกรัฐสภามาเป็นสัญลักษณ์ในการแถลงข่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนมองว่าเรื่องนี้สภามีความหละหลวมในการปล่อยให้กลุ่มบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวแล้วนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะต่อไปหากกลุ่มไทยปริงสามารถใช้ได้ กลุ่มอื่นๆ ก็จะมาใช้ได้เหมือนกัน รัฐสภาเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และอยู่ในเขตพระราชฐาน แต่กลับขาดความเข้มงวด ดังนั้นอยากให้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติออกมาดูระเบียบและความเหมาะสม หรือตั้งกรรมการสอบด้วยว่า การอนุญาตให้ใช้ห้องแถลงข่าวนั้นถูกต้องตามระเบียบ หรือมีความเหมาะสมอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยแบบนี้ ทำให้สภา ถูกใช้เป็นเครื่องมือตามอำเภอใจ ตนในฐานะสมาชิกรัฐสภาเวลาจะแถลงข่าวก็ยังต้องลงรายละเอียดว่าใครเป็นคนใช้ และแถลงเรื่องะไร จะบอกว่าเป็นอดีต ส.ว.แล้วมาใช้นั้นมันเหมาะสมหรือไม่ เพราะเรื่องที่จะแถลงนั้นต้องเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับสังคม ไม่ใช่นำเรื่องความเห็นต่างของคนกลุ่มหนึ่งมาแถลงโจมตีคนอีกกลุ่มหนึ่ง หรือใช้เป็นเครื่องมือโจมตีรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตนขอประณาม

“ใครๆ ก็รู้ว่านายแก้วสรรเหลืองจ๋า ถ้าต่อไปคนเสื้อแดงมาขอใช้บ้างล่ะจะเกิดอะไรขึ้น มันจะเกิดความวุ่นวายขึ้นอีก ผมขอประณาม เพราะใช้สถานที่เหมือนไม่เคารพสถานที่ เหมือนไม่เห็นหัวสมาชิกรัฐสภา มันถูกต้องแล้วหรือ การจะขอความร่วมมือ เรียกร้อง หรือแสดงความคิดเห็นต่างกับรัฐบาลด้วยวิธีแบบนี้นั้นจะให้เป็นที่ยอมรับได้อย่างไร เพราะแค่พฤติกรรมการใช้สถานที่แถลงข่าวที่ทำเหมือนพวกม็อบออนไลน์แบบนี้ผมรับไม่ได้ แค่วิธีคิดและการกระทำก็ส่อให้เห็นธาตุแท้และพฤติกรรมที่ขาดจริยธรรม ไม่เคารพกฎหมายแล้ว คิดแค่ว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ ดังนั้นอยากให้ทบทวนการกระทำของตัวเองว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ และผมจะยื่นหนังสือให้ประธานรัฐสภาดำเนินการตรวจสอบและตั้งคณะกรรมการสอบอย่างแน่นอน” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ แถลงข่าวร่วมตอบโต้ ภายหลังกลุ่มไทยสปริงใช้เวทีห้องแถลงข่าวสภาฯกล่าวหารัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาทรยศบ้านเมือง และเรียกร้องให้มีการต่อต้านระบบภายใต้ครอบงำทักษิณอย่างถึงที่สุด โดยนายสุนัย กล่าวว่า การดำเนินการของกลุ่มไทยสปริงไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้าจะเปลี่ยนรัฐบาลก็ต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ไม่ใช่มาใช้ระบบนอกสภา ส่วนการใช้ห้องแถลงข่าวรัฐสภาตามปกติแล้วอดีตสมาชิกรัฐสภา ยังสามารถแถลงข่าวได้แต่ต้องเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ใช้เวทีกล่าวหาและสร้างความหนักใจแก่เจ้าหน้าที่ข้าราชการ ตนจึงขอฝากไปยัง นายแก้วสรร อติโพธิ นายขวัญสรวง อติโพธิ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อายุก็มากแล้ว การดำเนินการล้มรัฐบาลที่ถือว่าไม่เคารพกติกาใหญ่ ถ้ามากล่าวหาแบบนี้อีกก็เท่ากับกติกาเล็กๆ ไม่มีความหมาย

นายชวลิต กล่าวว่า การที่กลุ่มไทยสปริงออกมากล่าวหาว่าผู้อื่นทรยศต่อชาติบ้านเมือง ตนขอให้ย้อนกลับไปดูตัวเองว่าทรยศต่อชาติบ้านเมืองหรือนักวิชาชีพ นักวิชาการของตัวเองหรือไม่ เพราะการรับใช้เผด็จการด้วยการเป็นคณะกรรมการใน คตส.ที่ตั้งขึ้นโดยคณะปฏิวัติที่นานาอารยประเทศไม่ให้การยอมรับ ซึ่งใครกันแน่ที่ทรยศต่อบ้านเมือง เนื่องจากการรัฐประหาร ปี 2549 ทำให้ประเทศชาติถดถอย สร้างความเสียหายจนประเมินค่ามิได้ และส่งผลถึงปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองมาจนทุกวันนี้ การกระทำของนายแก้วสรร จึงเป็นการบ่อนทำลายรัฐบาล สะท้อนให้เห็นอำนาจนิยม รับใช้เผด็จการ ทั้งนี้ ยืนยันว่าหากจะมีการแก้กฎหมายหรือเสนอกฎหมายใดก็เป็นไปเพื่อการสร้างสรรค์ตามระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น

นายสงวน กล่าวว่า การที่นายแก้วสรร ออกมาดำเนินการครั้งนี้เป็นเพราะได้ประโยชน์จากการล้มรัฐบาล เพราะหากรัฐบาลสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้สำเร็จ โดยเฉพาะ มาตรา 309 ที่ได้รับรองการกระทำในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวไว้ นั่นหมายถึง การเป็นคณะกรรมการ คตส.ของนายแก้วสรร เมื่อปี 2549 ที่ดำเนินการตามคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครอง โดยมีเป้าหมายยึดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งตามระเบียบคณะกรรมการตรวจสอบว่าด้วยการจ่ายสินบนในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ พ.ศ. 2549 ก็ระบุชัดเจนว่า จะให้เงินสินบนแก่ผู้แจ้งเบาะแส ร้อยละ 25 ของมูลค่าทรัพย์สินด้วย ขณะเดียวกันในเว็บไซต์ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อหลายวันที่ผ่านมา ก็มีอักษรย่อ ก.เขียนในเว็บไซต์ดังกล่าวว่าจะฟ้องร้อง ป.ป.ช.เช่นกันหากไม่จ่ายเงินสินบนให้ตามระเบียบ ซึ่งเป็นเหตุให้นายแก้วสรร ออกมาต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในทางอ้อม เพื่อปกป้องพฤติกรรมการทำผิดดังกล่าวเอาไว้

นายวรชัย กล่าวว่า วันนี้ได้มีการประชุมเครือข่ายต้านอำนาจนอกระบบ ปกป้องรัฐบาลประชาธิปไตย โดยมีการรับฟังความเห็นประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน กลุ่มสตรี และกลุ่มรักประชาธิปไตยอีกหลายจังหวัด ซึ่งมีแนวคิดจัดตั้ง 100 เวทีทั่วประเทศ เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนในการต่อต้านอำนาจนอกระบบ ทำลายรัฐบาลประชาธิปไตย รวมถึงยังยืนยันไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย โดยในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีการตั้งเวทีครั้งแรกที่ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.สมุทรปราการ ตามลำดับ นอกจากนี้ ก็จะระดมประชาชน 1 ล้านคน พร้อมแกนนำ นปช.รวมตัวครั้งใหญ่ที่ กทม.ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาสามัญทั่วไปอย่างแน่นอน เพื่อร่วมกันหาแนวทางปกป้องรัฐบาล และจะได้ทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรมด้วย เพราะวันนี้ฝ่ายตรงข้ามเริ่มใช้วิธีนำมวลชนมาเล่นคนละหน้ามากขึ้นแล้ว โดยนำมวลชนรวมเป็นกลุ่มๆ แยกกันต่อต้านรัฐบาล อาทิ ม็อบสนามหลวง ม็อบ กวป.ม็อบใส่เสื้อแดง เพื่อสร้างเงื่อนไขในการสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองในที่สุด







กำลังโหลดความคิดเห็น