ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เงียบหายไปนาน เพิ่งจะตกเป็นข่าวอีกครั้ง หลังมีชื่อติดอยู่ใน1ของจำนวน 53 กลุ่มคนที่อยู่ในข่ายร่วมทุจริตซื้อขายมันสำปะหลังระบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีที คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เตรียมระบุความผิด
นายยรรยงเป็นข้าราชการอีกคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมรับใช้พรรคเพื่อไทยอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู จนได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นรางวัลตอบแทน และคนทั่วไปอาจคิดว่า อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์รสายนี้ คงลอยนวลไปแล้ว ไม่ต้องประสบเคราะห์กรรมจากการถูกดำเนินคดีใดๆ
แต่ล่าสุดคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตซื้อขายมันสำปะหลังจีทูจีของ ป.ป.ช. กำลังแจ้งข้อกล่าวหาร่วมทุจริต
ข้าราชการที่เคยเป็นลูกสมุนรับใช้นายทักษิณ ชินวัตร เรียงคิวเผชิญวิบากกรรมกันชุดใหญ่ ไม่เฉพาะคดีใหญ่การทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่งวดเข้ามา ไม่เฉพาะคดีทุจริตการซื้อขายมันสำปะหลังระบบจีทูจีมูลค่ากว่า3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
แม้แต่คดีทุจริตการโอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่หลายคนอาจหลงลืมไปแล้ว ยังตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง และทำให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตกอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง
คดีสนามกอล์ฟ อัลไพน์ ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิดนายเสนาะ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่คดีถูกปล่อยให้หมดอายุความ ทำให้นายเสนาะลอยนวลไป
แต่สำหรับนายยงยุทธต้องติดบ่วง ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 โดยกล่าวหาในช่วงดำรงตำแหน่งรองปลัดมหาดไทย ตามความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีการจดทะเบียนโอนมรดกและโอนสิทธิขายธรณีสงฆ์ของวัดธรรมามิการามวรวิหาร จังหวัดปทุมธานีจำนวน72 ไร่ ให้บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัดและบริษัท อัลไพน์กอล์ฟ สปอร์ตคลับโดยมิชอบ
ป.ป.ช.เพิ่งยื่นฟ้องศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยคดีของนายยงยุทธ เป็นคดีแรกของศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งศาลรับฟ้อง และให้ประกันตัวในวงเงิน2 แสนบาท แต่มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ข้าราชการระดับสูงที่รับใช้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จนได้เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นรางวัลตอบแทน ล้วนเจอเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะตกเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริต ไม่ว่าจะเป็น นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตอธิบดีกรมศุลกากร ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง นายยงยุทธ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่พรรคเพื่อไทยตบรางวัลในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
และนายยรรยง อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ต้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ในยุคที่รุ่งโรจน์ มีตำแหน่งรัฐมนตรีมาประดับบารมี อดีตข้าราชการระดับสูงทั้ง3คน แสดงบทปกป้องรัฐบาลภายใต้อำนาจของ”ทักษิณ”อย่างออกนอกหน้า โดยไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่ยอมฟังเสียงทักท้วงจากใคร และไม่ใส่ใจเสียงประณามของประชาชน
ความหลงใหลในอำนาจ ลาภ ยศ สรรเสริญ ทำให้เกิดความหลงผิด พากันเชื่อว่า จะไม่มีใครโค่นล้ม ”ทักษิณ” ได้ โดยพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลอีกยาวนาน
และตระกูล”ชินวัตร”จะสืบทอดอำนาจตลอดกาล
ไม่มีใครคิดว่า รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์จะไปเร็ว ไม่มีใครคิดว่า ถึงวันหนึ่ง”ทักษิณ”จะต้องหนีหัวซุกหัวซุน
เมื่อ ”ทักษิณ” สิ้นอำนาจ ข้าราชการที่ทำตัวเป็นลูกสมุนจึงต้องพบกับความจริง โดยความผิดที่เคยก่อไว้ ย้อนกลับมาเล่นงาน
นางเบญจาถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี คดีช่วยเหลือนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา หลีกเลี่ยงภาษีการโอนหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)
นายยงยุทธรอการชี้ชะตา คดีทุจริตโอนที่ดินสนามกอล์ฟ อัลไพน์ โดยคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และอาจอาจทำนายชะตากรรมของนายยงยุทธได้
ส่วนนายยรรยงรอป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตการซื้อขายมันสำปะหลัง
ชีวิตบั้นปลายของข้าราชการที่รับใช้”ทักษิณ”ไม่สงบสุขแทบทั้งสิ้น หลายคนรอชดใช้กรรมในคุก ส่วนคนที่ไม่มีคดีติดตัว ต้องใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะถูกกระแสสังคมต่อต้านและรุมประณาม จนไม่กล้าปรากฏตัวในที่สาธารณะ
ข้าราชการระดับสูงที่มักใหญ่ใฝ่สูง อยากได้ตำแหน่ง ยอมก้มหัวรับใช้ ”ทักษิณ” และกำลังเผชิญวิบากกรรมอยู่นั้น ไม่ได้รับความเห็นใจจากสังคม
เพราะความผิดที่ข้าราชการเหล่านี้ก่อไว้รุนแรงเกินกว่าจะให้อภัยกันได้
ถ้าต้องติดคุกชดใช้ จะเป็นการตอกย้ำเรื่องกฎแห่งกรรม ข้าราชการคนใดทำความผิดอะไรไว้ วันหนึ่งกรรมที่ก่อไว้จะตามมาทวงคืน
วิบากกรรมที่โถมเข้าใส่นางเบญจา นายยรรยงและนายยงยุทธ เป็นบทเรียนที่ข้าราชการทุกคนต้องท่องจำใสใจไว้
และไม่เดินตามรอยข้าราชการที่เกาะแข็งเกาะขานักการเมือง เพื่อหวังตำแหน่ง
ข้าราชการที่ดี รักศักดิ์ศ แยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ และสำนึกถึงความรับผิดชอบต่อประชาชน ต้องไม่ขายวิญญาณรับใช้นักการเมือง
ส่วนข้าราชการที่ขายวิญญาณให้”ทักษิณ” วันนี้เห็นจุดจบกันแล้ว ต้องใช้ชีวิตที่เหลือบนความอับอายขายขี้หน้า กลายเป็นบุคคลที่สังคมไม่ต้อนรับและรุมประณามทั้งชาติ
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เงียบหายไปนาน เพิ่งจะตกเป็นข่าวอีกครั้ง หลังมีชื่อติดอยู่ใน1ของจำนวน 53 กลุ่มคนที่อยู่ในข่ายร่วมทุจริตซื้อขายมันสำปะหลังระบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีที คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เตรียมระบุความผิด
นายยรรยงเป็นข้าราชการอีกคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมรับใช้พรรคเพื่อไทยอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู จนได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นรางวัลตอบแทน และคนทั่วไปอาจคิดว่า อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์รสายนี้ คงลอยนวลไปแล้ว ไม่ต้องประสบเคราะห์กรรมจากการถูกดำเนินคดีใดๆ
แต่ล่าสุดคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตซื้อขายมันสำปะหลังจีทูจีของ ป.ป.ช. กำลังแจ้งข้อกล่าวหาร่วมทุจริต
ข้าราชการที่เคยเป็นลูกสมุนรับใช้นายทักษิณ ชินวัตร เรียงคิวเผชิญวิบากกรรมกันชุดใหญ่ ไม่เฉพาะคดีใหญ่การทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่งวดเข้ามา ไม่เฉพาะคดีทุจริตการซื้อขายมันสำปะหลังระบบจีทูจีมูลค่ากว่า3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
แม้แต่คดีทุจริตการโอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่หลายคนอาจหลงลืมไปแล้ว ยังตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง และทำให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตกอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง
คดีสนามกอล์ฟ อัลไพน์ ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิดนายเสนาะ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่คดีถูกปล่อยให้หมดอายุความ ทำให้นายเสนาะลอยนวลไป
แต่สำหรับนายยงยุทธต้องติดบ่วง ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 โดยกล่าวหาในช่วงดำรงตำแหน่งรองปลัดมหาดไทย ตามความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กรณีการจดทะเบียนโอนมรดกและโอนสิทธิขายธรณีสงฆ์ของวัดธรรมามิการามวรวิหาร จังหวัดปทุมธานีจำนวน72 ไร่ ให้บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัดและบริษัท อัลไพน์กอล์ฟ สปอร์ตคลับโดยมิชอบ
ป.ป.ช.เพิ่งยื่นฟ้องศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยคดีของนายยงยุทธ เป็นคดีแรกของศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งศาลรับฟ้อง และให้ประกันตัวในวงเงิน2 แสนบาท แต่มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ข้าราชการระดับสูงที่รับใช้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ จนได้เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นรางวัลตอบแทน ล้วนเจอเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะตกเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริต ไม่ว่าจะเป็น นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตอธิบดีกรมศุลกากร ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง นายยงยุทธ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่พรรคเพื่อไทยตบรางวัลในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
และนายยรรยง อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ต้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ในยุคที่รุ่งโรจน์ มีตำแหน่งรัฐมนตรีมาประดับบารมี อดีตข้าราชการระดับสูงทั้ง3คน แสดงบทปกป้องรัฐบาลภายใต้อำนาจของ”ทักษิณ”อย่างออกนอกหน้า โดยไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่ยอมฟังเสียงทักท้วงจากใคร และไม่ใส่ใจเสียงประณามของประชาชน
ความหลงใหลในอำนาจ ลาภ ยศ สรรเสริญ ทำให้เกิดความหลงผิด พากันเชื่อว่า จะไม่มีใครโค่นล้ม ”ทักษิณ” ได้ โดยพรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลอีกยาวนาน
และตระกูล”ชินวัตร”จะสืบทอดอำนาจตลอดกาล
ไม่มีใครคิดว่า รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์จะไปเร็ว ไม่มีใครคิดว่า ถึงวันหนึ่ง”ทักษิณ”จะต้องหนีหัวซุกหัวซุน
เมื่อ ”ทักษิณ” สิ้นอำนาจ ข้าราชการที่ทำตัวเป็นลูกสมุนจึงต้องพบกับความจริง โดยความผิดที่เคยก่อไว้ ย้อนกลับมาเล่นงาน
นางเบญจาถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี คดีช่วยเหลือนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา หลีกเลี่ยงภาษีการโอนหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)
นายยงยุทธรอการชี้ชะตา คดีทุจริตโอนที่ดินสนามกอล์ฟ อัลไพน์ โดยคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และอาจอาจทำนายชะตากรรมของนายยงยุทธได้
ส่วนนายยรรยงรอป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตการซื้อขายมันสำปะหลัง
ชีวิตบั้นปลายของข้าราชการที่รับใช้”ทักษิณ”ไม่สงบสุขแทบทั้งสิ้น หลายคนรอชดใช้กรรมในคุก ส่วนคนที่ไม่มีคดีติดตัว ต้องใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะถูกกระแสสังคมต่อต้านและรุมประณาม จนไม่กล้าปรากฏตัวในที่สาธารณะ
ข้าราชการระดับสูงที่มักใหญ่ใฝ่สูง อยากได้ตำแหน่ง ยอมก้มหัวรับใช้ ”ทักษิณ” และกำลังเผชิญวิบากกรรมอยู่นั้น ไม่ได้รับความเห็นใจจากสังคม
เพราะความผิดที่ข้าราชการเหล่านี้ก่อไว้รุนแรงเกินกว่าจะให้อภัยกันได้
ถ้าต้องติดคุกชดใช้ จะเป็นการตอกย้ำเรื่องกฎแห่งกรรม ข้าราชการคนใดทำความผิดอะไรไว้ วันหนึ่งกรรมที่ก่อไว้จะตามมาทวงคืน
วิบากกรรมที่โถมเข้าใส่นางเบญจา นายยรรยงและนายยงยุทธ เป็นบทเรียนที่ข้าราชการทุกคนต้องท่องจำใสใจไว้
และไม่เดินตามรอยข้าราชการที่เกาะแข็งเกาะขานักการเมือง เพื่อหวังตำแหน่ง
ข้าราชการที่ดี รักศักดิ์ศ แยกแยะผิดชอบชั่วดีได้ และสำนึกถึงความรับผิดชอบต่อประชาชน ต้องไม่ขายวิญญาณรับใช้นักการเมือง
ส่วนข้าราชการที่ขายวิญญาณให้”ทักษิณ” วันนี้เห็นจุดจบกันแล้ว ต้องใช้ชีวิตที่เหลือบนความอับอายขายขี้หน้า กลายเป็นบุคคลที่สังคมไม่ต้อนรับและรุมประณามทั้งชาติ
