แม้กระแสไล่ล่ากลุ่มผู้กระทำความผิดคดีมาตรา 112 กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น แต่นักวิชาการเสื้อแดงที่หนีไปซุกหัวอยู่นอกประเทศ กลับไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด และยังจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์จนคนไทยในต่างแดนทนพฤติกรรมไม่ไหว ต้องรวมตัวกันลุกฮือขึ้นต่อต้าน
นายปวิน ชัชวาลพงศ์ เป็นอีกหนึ่งในนักวิชาการเสื้อแดง ซึ่งอยู่ระหว่างเดินสายบรรยายเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ และเป็นการบรรยายที่หมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วงปลุกให้คนไทยในสหรัฐฯ รวมตัวกันตามรุมประณาม
นายปวินเป็นนักวิชาการสังกัดศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ของมหาวิทยาลัยเกียวโต และใช้หนังสือเดินทางญี่ปุ่น โดยหนีออกจากประเทศไทยหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เนื่องจากไม่ยอมรายงานตัวกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
คนไทยทั้งประเทศอยู่ระหว่างความอาลัยการเสด็จสวรรคต ผู้นำประเทศทั่วโลกแสดงความยกย่องสรรเสริญพระองค์ท่าน ในฐานะพระมหากษัตริย์ที่ประกอบคุณประโยชน์ให้ประชาชนตลอด 70 ปีของการครองราชย์ แม้แต่ที่ประชุมองค์การสหประชาชาติยังร่วมยืนไว้อาลัยและกล่าวสดุดียกย่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
แต่ลูกสมุนนายทักษิณ ชินวัตรซึ่งมีเพียงหยิบมือเดียวกลับไม่สำนึกถึงความดีของพระองค์ท่าน และพยายามสร้างเรื่องบิดเบือนให้ร้าย
กลุ่มลูกสมุนนายทักษิณที่เคลื่อนไหวจาบจ้วงสถาบันภายในประเทศ ถูกดำเนินคดีและอยู่ระหว่างดำเนินคดีมาตรา 112 นับสิบๆ ราย
ส่วนกลุ่มที่หนีเตลิดคดีมาตรา 112 ไปนอกประเทศ อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับ 7 ประเทศ เพื่อขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า แต่ละประเทศที่รัฐบาลประสานความร่วมมือการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แสดงการตอบรับในการให้ความร่วมมือที่ดี
พฤติกรรมการจาบจ้วงสถาบันมีสถิติสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ภายหลังพรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล และนายทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี
ความผิดคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถูกปล่อยปละละเลยมาตลอด ในช่วงรัฐบาลนายทักษิณ รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยตำรวจจับกุมดำเนินคดีความผิดมาตรา 112 น้อยมาก ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่า การที่ตำรวจไม่ใส่ใจคดีมาตรา 112 เพราะรับใช้รัฐบาลนายทักษิณ
การปล่อยปละละเลยดำเนินคดีมาตรา 112 ทำให้กลุ่มหมิ่นสถาบันเกิดความฮึกเหิมถึงขั้นตั้งเป็นขบวนการจาบจ้วง แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล กลุ่มคนที่เหิมเกริมจาบจ้วงสถาบันจึงถูกปราบปรามต้องเข้าคุกกันนับสิบราย ตายชดใช้กรรมในคุกก็มี
ถ้าย้อนดูกลุ่มคนที่หมิ่นสถาบันในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นคนเสื้อแดงทั้งสิ้น มีทั้งคนเสื้อแดงระดับแกนนำ มีทั้งนักการเมือง และนักวิชาการเสื้อแดง
ไม่เคยปรากฏว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่ม กปปส.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีข่าวหมิ่นเหม่จาบจ้วงสถาบันแต่อย่างใด
ดังนั้น คำกล่าวอ้างในความจงรักภักดีของ “ทักษิณ” จึงไม่มีใครเชื่อ เพราะมีแต่คนเสื้อแดงลูกสมุน “ทักษิณ” ทั้งนั้นที่ติดคุกคดีมาตรา 112
การประสานความร่วมมือกับ 7 ประเทศ เพื่อขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมานั้น เป็นการแสดงให้ทุกประเทศรู้ว่า รัฐบาลไทยยังมีความต้องการ “พวกตัวร้าย” คดีมาตรา 112 อยู่
และไม่ต้องการให้คนไทยที่ไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดินเกิดของตัวเอง ใช้แผ่นดินของมิตรประเทศเป็นที่ซ่องสุมเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันอันเป็นที่รักของประชาชน
สิ่งที่รัฐบาลเรียกร้องไปไม่สูญเปล่า เพราะทุกประเทศตื่นตัวตอบรับ บางประเทศให้ความร่วมมือดีเกินคาด โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาส่งตัวผู้ร้ายคดีมาตรา 112 กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
พวกหมิ่นสถาบันที่เหิมเกริมไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่ว่าซุกหัวอยู่ประเทศใดก็ตาม นับจากนี้คงอยู่ไม่เป็นสุขแล้ว เพราะกำลังถูกไล่ล่าอย่างหนัก
แม้แต่นายปวินที่บิดเบือนการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัฐบาลต้องจัดการให้หนัก โดยเร่งประสานความร่วมมือไปยังญี่ปุ่น ขอให้ถอนหนังสือเดินทาง และประสานไปยังสหรัฐฯ ขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดี อย่าปล่อยให้นักวิชาการเสื้อแดงรายนี้ลอยนวล
คำขอให้ส่งตัวผู้ร้ายคดีมาตรา 112 ถ้ามีเพียงประเทศใดประเทศหนึ่งตอบรับอย่างจริงใจ จับตัวผู้ร้ายที่หมิ่นสถาบันกลับมาให้คนไทยได้ชำระสะสางความผิด บรรดาลูกสมุน “ทักษิณ” ปากอัปมงคลที่หลบมุดหัวอยู่ต่างประเทศคงหัวหดไปตามๆ กัน
เพราะถ้าถูกจับตัวส่งกลับ พวกคนเสื้อแดงปากมอมทั้งหลายอ่วมแน่
พล.อ.ไพบูลย์ ประกาศจุดยืนตามล่าพวกหมิ่นฯ เต็มตัวแล้ว ประเทศใดให้ที่ซุกหัว ช่วยส่งตัวกลับมาให้ไทยซะดีๆ เถอะ
นายปวิน ชัชวาลพงศ์ เป็นอีกหนึ่งในนักวิชาการเสื้อแดง ซึ่งอยู่ระหว่างเดินสายบรรยายเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ และเป็นการบรรยายที่หมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วงปลุกให้คนไทยในสหรัฐฯ รวมตัวกันตามรุมประณาม
นายปวินเป็นนักวิชาการสังกัดศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ของมหาวิทยาลัยเกียวโต และใช้หนังสือเดินทางญี่ปุ่น โดยหนีออกจากประเทศไทยหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เนื่องจากไม่ยอมรายงานตัวกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
คนไทยทั้งประเทศอยู่ระหว่างความอาลัยการเสด็จสวรรคต ผู้นำประเทศทั่วโลกแสดงความยกย่องสรรเสริญพระองค์ท่าน ในฐานะพระมหากษัตริย์ที่ประกอบคุณประโยชน์ให้ประชาชนตลอด 70 ปีของการครองราชย์ แม้แต่ที่ประชุมองค์การสหประชาชาติยังร่วมยืนไว้อาลัยและกล่าวสดุดียกย่องพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
แต่ลูกสมุนนายทักษิณ ชินวัตรซึ่งมีเพียงหยิบมือเดียวกลับไม่สำนึกถึงความดีของพระองค์ท่าน และพยายามสร้างเรื่องบิดเบือนให้ร้าย
กลุ่มลูกสมุนนายทักษิณที่เคลื่อนไหวจาบจ้วงสถาบันภายในประเทศ ถูกดำเนินคดีและอยู่ระหว่างดำเนินคดีมาตรา 112 นับสิบๆ ราย
ส่วนกลุ่มที่หนีเตลิดคดีมาตรา 112 ไปนอกประเทศ อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับ 7 ประเทศ เพื่อขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า แต่ละประเทศที่รัฐบาลประสานความร่วมมือการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แสดงการตอบรับในการให้ความร่วมมือที่ดี
พฤติกรรมการจาบจ้วงสถาบันมีสถิติสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ภายหลังพรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาล และนายทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี
ความผิดคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถูกปล่อยปละละเลยมาตลอด ในช่วงรัฐบาลนายทักษิณ รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยตำรวจจับกุมดำเนินคดีความผิดมาตรา 112 น้อยมาก ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่า การที่ตำรวจไม่ใส่ใจคดีมาตรา 112 เพราะรับใช้รัฐบาลนายทักษิณ
การปล่อยปละละเลยดำเนินคดีมาตรา 112 ทำให้กลุ่มหมิ่นสถาบันเกิดความฮึกเหิมถึงขั้นตั้งเป็นขบวนการจาบจ้วง แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล กลุ่มคนที่เหิมเกริมจาบจ้วงสถาบันจึงถูกปราบปรามต้องเข้าคุกกันนับสิบราย ตายชดใช้กรรมในคุกก็มี
ถ้าย้อนดูกลุ่มคนที่หมิ่นสถาบันในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นคนเสื้อแดงทั้งสิ้น มีทั้งคนเสื้อแดงระดับแกนนำ มีทั้งนักการเมือง และนักวิชาการเสื้อแดง
ไม่เคยปรากฏว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่ม กปปส.ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มีข่าวหมิ่นเหม่จาบจ้วงสถาบันแต่อย่างใด
ดังนั้น คำกล่าวอ้างในความจงรักภักดีของ “ทักษิณ” จึงไม่มีใครเชื่อ เพราะมีแต่คนเสื้อแดงลูกสมุน “ทักษิณ” ทั้งนั้นที่ติดคุกคดีมาตรา 112
การประสานความร่วมมือกับ 7 ประเทศ เพื่อขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมานั้น เป็นการแสดงให้ทุกประเทศรู้ว่า รัฐบาลไทยยังมีความต้องการ “พวกตัวร้าย” คดีมาตรา 112 อยู่
และไม่ต้องการให้คนไทยที่ไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดินเกิดของตัวเอง ใช้แผ่นดินของมิตรประเทศเป็นที่ซ่องสุมเคลื่อนไหวโจมตีสถาบันอันเป็นที่รักของประชาชน
สิ่งที่รัฐบาลเรียกร้องไปไม่สูญเปล่า เพราะทุกประเทศตื่นตัวตอบรับ บางประเทศให้ความร่วมมือดีเกินคาด โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาส่งตัวผู้ร้ายคดีมาตรา 112 กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
พวกหมิ่นสถาบันที่เหิมเกริมไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่ว่าซุกหัวอยู่ประเทศใดก็ตาม นับจากนี้คงอยู่ไม่เป็นสุขแล้ว เพราะกำลังถูกไล่ล่าอย่างหนัก
แม้แต่นายปวินที่บิดเบือนการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัฐบาลต้องจัดการให้หนัก โดยเร่งประสานความร่วมมือไปยังญี่ปุ่น ขอให้ถอนหนังสือเดินทาง และประสานไปยังสหรัฐฯ ขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดี อย่าปล่อยให้นักวิชาการเสื้อแดงรายนี้ลอยนวล
คำขอให้ส่งตัวผู้ร้ายคดีมาตรา 112 ถ้ามีเพียงประเทศใดประเทศหนึ่งตอบรับอย่างจริงใจ จับตัวผู้ร้ายที่หมิ่นสถาบันกลับมาให้คนไทยได้ชำระสะสางความผิด บรรดาลูกสมุน “ทักษิณ” ปากอัปมงคลที่หลบมุดหัวอยู่ต่างประเทศคงหัวหดไปตามๆ กัน
เพราะถ้าถูกจับตัวส่งกลับ พวกคนเสื้อแดงปากมอมทั้งหลายอ่วมแน่
พล.อ.ไพบูลย์ ประกาศจุดยืนตามล่าพวกหมิ่นฯ เต็มตัวแล้ว ประเทศใดให้ที่ซุกหัว ช่วยส่งตัวกลับมาให้ไทยซะดีๆ เถอะ