ผู้จัดการรายวัน 360 - “ประวิตร” เผยพร้อมรับคลื่นมหาชนถวายสักการะพระบรมศพ 29 ต.ค.นี้ จัดพื้นที่สำหรับ ปชช.หมื่นคน คาด 29-31 ต.ค.คนทะลัก กำชับ จนท.เข้มป้องกันมิจฉาชีพ ตร.ปูพรม 3 พันนายต่อวัน จัด 8 จุดคัดกรอง หลังพบพกอาวุธอื้อ น.1วอนอย่านำรถส่วนตัวมา ไม่ประมาทวินาศกรรม กทม.สั่งห้ามขายของในสนามหลวงเด็ดขาด
วานนี้ (27 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิภลอุดลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีการประชุมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว เท่าที่ประเมินทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คาดว่าในระหว่างวันที่ 29 - 31 ต.ค.นี้ ประชาชนจะหลั่งไหลมายังบริเวณพระบรมมหาราชวังเป็นจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือทั้งทุกด้าน ทั้งเรื่องจราจร การอำนวยความสะดวกด้านการแพทย์ และการบริหารจัดการประชาชนในการเดินทางมาด้วย โดยเฉพาะในต่างจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด จะเฉลี่ยและทยอยกันเข้ามา โดยทางปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ขณะที่การป้องกันมิจฉาชีพหรือกลุ่มไม่ประสงค์ดีนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดคัดกรองและตรวจตราอย่างเข้มงวดทั้งหมด 8 จุด โดยรอบบริเวณ
“รัฐบาลประมาณการณ์ว่าในช่วงวันที่ 29-31 ต.ค.น่าจะสามารถรองรับรับประชาชนที่เข้ามาได้ประมาณวันละ 1 หมื่นคน ส่วนยอดรวมประชาชนที่เดินทางทางมาลงนามในช่วงที่ผ่านมาเฉลี่ยวันละประมาณ 3 หมื่นคน” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
** ใช้ ตร. 3,000 นายดูแลทั่วพื้นที่
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตรให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจรเป็นสำคัญ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ดูแลสั่งการอย่างใกล้ชิด โดยการจัดจุดคัดกรอง 8 จุด มีเครื่องสแกน 3-4 ตัว ต่อจุด เพื่อดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ใช้กำลังพลตำรวจ บช.น.และใกล้เคียงรวม 3,000 นายต่อวัน ตลอดจนกล้องวงจรปิด 1,300 ตัว กำลังทหารกองทัพภาค1 และ กทม.ร่วมดูแลรักษาความปลอดภัย บริหารจัดการทุกมิติ
** น.1 ไม่ประมาทวินาศกรรม
และเมื่อเวลา 10.45 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมและเพิ่มความเข้มงวดให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวังและบริเวณโดยรอบ พร้อมระบุว่า หลังจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดอาวุธและของมีคมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย จำนวนกว่า 200 ชิ้น ก็ได้สั่งการให้มีการคัดกรองอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยการตรวจความเรียบร้อยเบื้องต้นพบว่า อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ส่วนตัวยังไม่ไว้วางใจ เนื่องจากการตรวจค้นบางจุดยังไม่มีความละเอียดเท่าที่ควร จึงต้องมีการกำชับและปรับทัศนคติกับผู้ปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการขอความร่วมมือไปยังผู้ค้าหาบเร่แผงลอยและบริเวณทางเท้า หลังพบว่า บางรายยังมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบอยู่บ้าง ซึ่งทาง กทม.เองก็อยู่ในระหว่างการจัดระเบียบ โดยอยากให้พี่น้องประชาชนทุกคนที่เดินทางมาในที่แห่งนี้ร่วมกันทำความดี อย่าหวังเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว
“ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่เดินทางมา อย่านำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามา เพราะจะเกิดปัญหาที่จอดรถและทำให้การจราจรติดขัด ขอให้ใช้การเดินทางโดยขนส่งมวลชนแทน ส่วนกรณีผู้ที่ต้องการเข้ามาส่งของในพื้นที่ให้เดินทางมาในช่วงเวลา 00.00 น. ถึง 07.00 น. รวมถึงผู้ที่มีความประสงค์เดินทางมาแจกของ ขอให้ดำเนินการลงทะเบียนให้เรียบร้อย เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการกำหนดจุดให้เกิดความเป็นระเบียบ” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังกล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังตามที่มีการข่าวเตือนในเรื่องของการก่อวินาศกรรมที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้ประมาท เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นและอย่าหวั่นวิตกใดๆทั้งสิ้น
**มั่นใจแผรน รปภ.ครอบคลุมแล้ว
อีกด้าน ที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง(กอ.รส.) ท้องสนามหลวง พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังการประชุมประจำวันของ กอ.รส.ว่า ที่ประชุมได้ถกแผนรับมือประชาชนที่จะเดินทางมาในวันที่ 29 ต.ค.นี้ โดยการจัดระเบียบในครั้งนี้ได้หารือกับสำนักพระราชวัง กำหนดจำนวนประชาชนที่จะเข้าไปสักการะพระบรมศพ ไว้ที่ 1 หมื่นคนต่อวัน เมื่อครบจำนวนแล้วขอให้ประชาชนทยอยเดินทางมาในวันอื่นๆ เพื่อไม่ให้หนาแน่นในช่วงวันแรกๆ ส่วนประชาชนต่างจังหวัดขอแนะนำในการเดินทางเข้า กทม.ให้มาตามระบบที่กระทรวงมหาดไทยจัดโควต้าไว้ เพราจะมีผู้ดูแลนำเดินทาง พร้อมประสานงานจัดเตรียมสถานที่พักเข้ามาใน กทม.อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะมีความสะดวกมากขึ้น เมื่อเดินทางถึงแล้วต้องมารับบัตรคิวเช่นเดียวกัน ไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวต่อถึงแผนด้านการจราจรที่อาจจะต้องปิดแยกหลานหลวง และแยกอรุณอมรินทร์ เพื่อผันรถเข้าฝั่งธนบุรีออกไปทางสะพานพระราม 8 ว่า แผนดังกล่าวยังมีความไม่ชัดเจน ได้ขอให้เจ้าหน้าที่กลับไปแก้ไขแผนการดำเนินการใหม่อีกครั้ง แล้วนำมาหารืออีกครั้งก่อนสรุปในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ขณะที่การเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรอบสนามหลวงตอนนี้ครอบคลุมทั้งหมดแล้ว
“นอกจากกล้องวงจรปิดแล้ว เราได้หารือกับ บช.น.ให้มีจุดสูงข่มโดย ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บนเก้าอี้สูง จะสามารถมองเห็นพื้นที่ได้กว้าง รวมถึงมีให้ประชาชนที่คอยช่วยเป็นหูเป็นตารักษาความปลอดภัยอีกด้วย” พล.ต.ท.อำนวย กล่าว
**สั่งเข้มห้ามขายของรอบสนามหลวง
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวย้ำถึงมาตรการห้ามจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ด้วยว่า ห้ามพ่อค้าแม่ค้าวางจำหน่ายสินค้าอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะสินค้าที่แอบอ้าง ทางเทศกิจจะเข้าดำเนินการ และขอให้ประชาชนอย่าซื้อสินค้าประเภทนี้ หากพบเห็นให้โทรแจ้งมายังหมายเลข 1899
“ขอย้ำอีกครั้งว่าพื้นที่สนามหลวงไม่ใช่ตลาดนัด” รองผู้ว่าฯกทม.
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวด้วยว่า นายกฯได้เน้นย้ำเรื่องการพาบุตรหลานมาด้วย เราได้ทำบัตรคล้องคอที่ระบุชื่อผู้ปกครอง และเบอร์ติดไว้ให้ อย่างเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา มีกรณีเด็กหาย 6 ราย ก็สามารถตามผู้ปกครองมารับได้ทั้งหมด ถือว่าแผนการดำเนินการได้ผลเป็นอย่างดี ส่วนบุคคลที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เช่น หลงลืม ก็ขอให้ติดป้ายแสดงข้อมูลแบบนี้เช่นเดียวกัน
** ห่วงคนไม่สำรวมทำลายบรรยากาศ
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวเสริมว่า ขอความร่วมมือให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และสำรวมพฤติกรรมให้เหมาะสมไม่ทำลายบรรยากาศการถวายความอาลัย ทั้งนี้จุดรับบัตรคิวจะมารับได้ที่วัดมหาธาตุฯ รวมถึงจุดอื่นซึ่งจะมีจุดพักคอยประชาชน จะมีเต้นท์รับรองจำนวน 20 เต้นท์ เก้าอี้จำนวน 2 หมื่นที่นั่ง
ด้าน นายวิกร เพิ่มพวก ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน Volunteers For Dad กล่าวว่า ขณะนี้ยังเปิดรับอาสาสมัครที่จะมาช่วยงานในพื้นที่สนามหลวงอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องของสิ่งของบริจาค ยังขาดถ้วยชานอ้อย ที่เอาไว้ใส่อาหารแจกประชาชน เพราะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย สำหรับดอกไม้ของประชาชนที่นำมาสักการะ ทางจิตอาสาจะนำไปจัดไว้ที่สวนสราญรมย์ เมื่อดอกไม้เหี่ยวเฉาแล้วก็จะนำไปทำเป็นน้ำหมักชีวิภาพต่อไป นอกจากนี้ได้เพิ่มจุดประชาสัมพันธ์ จุดบริการรถรับส่ง รวมถึงการจัดทำแผ่นพับคู่มือประชาชน ที่ระบุถึงแผนที่และข้อปฏิบัติการเข้าร่วมงานติดไว้ที่จุดคัดกรองประชาชนอีกด้วย.
วานนี้ (27 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิภลอุดลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีการประชุมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว เท่าที่ประเมินทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คาดว่าในระหว่างวันที่ 29 - 31 ต.ค.นี้ ประชาชนจะหลั่งไหลมายังบริเวณพระบรมมหาราชวังเป็นจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือทั้งทุกด้าน ทั้งเรื่องจราจร การอำนวยความสะดวกด้านการแพทย์ และการบริหารจัดการประชาชนในการเดินทางมาด้วย โดยเฉพาะในต่างจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด จะเฉลี่ยและทยอยกันเข้ามา โดยทางปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ขณะที่การป้องกันมิจฉาชีพหรือกลุ่มไม่ประสงค์ดีนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดคัดกรองและตรวจตราอย่างเข้มงวดทั้งหมด 8 จุด โดยรอบบริเวณ
“รัฐบาลประมาณการณ์ว่าในช่วงวันที่ 29-31 ต.ค.น่าจะสามารถรองรับรับประชาชนที่เข้ามาได้ประมาณวันละ 1 หมื่นคน ส่วนยอดรวมประชาชนที่เดินทางทางมาลงนามในช่วงที่ผ่านมาเฉลี่ยวันละประมาณ 3 หมื่นคน” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
** ใช้ ตร. 3,000 นายดูแลทั่วพื้นที่
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตรให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจรเป็นสำคัญ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ดูแลสั่งการอย่างใกล้ชิด โดยการจัดจุดคัดกรอง 8 จุด มีเครื่องสแกน 3-4 ตัว ต่อจุด เพื่อดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ใช้กำลังพลตำรวจ บช.น.และใกล้เคียงรวม 3,000 นายต่อวัน ตลอดจนกล้องวงจรปิด 1,300 ตัว กำลังทหารกองทัพภาค1 และ กทม.ร่วมดูแลรักษาความปลอดภัย บริหารจัดการทุกมิติ
** น.1 ไม่ประมาทวินาศกรรม
และเมื่อเวลา 10.45 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมและเพิ่มความเข้มงวดให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวังและบริเวณโดยรอบ พร้อมระบุว่า หลังจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดอาวุธและของมีคมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย จำนวนกว่า 200 ชิ้น ก็ได้สั่งการให้มีการคัดกรองอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยการตรวจความเรียบร้อยเบื้องต้นพบว่า อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ส่วนตัวยังไม่ไว้วางใจ เนื่องจากการตรวจค้นบางจุดยังไม่มีความละเอียดเท่าที่ควร จึงต้องมีการกำชับและปรับทัศนคติกับผู้ปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการขอความร่วมมือไปยังผู้ค้าหาบเร่แผงลอยและบริเวณทางเท้า หลังพบว่า บางรายยังมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบอยู่บ้าง ซึ่งทาง กทม.เองก็อยู่ในระหว่างการจัดระเบียบ โดยอยากให้พี่น้องประชาชนทุกคนที่เดินทางมาในที่แห่งนี้ร่วมกันทำความดี อย่าหวังเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว
“ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่เดินทางมา อย่านำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามา เพราะจะเกิดปัญหาที่จอดรถและทำให้การจราจรติดขัด ขอให้ใช้การเดินทางโดยขนส่งมวลชนแทน ส่วนกรณีผู้ที่ต้องการเข้ามาส่งของในพื้นที่ให้เดินทางมาในช่วงเวลา 00.00 น. ถึง 07.00 น. รวมถึงผู้ที่มีความประสงค์เดินทางมาแจกของ ขอให้ดำเนินการลงทะเบียนให้เรียบร้อย เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการกำหนดจุดให้เกิดความเป็นระเบียบ” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ยังกล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังตามที่มีการข่าวเตือนในเรื่องของการก่อวินาศกรรมที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้ประมาท เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้มีการปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นและอย่าหวั่นวิตกใดๆทั้งสิ้น
**มั่นใจแผรน รปภ.ครอบคลุมแล้ว
อีกด้าน ที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณรอบพระบรมมหาราชวัง(กอ.รส.) ท้องสนามหลวง พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังการประชุมประจำวันของ กอ.รส.ว่า ที่ประชุมได้ถกแผนรับมือประชาชนที่จะเดินทางมาในวันที่ 29 ต.ค.นี้ โดยการจัดระเบียบในครั้งนี้ได้หารือกับสำนักพระราชวัง กำหนดจำนวนประชาชนที่จะเข้าไปสักการะพระบรมศพ ไว้ที่ 1 หมื่นคนต่อวัน เมื่อครบจำนวนแล้วขอให้ประชาชนทยอยเดินทางมาในวันอื่นๆ เพื่อไม่ให้หนาแน่นในช่วงวันแรกๆ ส่วนประชาชนต่างจังหวัดขอแนะนำในการเดินทางเข้า กทม.ให้มาตามระบบที่กระทรวงมหาดไทยจัดโควต้าไว้ เพราจะมีผู้ดูแลนำเดินทาง พร้อมประสานงานจัดเตรียมสถานที่พักเข้ามาใน กทม.อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะมีความสะดวกมากขึ้น เมื่อเดินทางถึงแล้วต้องมารับบัตรคิวเช่นเดียวกัน ไม่มีใครได้สิทธิพิเศษ
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวต่อถึงแผนด้านการจราจรที่อาจจะต้องปิดแยกหลานหลวง และแยกอรุณอมรินทร์ เพื่อผันรถเข้าฝั่งธนบุรีออกไปทางสะพานพระราม 8 ว่า แผนดังกล่าวยังมีความไม่ชัดเจน ได้ขอให้เจ้าหน้าที่กลับไปแก้ไขแผนการดำเนินการใหม่อีกครั้ง แล้วนำมาหารืออีกครั้งก่อนสรุปในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ขณะที่การเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรอบสนามหลวงตอนนี้ครอบคลุมทั้งหมดแล้ว
“นอกจากกล้องวงจรปิดแล้ว เราได้หารือกับ บช.น.ให้มีจุดสูงข่มโดย ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บนเก้าอี้สูง จะสามารถมองเห็นพื้นที่ได้กว้าง รวมถึงมีให้ประชาชนที่คอยช่วยเป็นหูเป็นตารักษาความปลอดภัยอีกด้วย” พล.ต.ท.อำนวย กล่าว
**สั่งเข้มห้ามขายของรอบสนามหลวง
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวย้ำถึงมาตรการห้ามจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ด้วยว่า ห้ามพ่อค้าแม่ค้าวางจำหน่ายสินค้าอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะสินค้าที่แอบอ้าง ทางเทศกิจจะเข้าดำเนินการ และขอให้ประชาชนอย่าซื้อสินค้าประเภทนี้ หากพบเห็นให้โทรแจ้งมายังหมายเลข 1899
“ขอย้ำอีกครั้งว่าพื้นที่สนามหลวงไม่ใช่ตลาดนัด” รองผู้ว่าฯกทม.
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวด้วยว่า นายกฯได้เน้นย้ำเรื่องการพาบุตรหลานมาด้วย เราได้ทำบัตรคล้องคอที่ระบุชื่อผู้ปกครอง และเบอร์ติดไว้ให้ อย่างเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา มีกรณีเด็กหาย 6 ราย ก็สามารถตามผู้ปกครองมารับได้ทั้งหมด ถือว่าแผนการดำเนินการได้ผลเป็นอย่างดี ส่วนบุคคลที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เช่น หลงลืม ก็ขอให้ติดป้ายแสดงข้อมูลแบบนี้เช่นเดียวกัน
** ห่วงคนไม่สำรวมทำลายบรรยากาศ
ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวเสริมว่า ขอความร่วมมือให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และสำรวมพฤติกรรมให้เหมาะสมไม่ทำลายบรรยากาศการถวายความอาลัย ทั้งนี้จุดรับบัตรคิวจะมารับได้ที่วัดมหาธาตุฯ รวมถึงจุดอื่นซึ่งจะมีจุดพักคอยประชาชน จะมีเต้นท์รับรองจำนวน 20 เต้นท์ เก้าอี้จำนวน 2 หมื่นที่นั่ง
ด้าน นายวิกร เพิ่มพวก ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน Volunteers For Dad กล่าวว่า ขณะนี้ยังเปิดรับอาสาสมัครที่จะมาช่วยงานในพื้นที่สนามหลวงอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องของสิ่งของบริจาค ยังขาดถ้วยชานอ้อย ที่เอาไว้ใส่อาหารแจกประชาชน เพราะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย สำหรับดอกไม้ของประชาชนที่นำมาสักการะ ทางจิตอาสาจะนำไปจัดไว้ที่สวนสราญรมย์ เมื่อดอกไม้เหี่ยวเฉาแล้วก็จะนำไปทำเป็นน้ำหมักชีวิภาพต่อไป นอกจากนี้ได้เพิ่มจุดประชาสัมพันธ์ จุดบริการรถรับส่ง รวมถึงการจัดทำแผ่นพับคู่มือประชาชน ที่ระบุถึงแผนที่และข้อปฏิบัติการเข้าร่วมงานติดไว้ที่จุดคัดกรองประชาชนอีกด้วย.