MGR Online - ผบช.น.ยันรถกระบะบรรทุกแก๊สไม่เกี่ยวกับขบวนการก่อความไม่สงบ ระบุการจราจรโดยรอบสนามหลวงเป็นไปได้ด้วยดี วอนขอให้พวกรับของบริจาคแล้วนำเอาไปขายมีจิตสำนึก ขอร้อง ปชช.อย่านำมีด กรรไกร สนับมือ มาในบริเวณสนามหลวง
วันนี้ (26 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่เต็นท์กองอำนวยการร่วมกองบังคับการตำรวจนครบาล หน้าพระบรมมหาราชวัง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบก.สปพ. เดินทางตรวจเยี่ยมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ทั้งนี้มีการนำม้าตำรวจ 2 ตัว และสุนัข k-9 จำนวน 2 ตัวเข้าร่วมตรวจความเรียบร้อยในครั้งนี้ด้วย
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพรถกระบะคันหนึ่งที่บรรทุกถังแก๊สและถังดับเพลิงในท้องที่ สน.บางโพงพาง ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตรงจุดที่มีการแจ้งว่าพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ จากการตรวจสอบพบหมายเลขทะเบียนที่ได้รับแจ้งตรงกับที่ทางเจ้าหน้าที่พบ ทราบว่าเป็นรถของบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการอบรมดับเพลิง
จากการสอบสวนเจ้าของบริษัทดังกล่าวเบื้องต้นทราบว่าทั้งรถและคนขับเป็นพนักงานของบริษัทดังกล่าวจริง โดยในวันเกิดเหตุพนักงานได้นำรถออกมาแต่รถเกิดเสียจึงจอดรถตรวจสอบเครื่องยนต์ ซึ่งด้านหลังมีการบรรทุกถังแก๊สและถังดับเพลิง จนมีผู้ไปพบเห็นก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ กรณีที่เกิดขึ้นตนขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความไม่สงบแต่อย่างใด อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าทุกอย่างยังอยู่ในความเรียบร้อย
ในส่วนของการจราจรในพื้นที่โดยรอบมณฑลท้องสนามหลวงและโดยรอบพระบรมมหาราชวังในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงของการเปิดเรียนยังไม่พบปัญหาการจราจรแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีการจัดการวางระบบและกำลังตำรวจจราจรดูแลตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ที่จะมีการเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพต่อเบื้องพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะมีประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเข้าเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้อยากให้ประชาชนที่จะเดินทางมาประสานไปยังหน่วยงานของแต่ละจังหวัดเพื่อให้หน่วยงานของแต่ละจังหวัดประสานมายังพระบรมมหาราชวังเพื่อทำการจัดคิวเข้าไปแสดงความอาลัย เนื่องจากศาลาสหทัยสมาคม และพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สามารถรองรับประชาชนได้เพียง 3-4 หมื่นคนเท่านั้น หากมีประชาชนมามากว่านี้อาจจะมีบางส่วนที่ไม่ได้เข้าไปถวายความอาลัย
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า ในส่วนที่มีคนกลุ่มคนบางกลุ่มฉวยโอกาสไปรับของแจกแล้วนำของที่ได้มาขายต่อ ซึ่งการดำเนินการทางด้านกฎหมายนั้นยังไม่เข้าข่ายความผิดที่เกี่ยวกับทรัพย์เนื่องจากของที่ได้มาเป็นของที่มีประชาชนจำมาแจกฟรี หลังจากนี้จะให้มีการตรวจสอบว่าจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.รักษาความสงบเรียบร้อย หรืออื่นๆ หรือไม่ ทั้งนี้อยากให้มองไปทางด้านจิตสำนึกของแต่ละคนมากกว่า
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตำรวจมีการเตรียมความพร้อมในการดูแลประชาชน โดยมีการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) พร้อมด้วยการนำสุนัขตำรวจ K9 ของกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) ออกตรวจตราดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาแสดงความอาลัยพระบรมศพ ต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง และมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยจะมีการสับเปลี่ยนกำลังกันดูแลความเรียบร้อยเบื้องต้นได้มีการเพิ่มกำลังของหน่วยอรินทราช 26 จากเดิม 20 นาย เป็น 40 นาย เพื่อถวายความปลอดภัยและดูแลประชาชน
จากการตรวจสอบเหตุการณ์ทั่วไปยังถือว่าปกติดี ยอมรับว่าทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุล้วงกระเป๋า และลักทรัพย์ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้เข้าถวายความอาลัย และลงนามที่ศาลาสหทัยสมาคม 2-3 ราย แต่ยังไม่มีเหตุการณ์อื่นที่น่ากังวล อยากฝากถึงประชาชนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือ บุคคลต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำตามจุดต่างๆ ได้ทันที
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผบช.น.แถลงข่าวผลการตรวจประชาชนก่อนที่จะเข้ามาในบริเวณท้องสนามหลวง ผ่านเครื่องสแกนในแต่ละจุด โดย พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า จากที่เจ้าหน้าทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเครื่องสแกนอาวุธมาตรวจสอบประชาชนที่จะเข้ามาในท้องสนามหลวง เบื้องต้นก็พบว่ามีประชาชนยังพกสิ่งที่เป็นอาวุธได้ เช่น คัตเตอร์ กรรไกร หรือแม้กระทั่งสนับมือกว่า 200 ชิ้น เข้ามาเรื่อยๆ ตนก็อยากประชาสัมพันธ์ว่าไม่จำเป็นต้องนำมา บริเวณท้องสนามหลวงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ