นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) แถลงภายหลังการประชุมว่า ศตส. ได้ประเมินว่าในช่วงที่จะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.นี้ จะดูแลประชาขนให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด และยังไม่มีการกำหนดวันสิ้นสุดที่จะให้เข้าถวายสักการะว่าจะเป็นวันใด โดย ศตส.ได้วางแนวทางปฏิบัติไว้คือ ช่วงระหว่างวันที่ 29-31 ต.ค. ซึ่งประเมินว่า จะมีประชาชนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงจะมีการปิดการจราจรโดยรอบท้องสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง เชื่อมต่อถนนราชดำเนิน ถนนหลานหลวง และแยกอรุณอัมรินทร์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป ส่วนรอบนอกจะปิดตามแยกหลัก โดยจะมีรถ ขสมก. อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้ามายังพื้นที่เท่านั้น ไม่อนุญาตให้รถส่วนตัวเข้ามาเด็ดขาด และจะปรับจุดรถรับ-ส่ง ให้ห่างกันเล็กน้อย เพื่อให้การจราจรไหลลื่น เพราะที่ผ่านมามีปัญหารถไม่สามารถวนออกไปรับที่ต้นทางได้อย่างต่อเนื่อง
นายสุวพันธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะจะใช้ระบบรับบัตรคิว มีจุดพักคอย ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่า จะมีประชาชนสามารถเข้าไปถวายสักการะภายในพระบรมมหาราชวังได้ ประมาณ 10,000 คน และขอให้ประชาชนไม่ต้องเร่งรีบเดินทางเข้ามาในช่วงแรก อยากให้ทยอยเดินทางเข้ามา เพราะยังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะอีกเป็นเวลานาน โดย ศตส.จะประเมินสถานการณ์รายวัน และหากสามารถปรับเพิ่มจำนวนประชาชนให้เข้าไปได้มากขึ้น ก็จะปรับเพิ่ม
นายสุวพันธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะจะใช้ระบบรับบัตรคิว มีจุดพักคอย ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่า จะมีประชาชนสามารถเข้าไปถวายสักการะภายในพระบรมมหาราชวังได้ ประมาณ 10,000 คน และขอให้ประชาชนไม่ต้องเร่งรีบเดินทางเข้ามาในช่วงแรก อยากให้ทยอยเดินทางเข้ามา เพราะยังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะอีกเป็นเวลานาน โดย ศตส.จะประเมินสถานการณ์รายวัน และหากสามารถปรับเพิ่มจำนวนประชาชนให้เข้าไปได้มากขึ้น ก็จะปรับเพิ่ม