สธ. ตั้งหน่วยปฐมพยาบาล - รพ.สนาม เพิ่มอีก เป็น 11 จุด ดูแลประชาชนรอเข้าสักการะพระบรมศพและลงนามแสดงความอาลัย
วันนี้ (17 ต.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร รายงานผลการดำเนินงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนทั้งด้านร่างกายและจิตใจในช่วงระยะวิกฤต และฉุกเฉิน 72 ชั่วโมงแรก ในส่วนกลางให้บริการประชาชนรวม 115,539 คน เป็นโรคทางกาย 113,700 คน โดยร้อยละ 98 เป็นการปฐมพยาบาล ขอรับยาดม แอมโมเนีย ส่วนด้านจิตใจมีผู้ขอรับการปฐมพยาบาลจิตใจ/ขอคำปรึกษา 1,492 คน ส่วนใหญ่ได้รับบริการแล้วอาการดีขึ้น มีส่งรักษาต่อ 66 คน ด้วยโรคประจำตัว โดยในวันแรกของการปฏิบัติงานระหว่างการเคลื่อนขบวนพระบรมศพ มีประชาชนรับบริการมากที่สุด 4.3 หมื่นกว่าคน ส่วนผลการดำเนินงานในวันที่ 3 ของการปฏิบัติงาน (16 ตุลาคม 2559) ดูแลประชาชน 5,193 คน เป็นการปฐมพยาบาล แจกยาดมแอมโมเนีย 3,324 คน ขอรับยา 1,492 คน ป่วยด้วยอาการปวดศีรษะ/เวียนศีรษะ ไข้เจ็บคอ อ่อนเพลีย ผื่นคัน โดยมีส่งรักษา 3 คน ด้วยโรคประจำตัว ด้านจิตใจให้บริการปฐมพยาบาลด้านจิตใจ / ให้คำปรึกษา 747 คน
ในส่วนภูมิภาค ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด / โรงพยาบาลทั่วประเทศ จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนเช่นกัน ผลการปฏิบัติงาน 3 วัน จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการ 170 ทีม ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ 5,724 ทีม ทีมเยียวยาด้านจิตใจ 589 ทีม มีผู้ป่วยโรคทางกายเข้ารับบริการ 1,197 คน ทั้งนี้ หลัง 72 ชั่วโมงแรก ได้มอบนโยบายให้แต่ละพื้นที่ ปรับเปลี่ยนวางแผนการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับจำนวนประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม
“การจัดบริการในส่วนกลาง กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม โรงเรียนแพทย์ ตำรวจ เอกชน และมูลนิธิ จัดบริการในลักษณะศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข ให้บริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพให้ดีที่สุด มีการวางแผนและปรับแผนการปฏิบัติงานทุกวัน โดยในวันนี้ได้เพิ่มจุดให้บริการเป็น 11 จุด ประกอบด้วย หน่วยปฐมพยาบาล 9 จุด ตั้งอยู่บริเวณโรงแรมรัตนโกสินทร์ สนามหลวงฝั่งเชิงสะพานปิ่นเกล้า สนามหลวงกองอำนวยการ กทม. ประตูวิเศษชัยศรี ท่าช้าง ข้างกระทรวงกลาโหม ศาลหลักเมือง สนามหลวงฝั่งพระบรมมหาราชวัง ศาลาสหทัยสมาคม และโรงพยาบาลสนาม 2 จุด บริเวณกองอำนวยการ กทม. บริเวณสนามหลวง และข้างกระทรวงกลาโหม” ปลัด สธ. กล่าว
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ระมัดระวังความเจ็บป่วยที่มาจากสภาพอากาศร้อนจัด และการมีฝนตก เตรียมร่างกายให้พร้อม ดื่มน้ำมาก ๆ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย เตรียมร่ม พัด ชุดกันฝน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้มีโรคประจำตัวขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเจ็บป่วยสามารถไปรับบริการที่หน่วยปฐมพยาบาล และโรงพยาบาลสนามที่อยู่ใกล้ได้ฟรี
นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า สบส. มีความห่วงใย อสม. ทั่วประเทศที่มี 1 ล้าน 4 หมื่นกว่าคน ขอให้ดูแลสุขภาพกายและใจของตนเองและครอบครัว ขณะเดียวกัน ได้ขอความร่วมมือให้ อสม. ออกเยี่ยมบ้านทุกหลังคาเรือนเพื่อดูแลสุขภาพกายและใจของเพื่อนบ้านด้วย โดยพูดคุยให้คำแนะนำและให้กำลังใจซึ่งกันและกันอย่างเต็มความสามารถ พร้อมทั้งขอให้ อสม. เชิญชวนประชาชนทุกคนในหมู่บ้านร่วมกันทำความดีสนองคุณแผ่นดิน น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า ขณะนี้กรม สบส. มี อสม. ที่ผ่านการอบรมการดูแลด้านสุขภาพจิตประชาชนขั้นพื้นฐาน และยกระดับเป็น อสม. เชี่ยวชาญด้านนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถให้การดูแลทั้งสุขภาพกายและจิตใจแก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีความคุ้นเคยและใกล้ชิดกับเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนความเศร้าโศกมาเป็นการเสริมพลังใจให้มีความเข้มแข็งในการดำเนินชีวิตต่อไป โดยหากพบว่ารายใดมีอาการเกินขีดความสามารถของ อสม. จะมีการประสานส่งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อให้การดูแลที่เหมาะสมต่อไป