xs
xsm
sm
md
lg

สตช.จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ผบ.ตร.พร้อมนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยืนยันความพร้อมดูแลประชาชนถวายสักการะพระบรมศพ 29 ต.ค.นี้



วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยนางบุษบา ชัยจินดา นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. และคณะแม่บ้านตำรวจ ตลอดจนข้าราชตำรวจเข้าร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียง โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นพระสงฆ์จากวัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และทอดผ้าไตรบังสุกุล เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อตำรวจและพสกนิกรชาวไทย

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร ถึงความพร้อมในการรองรับประชาชนที่จะเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพต่อเบื้องพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งสำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2559 เป็นต้นไป ซึ่งได้ข้อสรุปหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว โดยบริเวณพื้นที่สนามหลวง จะใช้ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ วันละ 3,000 นาย ดูแลความปลอดภัยและการจราจร เชื่อว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาในแต่ละวัน โดยเฉพาะประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง โดยประสานตำรวจนครบาลในการหาจุดจอดรถ พักคอย 10-12 จุด บริเวณพื้นที่ชั้นในรอบสนามหลวงจะปิดการจราจรตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ส่วนการเฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพและเด็กพลัดหลงได้มีการจัดตำรวจสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ตลอดเวลา ส่วนการแสดงออกของประชาชนที่จะเดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขอให้แต่งกายด้วยชุดสุภาพ และงดกิจกรรมและการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม

ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ล่าสุดรับแจ้งเป็นคดีอาญา จำนวน 22 คดี ออกหมายจับ 8 คดี ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับการประสานกับตำรวจสากลเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดกลับมาดำเนินคดี แต่เนื่องจากในบางประเทศไม่มีกฎหมายลักษณะนี้จึงทำให้การส่งตัวเป็นไปได้ยาก
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น