ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ได้ฟังวลีในอารมณ์ตัดพ้อของ“บิ๊กติ๊ก”พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายสุดเลิฟของ“ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบคำถามนักข่าว เรื่องที่ภรรยาและลูกชายถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง ทั้งเรื่องสร้างฝายที่เชียงใหม่ และเรื่องบริษัทของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ทำแฮททริก ประมูลงานรัฐได้ 3 งานเเล้ว มันก็อดนึกถึงประโยคเด็ดสะระตี่ของ กปปส.ก่อนกระดานจะล้มไม่ได้
ต้องปฏิรูปขจัดคอร์รัปชัน เขี่ยนักการเมืองโกงทิ้งไปให้สิ้นซาก !
ซึ้งหรือไม่ซึ้ง มันก็เสนาะหูกินใจเพียงพอให้ทหารทนไม่ไหว เเปลงร่างเป็นคสช. ออกมายึดอำนาจ 22 พ.ค. 57
ต้องย้อนไปในสถานการณ์ที่ เมืองไทยคลี่คลายเพราะทหารมาช่วยเอาไว้ !!!
กรอม้วนฟิล์มกลับไปไม่นาน“นายกฯลุงตู่”นำทีม กระจายคำสั่งดาหน้าเรียกบรรดาหัวโจกนักการเมืองตัวแสบเข้าอคาเดมี ปรับทัศนคติเรียงตัว วันนั้นคำเเซ่ซ้องหนาหูขึ้นทุกวัน จนเกิดเป็นกระแส“ลุงตู่ฟีเว่อร์”
ประชาชนสะใจ ที่คสช.ขี่ม้าขาวเข้ามาระงับยับยั้ง การเพาะเชื้อโกงอันตรายที่เคยเป็นเหลือบไรเกาะกินชาติบ้านเมือง ทั้งมาเฟีย ระดับชาติ-ท้องถิ่น หรือ ในกทม.กระเจิดกระเจิง ใครดื้อแพ่งได้ทำความรู้จักกับไม้ตาย มาตรา 44 แน่นอน
จังหวะนั้น ไม่มีใครปฏิเสธว่า“บิ๊กตู่”คือผู้เปิดฟ้าเมืองไทยที่เคยมืดมน เต็มไปด้วยนักการเมืองโกงชาติ พอตีกันเมื่อไหร่ อีกฝ่ายก็ปลุกม็อบกันเต็มบ้านเต็มเมือง และด้วยท่วงทำนองบทเพลงคืนความสุขให้คนในชาติ
ด้วยภาพของทหารขาวสะอาด - นักการเมืองโคตรโกง
และเพื่อให้เห็นว่า ใครกันที่มันทำให้ชาติเกือบจะล่มจม
ดังนั้น นอกจากเร่งแก้ปัญหาปากท้อง และเร่งร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกติกาประเทศ หวังเรียกความเชื่อมั่นจากคนไทยและนานาชาติแล้ว “บิ๊กตู่”เริ่มคืนความสุขให้คนไทย ปฏิบัติการกวาดล้างเผ่าพันธุ์นักการเมืองโกงเดินหน้าเต็มสูบ ใช้เครื่องจักรสุดโหดที่ว่ากันว่า แทบไม่เคยจอดปั๊มเติมน้ำมันหรือหยอดจารบี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยี่ห้อลูกหาบชั้นเยี่ยมที่แต่งตั้งมากับมือ คสช. คอยช่วยลงดาบทาบทับ
ผลงานชิ้นโบว์แดงสุดๆ คือการที่ สนช.ลงมติถอดถอนอดีตนายกฯ “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เมื่อ 23 ม.ค. กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการจำนำข้าว เสียง 190-18 เสียง
“ยิ่งลักษณ์ ถูกถอดถอน สนช.คุยได้ยันลูกบวช เพราะไม่เคยมีนักการเมืองคนใดในอดีตถูกกระบวนการถอดถอนจากรัฐสภาดำเนินการ”
จากนั้นเหมือนลูกเสือได้เปิดซิงขย้ำเหยื่อครั้งแรกในชีวิต มันติดใจรสชาติอันโอชะ สนช.ฟันดะไม่มีเลี้ยง
หลังรัฐธรรมนูญผ่านประชามติฉลุย กรุยทางสู่การเดินหน้าตามโรดแมปเลือกตั้งแล้ว อดีตลูกหาบเครือข่ายนายใหญ่ขึ้นเขียงรายไหนก็รายนั้น
ทั้ง ประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย กรณีเข้าไปก้าวก่าย แทรกแซงการทำงานของบอร์ดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)
ขนาดระดับบิ๊กทหาร อย่างล่าสุด“บิ๊กโอ๋”พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม ยังไม่พ้นเงื้อมมือ ถูกสนช.ฟันทิ้งไม่ใยดี กรณีแทรกแซงแต่งตั้งปลัดกลาโหม เว้นวรรคการเมือง 5 ปี
คล้อยหลังไม่นาน ประเด็นร้อนฉ่าถูกผ่าเปรี้ยง ด้วยคำสั่งหัวหน้าคสช. ยืมดาบมาตรา 44 สั่งกรมบังคับคดี เก็บค่าโง่จำนำข้าว จากผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายราว 2 หมื่นล้านบาท
มี“อดีตนายกฯปูสุดสวย”เป็นนางเอก ตบจริงจูบจริง ไม่มีตัวแสดงแทน อีกแล้วครับท่าน !
แม้เกือบลักลั่นมีดรามาให้เสียวไส้ กรณี“อภิรดี ตันตราภรณ์”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดึงเช็ง ไม่ยอมเซ็นลงนามหนังสือบังคับทางปกครอง แต่สุดท้ายยอมตวัดปากกา ไม่อย่างนั้นคงวุ่นวาย ตัวใครตัวมัน
มาถึงจุดนี้ สถานการณ์ คสช.และรัฐบาล ก็ดูดีไปหมดทั้งศึกในการตามสาวไส้เครือข่ายนักการเมืองโกง ที่กำลังใส่เกียร์ 5
หรือศึกนอกที่ “บิ๊กตู่”กำลังคิวทอง เดินสายยกแก้วไวน์โชว์เวทีโลก ประชามติฉลุยแล้วนะจ๊ะ จะเร่งเดินหน้าตามโรดแมปไปสู่ประชาธิปไตยอย่างไม่อายใคร
มันก็จะดูโคตรแฮปปี้เอนดิ้งฝุดๆ หากไม่มีเรื่องงามหน้าที่เปิดหัวไว้ในย่อหน้าแรก
“ตระกูลจันทร์โอชา”กำลังถูกคนไทยตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส แม้สุดท้ายต้องปล่อยให้กระบวนการยุติธรรม ทำหน้าที่ชี้ขาดถูกผิด
ยังไงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึง กปปส. “เครือข่ายลุงกำนัน”สุเทพ เทือกสุบรรณ อยู่ดี เพราะก่อนหน้านี้แสดงตัวหนุนทหารชัดเจน ชนิดไปไหนไปด้วยช่วยสองบาท ปราศจากการติติงการทำงานของรัฐ แม้จะเป็นถึงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านนามกระเดื่องก็ตาม
เมื่อเป็นพวกเดียวกันชัดเจน เครือข่าย กปปส.จึงติดร่างแห เจอกระแสทองลอกไปกับทหาร แอนด์“บิ๊กตู่”และครอบครัวไปเต็มๆ
ฝันที่เคยวาดไว้ หวังติดสอยห้อยตามไปมีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาลต่อไป จากกรณีรัฐธรรมนูญอนุญาตให้มีคนนั่งเสลี่ยงมาเป็นนายกฯ คนนอกได้ แคนดิเดตตัวเต็งโดย“บิ๊กตู่”บวกกับ ส.ว.ลากตั้ง 250 คน คอยหนุนหลังแล้ว ภาพฝันของเครือข่าย กปปส.ในการเข้าสู่ตำแหน่งในรัฐบาลหน้านั้น ช่างหอมหวาน
ไม่อย่างนั้น จะเกิดกรณี กปปส. นำโดย “สุเทพ”ปฏิบัติการส่ง“ถาวร เสนเนียม”กลับไปเป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธการเลื่อยขาเก้าอี้“เดอะมาร์ค”อภิสิทธิ เวชชาชีวะ ลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไม่สนแม้มีเงา“ชวน หลีกภัย”ยืนจังก้าอยู่ทั้งคนหรอกหรือ
แต่เหมือนมีมือที่มองไม่เห็น มาฉุดดึงให้สถานการณ์ของคู่กรรมของอย่าง“ทหาร แอนด์ กปปส.”ดูจะย่ำแย่ ยุ่งเหยิงเป็นลิงแก้แหลงไปอีก เมื่อ “แทน เทือกสุบรรณ”อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ“กำนันเทือก”ถูกศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา คดีรุกเขาแพง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี อึ้งกิมกี่ทั้งบางทหาร-กปปส.
ตำหนินี้แม้เป็นเเค่ศาลชั้นต้น แต่ส่งผลกระทบทางการเมืองถึงขนาดอาฟเตอร์ช็อก เพราะมันดันไปผนวกรวมกับมรสุมคู่หูชู้ชื่น อย่างรัฐนาวา คสช. พอถูกตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใสแบบแพ็กคู่ เลือกตั้งครั้งต่อไปที่บอกกันว่า ทหารมาแน่แบบแช่แป้ง จึงไม่แน่อีกต่อไป มีหรือเครือข่ายทักษิณจะอยู่เฉย ปล่อยโอกาสการขุดคุ้ย แฉดะให้หลุดลอย
แต่ที่นั่งยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย ได้อานิสงส์ จากการสะดุดขาตัวเองในยามนี้ก็คือ“เดอะมาร์ค”แอนด์ เดอะแก๊ง กลุ่มก๊วนเครือข่ายผู้สูงวัยในพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ต้องเปลืองแรงสู้รบกับกลุ่มก๊วนคนเคยๆ หวังกลับมายึดครองพรรค