รมว.ยุติธรรม ระบุกรมบังคับคดี ยึดทรัพย์โครงการจำนำข้าวได้ต้องรอศาลปกครองตัดสินก่อน ส่วนปมการเสียชีวิต “ธวัชชัย” ต้องรอผลสอบ ใช้ผลนิติวิทยาศาสตร์เป็นตัวยืนยัน
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 56/2559 ให้กรมบังคับคดี มีอำนาจหน้าที่ในการใช้มาตรการบังคับทางปกครองในการเรียกเก็บค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวว่า กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม มีความชำนาญในการยึดทรัพย์ สืบทรัพย์ ทางรัฐบาลจึงใช้กรมบังคับคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ความจริงในหลักการคดีละเมิด คดีสร้างความเสียหายของข้าราชการทุกกระทรวงทำอยู่แล้ว เช่น เจ้าหน้าที่ทำความเสียหายให้กับทรัพย์ เขาก็จะตามเรียกในหน่วยงานอยู่แล้ว แต่ทรัพย์ครั้งนี้เกิดจากเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก อาจมีความซับซ้อน ต้องหาคนชำนาญ เขาจึงให้กรมบังคับคดีดำเนินการ”
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า หากถามว่าจะถึงกรมบังคับคดีเมื่อไหร่ มันไม่ถึงง่ายหรอก เมื่อข้าราชการถูกเรียกทรัพย์ในคดีละเมิดลักษณะนี้ ข้าราชการก็มีสิทธิร้องศาลปกครองเพื่อขออุทธรณ์ได้ ซึ่งปัจจุบันคดีอุทธรณ์เกี่ยวกับข้าราชการทุกกระทรวงมีเต็มไปหมด ใครแพ้ ชนะ ก็ว่ากันที่ศาลปกครอง พอจบแล้ว หากเขาแพ้ กรมบังคับคดีถึงจะเข้าไปดำเนินการ ต้องทำตามคำสั่งศาล มีคำสั่งก็ทำได้เลย
ส่วนความคืบหน้าการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกุล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ผู้ต้องหาในคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบออกโฉนดที่ดินบริเวณหาดลายัน อุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต รวมทั้งที่ดินอีกหลายแห่งในจ.ภูเก็ต จ.พังงาและจ.สุราษฎร์ธานีนั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ขอให้รอฟังผลสอบจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตนายธวัชชัย ที่มีนายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นประธาน โดยใช้เวลาตรวจสอบ 15 วัน แต่ไม่ทราบว่าจะมีประเด็นอะไรให้ยืดเยื้อออกไปอีกหรือไม่ หลักฐานทั้งหมดในการตรวจสอบครั้งนี้ สิ่งที่ยืนยันคือใช้ผลสอบนิติวิทยาศาสตร์ รายงานตรวจศพของแพทย์นิติเวช
“เชื่อว่าผลสอบจากนิติวิทยาศาสตร์ช่วยได้ เพราะไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์ มีเพียงผู้ที่ถูกกล่าวหาที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งหมดอยู่ในการกระบวนการแล้ว ทั้งดีเอสไอ โรงพยาบาล นิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องรอผลจากทั้ง 3 หน่วยงานนี้ ทั้งเรื่องของฟิลม์เอ็กซเรย์ วันเวลา เหตุการณ์ ที่จะออกมา”
ส่วนกล้องวงจรปิดที่พบว่ามีปัญหานั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนมองเรื่องกล้องวงจรปิดก็มีเสียได้เหมือนกล้องจราจร เข้าใจได้ว่าย่อมเสียหายได้ ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบมีการรายงานตนอยู่ตลอด โดยที่ตนไม่ได้ไปจี้เร่งรัดทุกวัน
