xs
xsm
sm
md
lg

"ธีรวัฒน์"ขอคำร้อง-หลักฐาน ซัดผู้ตรวจฯฟังความข้างเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (19 ก.ย) นายสมภพ ระงับทุกข์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ได้ยื่นหนังสือโต้แย้ง มติผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีที่ผู้ตรวจการฯ มีมติว่า นายธีรวัฒน์ มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรม พร้อมกับขอใช้สิทธิตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 ขอสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาพิจารณาในการยื่นอุทธรณ์มติของผู้ตรวจการฯ
นายธีรวัฒน์ อ้างว่า มติของผู้ตรวจการฯ เป็นไปโดยรวบรัด ปกปิดการดำเนินการ และรับฟังข้อมูลของผู้ร้องเพียงด้านเดียวไม่เปิดโอกาสให้ตนเองในฐานะผู้ถูกร้องทราบข้อร้องเรียน และพยานหลักฐาน ที่ผู้ร้องอ้างว่าตนกระทำผิด ทำให้ไม่สามารถโต้แย้งแสดงหลักฐานได้ถูกต้องตรงประเด็น เมื่อยื่นคำชี้แจงไปก็อ้างว่า ส่งมาล่าช้า และรีบสรุปความ มีมติว่าตนมีพฤติกรรมผิดจริงตามที่ร้อง ทั้งที่กระบวนการรับฟังข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ และไม่ควรยุติโดยการฟังความข้างเดียว เท่ากับว่า ผู้ตรวจการฯ กระทำการฝ่าฝืน มาตรา 31 ของ พ.ร.บ.ประกอบรธน. ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 การดำเนินการของผู้ตรวจการฯ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรมการตรวจสอบ ที่มีการดำเนินการไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตนอย่างร้ายแรง จึงขอโต้แย้งมติ และขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร คัดสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เอกสารที่นายธีรวัฒน์ขอตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ประกอบด้วย หนังสือร้องเรียนของผู้ร้องเรียนทุกฉบับ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง พยานหลักฐานประกอบคำร้องทุกชิ้น , หนังสือที่ประธานสภาพัฒนาการเมือง ได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบ พร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง , บันทึกข้อเท็จจริงและความเห็นของเจ้าหน้าที่ที่ใช้ประกอบการพิจารณาของผู้ตรวจการฯ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง , บันทึกความเห็นของผู้ตรวจการฯ แต่ละท่าน รายงานการประชุมที่เกี่ยวเนื่องกับการพิจารณา และมีมติในเรื่องนี้ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง และเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่มีในสำนวนนอกเหนือจากที่ขอมา โดยขอให้จัดส่งสำเนาเอกสารทั้งหมดภายใน 7 วัน หรืออนุญาตให้ไปตรวจเอกสารสำนวนดังกล่าวและถ่ายเอกสารได้ และยังสำทับด้วยว่า หากผู้ตรวจการฯไม่ให้ข้อมูลข่าวสาร ตามที่นายธีรวัฒน์ร้องขอ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง แก่นายธีรวัฒน์ มากขึ้น และยังเป็นการตอกย้ำถึงการดำเนินการ ที่ปกปิด ซ่อนเร้น ไม่โปร่งใส มุ่งร้ายต่อนายธีรวัฒน์ โดยตรง เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (20 ก.ย.) จะมีการประชุมกกต. ซึ่งเป็นครั้งแรก หลังจากที่นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ได้รับหนังสือแจ้งมติเรื่องดังกล่าวจากผู้ตรวจการฯ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. โดยในระเบียบวาระการประชุม ไม่มีเรื่องดังกล่าวบรรจุอยู่เป็นวาระพิจารณา แต่อาจเป็นไปได้ว่า ประธาน กกต. จะเสนอเรื่องเข้าพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน และเป็นการประชุมลับ
ด้านนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึง การร้องเรียนนายธีรวัฒน์ ในประเด็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ว่า เรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการของสำนักงานป.ป.ช.แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ ว่าอยู่ในอำนาจที่ป.ป.ช.จะตรวจสอบได้หรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง เรื่องระยะเวลาในการระทำผิด ว่าอยู่ในตำแหน่งใด ก่อนที่จะมีการพิจารณารับ หรือไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยคาดว่า ขั้นตอนในการตรวจสอบในเบื้องต้นนี้ จะใช้เวลาไม่นาน
กำลังโหลดความคิดเห็น