เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (1 ก.ย.) ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธานการแถลงยุทธศาสตร์ชาติ-ยุทธศาสตร์ทหาร ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560-2579 โดยนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 58 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 57 วิทยาลัยการทัพยก ชุดที่ 61 วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 48 และวิทยาลัยการทัพอากาศ รุ่นที่ 50 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพเข้าร่วม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนภูมิใจที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคต รัฐบาลนี้มีทั้งทหารและพลเรือนทำงานร่วมกัน ดีใจที่การแถลงยุทธศาสตร์ชาติวันนี้ ตรงกับยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล แต่ปัญหาคือทำอย่างไรให้เดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้ประเทศ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารงานตั้งแต่ปี 57-58 ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลและคสช.ได้แก้ปัญหาจุดบกพร่องที่เป็นสาเหตุให้ต้องเข้ามา ขณะนี้กำลังทำในช่วงที่ 2 จากนั้นก็เป็นเรื่องของ 20 ปีข้างหน้า ซึ่งทุกคนคาดหวังว่า จะทำอย่างไรที่เราไม่ต้องกลับมาเจอปัญหาแบบเดิมอีก
"ปัญหาทุกปัญหาในวันนี้ ที่ต้องแคะ แกะ เกา มันสั่งสมมานาน ผมโทษใครไม่ได้ เพราะถ้าพูดออกไปก็จะมีผลกระทบกลับมา วันนี้ผมขอเวลาทำงาน สิ่งที่ผมทำและพูดในวันนี้ล้วนเป็นปัญหาเก่าทั้งสิ้น จึงไม่สามารถทำงานในปัจจุบัน และอนาคตได้มากนัก แต่ก็ต้องทำ และวางรากฐานให้ได้มากที่สุด ในระหว่างปี 59-60 และต่อจากนั้น ก็จะอยู่ในแผนของสภาพัฒน์ฯ และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล มีกลไกในการขับเคลื่อน โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีกฎหมาย และงบประมาณ แต่จะไปทาบทับกับการบริหารไม่ได้มากนัก เพราะเป็นกระบวนการประชาธิปไตย เป็นเรื่องของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่สามารถตีกรอบให้เกิดความชัดเจนได้ ที่รัฐบาลเข้ามาวันนี้ก็เพื่อแก้ปัญหาเหตุที่มันติดขัด ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาทางการเมือง รวมทั้งความล่าช้าในการพัฒนาประเทศ วันนี้เราจำเป็นต้องเร่งการทำงานให้เกิดความเป็นเอกภาพ และการบูรณาการ โดยเร่งการขับเคลื่อน 6 กลุ่มงานของรัฐบาล ซึ่งไม่ง่ายนัก เพราะยังมีเรื่องของความขัดแย้ง ผมก็ต้องต่อสู้เพื่อให้การทำงานเดินต่อไปได้ ขอร้องอย่าเพิ่งเบื่อในสิ่งที่ผมพูด รัฐบาลทำงานแบบไม่มีวันหยุด เพราะปัญหามีเป็นร้อย เรากำลังทำยุทธศาสตร์การเดินหน้าในการปฏิรูป และวางรากฐาน 20 ปี และเตรียมการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล จะทำอย่างไรให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทำงานได้ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ แต่ไม่ใช่การบังคับทุกเรื่อง เพราะในการบริหารทำไม่ได้ แต่ต้องใช้กลไกของรัฐสภา หากทำไม่ได้ก็ต้องไปชี้แจง และใช้กลไกการตัดสินของ 2 สภา แล้วนำไปสู่ศาล ผมต้องการแบบนี้ ไม่ได้ต้องการเอาอำนาจไปอยู่ที่ ส.ว. เพียงแต่ให้มีสิทธิ์พิจารณาการทำงานของรัฐบาลบ้าง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** ขัดใจเรื่องผลโพลด้านเศรษฐกิจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราแก้ปัญหาหลายอย่าง มีทั้งคนที่พอใจ และไม่พอใจ คนที่ไม่พอใจ เพราะเขาไม่มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาทางโครงสร้าง ส่วนโพล ก็เอาเรื่องเศรษฐกิจไปถามชาวนา ถามเกษตรกร มันก็ไปไม่ได้ แต่จะผิดหรือถูก ตนไม่ทราบ และไม่ได้เชื่อถือตามนั้นทุกอย่าง แต่ให้เกียรติ เพราะถือว่าหวังดี ซึ่งคำถามโพลส่วนใหญ่ไม่บวกก็ลบ ดังนั้นอยากให้ปรึกษาหารือกันในหลักการ ว่าจะทำอย่างไร เพราะปัญหาของเราทับซ้อนหลายด้าน
หลายคนอยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยสากล ให้ดูดีในสายตาโลก แล้วมันพร้อมหรือยัง ที่ผ่านมาพร้อม แต่ทุกอย่างเกือบพังทลาย วันนี้ต้องสร้างบ้านใหม่ สร้างประเทศไทยใหม่ เพื่ออนาคต 20 ปีข้างหน้า และไม่มีบ้านไหนที่สร้างโดยไม่มีเสา มันต้องมีรากฐาน เราถึงย้อนไปดูเศรษฐกิจฐานราก คือประชาชน โดยฝ่ายเศรษฐกิจเสนอให้เป็นประชารัฐ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ให้เกิดความเข้มแข็ง ร่วมกันตั้งแต่ต้นทางกลางทางปลายทาง คำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยที่มีจำนวนมากในประเทศ ให้ลืมตาอ้าปากได้ ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
วันนี้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องรัฐธรรมนูญ นายกฯคนใน คนนอก ขณะที่บ้านเมืองยังมีปัญหาเศรษฐกิจอีกมากมาย ที่จะต้องแก้ไข แต่ก็ยังสนใจเรื่องการโยกย้าย ซึ่งตนยังถามเลยว่า เลขาฯสมช. ใครย้าย เขายังไม่รู้ตัวเลย เขาย้ายหมดแล้ว รัฐมนตรีเซ็นไปหมดแล้ว ฉะนั้นรอไปก่อนคราวหน้า สำหรับเรื่องประชาธิปไตยเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่อย่าไปกังวลตรงนี้มากนัก เพราะวันนี้ต่างชาติก็มาลงทุนมากมาย เขารออย่างเดียวว่า บ้านเมืองจะมีประสิทธิภาพเมื่อไร ฉะนั้นเราต้องทำให้ตัวเองสงบลงให้ได้ ให้ประเทศชาติมีความมั่นคง มีเสถียรภาพ
** ต้องทำรถไฟทางคู่ให้สำเร็จ
นายกฯ กล่าวถึงการพัฒนาระบบรถไฟว่า รัฐบาลนี้เข้ามามีอยู่ 4 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นรถไฟทางคู่ อีก 96 เปอร์เซ็นต์ เป็นทางเดี่ยวทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลนี้ตั้งใจว่าจะต้องทำให้เป็นทางคู่ให้ได้ ขณะที่รถไฟความเร็วสูง จะต้องสร้างเพื่อเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจ และสามารถเชื่อมไปทวีปยุโรป รวมถึงประเทศอื่นๆได้ วันนี้รัฐบาลทำทุกอย่างทั้งมากบ้าง น้อยบ้าง ช้าบ้าง เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยเวลา และปัญหาเดิมที่มีอยู่หนักมากหรือไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ตนได้ตีกรอบไว้แล้ว แต่ไม่รู้ว่ารัฐบาลหน้าที่เลือกตั้งเข้ามา จะสานต่อหรือไม่ หากเขาไม่ทำ หรือมีอะไรที่ดีกว่านี้ ก็ไปว่าอะไรเขาไม่ได้
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง เราโดนด่าทุกวัน เรื่องกิโลเมตรเดียว สู้กันมา 2 ปีแล้ว แต่เอาล่ะ เรากำลังปลดล็อก 1 กิโลเมตรต้องได้ ต่อไปราคาแพงรัฐบาลก็ลดครึ่งหนึ่ง ซึ่งมันขัดแย้งกันไปหมด ทุกอย่างเป็นทีโออาร์ที่ร่างไว้แต่เดิม มันก็ต้องเป็นไปตามนี้ จะให้ใช้ มาตรา 44 ก็ไม่ได้ เพราะทุกอย่างจะพัง เนื่องจากเป็นการลงทุนกับต่างประเทศ
**เซ็งสื่อเสนอแต่ข่าวความขัดแย้ง
วันนี้สื่อเสนอข่าวทั้งหมดเป็นเรื่องการเมือง ความขัดแย้ง ตื่นเช้ามาก็เจอข่าวไอ้นี่หย่ากับคนนั้น เลิกกับคนนี้ เรื่องในครอบครัว ก็แถลงกันเป็นครึ่งชั่วโมง แต่ที่ตนพูด ไม่เอาไปออกเลย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พูดก็เอาเป็นข่าวนิดหน่อยพอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พูดยิ่งโดนหนักไปอีก ไหนบอกเศรษฐกิจจะดีขึ้น ถามว่าชาวบ้านจะได้กำไรข้าวแต่ละเกวียนเท่าไหร่ สัก 15,000 บาทได้หรือไม่ เดี๋ยวไปช่วยกันคิด ข้าวมีอยู่เยอะ แต่ระวังมอด นี่เป็นผลเสียจากสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง ซึ่งจะผิดไม่ผิด เดี๋ยวกระบวนการยุติธรรมก็ว่ามา อย่างไรก็ตาม วันนี้เรื่องการท่องเที่ยว ถือว่าดีมาก รัฐบาลกำลังเข้าไปแก้ไขปัญหา นอมินี ทัวร์ศูนย์เหรียญ เพื่อให้ทุกอย่างกลับเข้ามาในระบบ
นายกฯกล่าวว่าวันนี้บางอย่างต้องใช้ มาตรา 44 แต่ไม่อยากจะไปก้าวล่วงเรื่องเศรษฐกิจมากนัก เราต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ทั้งหมด ในเรื่องการส่งออกที่มีน้อยลง ยิ่งเราไม่พัฒนา จะยิ่งไปกว่าเดิม แต่เราหยุดอยู่ตรงนี้ลดบ้าง เพิ่มบ้างนิดหน่อย รอบบ้านรอบโลกเขาก็ลดกันทั้งนั้น แต่มันกลายเป็นเป็นประเด็นการเมืองไป เราจะไม่ตอบโต้เขา แต่เราจะทำอย่างให้ให้โครงสร้างเศรษฐกิจเข้มแข็ง มีรายได้เข้าประเะเทศ เชื่อมโยงประชาชนชั้นล่าง นั่นคือ ประชารัฐ
"เราต้องไม่ให้ใครมาดูถูกคนไทยได้อีก ในเวทีต่างประเทศ เราต้องมีที่ยืน ถ้าเราไม่แข็งแรงก็ไม่มีที่ยืน แต่วันนี้เรามีศักยภาพเพียงพอหลายอย่าง หลายประเทศก็สนใจประเทศเรา วันนี้เราเป็นผู้นำประเทศ จี 77 ซึ่งผมได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปเผยแพร่ เขาก็ยอมรับ เราต้องทำอย่างไรให้ประเทศเข้มแข็งเพื่อนำไป=สู่ารพัฒนาต่างๆ ต่อไปตนต้องเดินทางไปประชุมต่างประเทศอีกหลายครั้ง ถามว่าทำไมเขาถึงต้องเชิญผม เพราะการแสดงวิสัยทัศน์ต่อต่างประเทศ ต้องมีการพูดเชิงรุก เชิงโน้มน้าว มีการใช้ศิลปะ ตรงนี้ทหารเก่งอยู่แล้ว " นายกฯ กล่าว
ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ตนเข้ามายืนตรงนี้ ก็เพราะมีแรงศรัทธา ว่าต้องทำให้สำเร็จในระยะที่ 1 ให้ได้ ปัญหาเยอะ รู้ตั้งแต่ก่อนเข้ามาอยู่แล้ว แต่ต้องทำให้มีความเชื่อมั่นศรัทธา และทุกคนต้องมีความศรัทธาอย่างที่ตนมี โดยเฉพาะคนไทย เว้นพวกที่ไม่ใช่ นอกจากไม่ศรัทธาแล้ว มันยังทำลายอีก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนภูมิใจที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคต รัฐบาลนี้มีทั้งทหารและพลเรือนทำงานร่วมกัน ดีใจที่การแถลงยุทธศาสตร์ชาติวันนี้ ตรงกับยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล แต่ปัญหาคือทำอย่างไรให้เดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้ประเทศ มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารงานตั้งแต่ปี 57-58 ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลและคสช.ได้แก้ปัญหาจุดบกพร่องที่เป็นสาเหตุให้ต้องเข้ามา ขณะนี้กำลังทำในช่วงที่ 2 จากนั้นก็เป็นเรื่องของ 20 ปีข้างหน้า ซึ่งทุกคนคาดหวังว่า จะทำอย่างไรที่เราไม่ต้องกลับมาเจอปัญหาแบบเดิมอีก
"ปัญหาทุกปัญหาในวันนี้ ที่ต้องแคะ แกะ เกา มันสั่งสมมานาน ผมโทษใครไม่ได้ เพราะถ้าพูดออกไปก็จะมีผลกระทบกลับมา วันนี้ผมขอเวลาทำงาน สิ่งที่ผมทำและพูดในวันนี้ล้วนเป็นปัญหาเก่าทั้งสิ้น จึงไม่สามารถทำงานในปัจจุบัน และอนาคตได้มากนัก แต่ก็ต้องทำ และวางรากฐานให้ได้มากที่สุด ในระหว่างปี 59-60 และต่อจากนั้น ก็จะอยู่ในแผนของสภาพัฒน์ฯ และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล มีกลไกในการขับเคลื่อน โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีกฎหมาย และงบประมาณ แต่จะไปทาบทับกับการบริหารไม่ได้มากนัก เพราะเป็นกระบวนการประชาธิปไตย เป็นเรื่องของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่สามารถตีกรอบให้เกิดความชัดเจนได้ ที่รัฐบาลเข้ามาวันนี้ก็เพื่อแก้ปัญหาเหตุที่มันติดขัด ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาทางการเมือง รวมทั้งความล่าช้าในการพัฒนาประเทศ วันนี้เราจำเป็นต้องเร่งการทำงานให้เกิดความเป็นเอกภาพ และการบูรณาการ โดยเร่งการขับเคลื่อน 6 กลุ่มงานของรัฐบาล ซึ่งไม่ง่ายนัก เพราะยังมีเรื่องของความขัดแย้ง ผมก็ต้องต่อสู้เพื่อให้การทำงานเดินต่อไปได้ ขอร้องอย่าเพิ่งเบื่อในสิ่งที่ผมพูด รัฐบาลทำงานแบบไม่มีวันหยุด เพราะปัญหามีเป็นร้อย เรากำลังทำยุทธศาสตร์การเดินหน้าในการปฏิรูป และวางรากฐาน 20 ปี และเตรียมการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล จะทำอย่างไรให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทำงานได้ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ แต่ไม่ใช่การบังคับทุกเรื่อง เพราะในการบริหารทำไม่ได้ แต่ต้องใช้กลไกของรัฐสภา หากทำไม่ได้ก็ต้องไปชี้แจง และใช้กลไกการตัดสินของ 2 สภา แล้วนำไปสู่ศาล ผมต้องการแบบนี้ ไม่ได้ต้องการเอาอำนาจไปอยู่ที่ ส.ว. เพียงแต่ให้มีสิทธิ์พิจารณาการทำงานของรัฐบาลบ้าง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** ขัดใจเรื่องผลโพลด้านเศรษฐกิจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราแก้ปัญหาหลายอย่าง มีทั้งคนที่พอใจ และไม่พอใจ คนที่ไม่พอใจ เพราะเขาไม่มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาทางโครงสร้าง ส่วนโพล ก็เอาเรื่องเศรษฐกิจไปถามชาวนา ถามเกษตรกร มันก็ไปไม่ได้ แต่จะผิดหรือถูก ตนไม่ทราบ และไม่ได้เชื่อถือตามนั้นทุกอย่าง แต่ให้เกียรติ เพราะถือว่าหวังดี ซึ่งคำถามโพลส่วนใหญ่ไม่บวกก็ลบ ดังนั้นอยากให้ปรึกษาหารือกันในหลักการ ว่าจะทำอย่างไร เพราะปัญหาของเราทับซ้อนหลายด้าน
หลายคนอยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยสากล ให้ดูดีในสายตาโลก แล้วมันพร้อมหรือยัง ที่ผ่านมาพร้อม แต่ทุกอย่างเกือบพังทลาย วันนี้ต้องสร้างบ้านใหม่ สร้างประเทศไทยใหม่ เพื่ออนาคต 20 ปีข้างหน้า และไม่มีบ้านไหนที่สร้างโดยไม่มีเสา มันต้องมีรากฐาน เราถึงย้อนไปดูเศรษฐกิจฐานราก คือประชาชน โดยฝ่ายเศรษฐกิจเสนอให้เป็นประชารัฐ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค ให้เกิดความเข้มแข็ง ร่วมกันตั้งแต่ต้นทางกลางทางปลายทาง คำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยที่มีจำนวนมากในประเทศ ให้ลืมตาอ้าปากได้ ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
วันนี้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องรัฐธรรมนูญ นายกฯคนใน คนนอก ขณะที่บ้านเมืองยังมีปัญหาเศรษฐกิจอีกมากมาย ที่จะต้องแก้ไข แต่ก็ยังสนใจเรื่องการโยกย้าย ซึ่งตนยังถามเลยว่า เลขาฯสมช. ใครย้าย เขายังไม่รู้ตัวเลย เขาย้ายหมดแล้ว รัฐมนตรีเซ็นไปหมดแล้ว ฉะนั้นรอไปก่อนคราวหน้า สำหรับเรื่องประชาธิปไตยเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่อย่าไปกังวลตรงนี้มากนัก เพราะวันนี้ต่างชาติก็มาลงทุนมากมาย เขารออย่างเดียวว่า บ้านเมืองจะมีประสิทธิภาพเมื่อไร ฉะนั้นเราต้องทำให้ตัวเองสงบลงให้ได้ ให้ประเทศชาติมีความมั่นคง มีเสถียรภาพ
** ต้องทำรถไฟทางคู่ให้สำเร็จ
นายกฯ กล่าวถึงการพัฒนาระบบรถไฟว่า รัฐบาลนี้เข้ามามีอยู่ 4 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นรถไฟทางคู่ อีก 96 เปอร์เซ็นต์ เป็นทางเดี่ยวทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลนี้ตั้งใจว่าจะต้องทำให้เป็นทางคู่ให้ได้ ขณะที่รถไฟความเร็วสูง จะต้องสร้างเพื่อเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจ และสามารถเชื่อมไปทวีปยุโรป รวมถึงประเทศอื่นๆได้ วันนี้รัฐบาลทำทุกอย่างทั้งมากบ้าง น้อยบ้าง ช้าบ้าง เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยเวลา และปัญหาเดิมที่มีอยู่หนักมากหรือไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ตนได้ตีกรอบไว้แล้ว แต่ไม่รู้ว่ารัฐบาลหน้าที่เลือกตั้งเข้ามา จะสานต่อหรือไม่ หากเขาไม่ทำ หรือมีอะไรที่ดีกว่านี้ ก็ไปว่าอะไรเขาไม่ได้
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง เราโดนด่าทุกวัน เรื่องกิโลเมตรเดียว สู้กันมา 2 ปีแล้ว แต่เอาล่ะ เรากำลังปลดล็อก 1 กิโลเมตรต้องได้ ต่อไปราคาแพงรัฐบาลก็ลดครึ่งหนึ่ง ซึ่งมันขัดแย้งกันไปหมด ทุกอย่างเป็นทีโออาร์ที่ร่างไว้แต่เดิม มันก็ต้องเป็นไปตามนี้ จะให้ใช้ มาตรา 44 ก็ไม่ได้ เพราะทุกอย่างจะพัง เนื่องจากเป็นการลงทุนกับต่างประเทศ
**เซ็งสื่อเสนอแต่ข่าวความขัดแย้ง
วันนี้สื่อเสนอข่าวทั้งหมดเป็นเรื่องการเมือง ความขัดแย้ง ตื่นเช้ามาก็เจอข่าวไอ้นี่หย่ากับคนนั้น เลิกกับคนนี้ เรื่องในครอบครัว ก็แถลงกันเป็นครึ่งชั่วโมง แต่ที่ตนพูด ไม่เอาไปออกเลย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พูดก็เอาเป็นข่าวนิดหน่อยพอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พูดยิ่งโดนหนักไปอีก ไหนบอกเศรษฐกิจจะดีขึ้น ถามว่าชาวบ้านจะได้กำไรข้าวแต่ละเกวียนเท่าไหร่ สัก 15,000 บาทได้หรือไม่ เดี๋ยวไปช่วยกันคิด ข้าวมีอยู่เยอะ แต่ระวังมอด นี่เป็นผลเสียจากสิ่งที่มันไม่ถูกต้อง ซึ่งจะผิดไม่ผิด เดี๋ยวกระบวนการยุติธรรมก็ว่ามา อย่างไรก็ตาม วันนี้เรื่องการท่องเที่ยว ถือว่าดีมาก รัฐบาลกำลังเข้าไปแก้ไขปัญหา นอมินี ทัวร์ศูนย์เหรียญ เพื่อให้ทุกอย่างกลับเข้ามาในระบบ
นายกฯกล่าวว่าวันนี้บางอย่างต้องใช้ มาตรา 44 แต่ไม่อยากจะไปก้าวล่วงเรื่องเศรษฐกิจมากนัก เราต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ทั้งหมด ในเรื่องการส่งออกที่มีน้อยลง ยิ่งเราไม่พัฒนา จะยิ่งไปกว่าเดิม แต่เราหยุดอยู่ตรงนี้ลดบ้าง เพิ่มบ้างนิดหน่อย รอบบ้านรอบโลกเขาก็ลดกันทั้งนั้น แต่มันกลายเป็นเป็นประเด็นการเมืองไป เราจะไม่ตอบโต้เขา แต่เราจะทำอย่างให้ให้โครงสร้างเศรษฐกิจเข้มแข็ง มีรายได้เข้าประเะเทศ เชื่อมโยงประชาชนชั้นล่าง นั่นคือ ประชารัฐ
"เราต้องไม่ให้ใครมาดูถูกคนไทยได้อีก ในเวทีต่างประเทศ เราต้องมีที่ยืน ถ้าเราไม่แข็งแรงก็ไม่มีที่ยืน แต่วันนี้เรามีศักยภาพเพียงพอหลายอย่าง หลายประเทศก็สนใจประเทศเรา วันนี้เราเป็นผู้นำประเทศ จี 77 ซึ่งผมได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปเผยแพร่ เขาก็ยอมรับ เราต้องทำอย่างไรให้ประเทศเข้มแข็งเพื่อนำไป=สู่ารพัฒนาต่างๆ ต่อไปตนต้องเดินทางไปประชุมต่างประเทศอีกหลายครั้ง ถามว่าทำไมเขาถึงต้องเชิญผม เพราะการแสดงวิสัยทัศน์ต่อต่างประเทศ ต้องมีการพูดเชิงรุก เชิงโน้มน้าว มีการใช้ศิลปะ ตรงนี้ทหารเก่งอยู่แล้ว " นายกฯ กล่าว
ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ตนเข้ามายืนตรงนี้ ก็เพราะมีแรงศรัทธา ว่าต้องทำให้สำเร็จในระยะที่ 1 ให้ได้ ปัญหาเยอะ รู้ตั้งแต่ก่อนเข้ามาอยู่แล้ว แต่ต้องทำให้มีความเชื่อมั่นศรัทธา และทุกคนต้องมีความศรัทธาอย่างที่ตนมี โดยเฉพาะคนไทย เว้นพวกที่ไม่ใช่ นอกจากไม่ศรัทธาแล้ว มันยังทำลายอีก