โฆษก รบ.เผย “ประยุทธ์” กำชับปราบทัวร์ศูนย์เหรียญตรงไปตรงมา ไม่ต้องกลัวอิทธิพล สาวถึงต้นตอให้ได้ ฝากสื่อตีแผ่ให้สังคมรับรู้ ขออย่าด่วนสรุปนักท่องเที่ยวจีนลดลง แนะให้แยกละเมิด กม. ชี้กรณีนี้ทำชาติเสียรายได้ แจงกำลังสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการสุจริต เชิญจีนหารือและทำ MOU เล็งแก้ กม.ธุรกิจไกด์
วันนี้ (2 ก.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเข้าจับกุมตัวกรรมการบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด บริษัทต้นทางของทัวร์ศูนย์เหรียญรายใหญ่ที่สุดในไทย และผู้ต้องหาได้ขอประกันตัวเพื่อต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมนั้น
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น โดยจะต้องทำคดีให้เด็ดขาดและรัดกุม และขอให้สาวไปถึงต้นตอของขบวนการให้ได้ เพราะความเสียหายต่อประเทศมีมูลค่าสูง เพื่อทำให้สังคมประจักษ์ว่าเราจะไม่ยอมให้มีทัวร์ศูนย์เหรียญเกิดขึ้นซึ่งส่งผลทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย รวมทั้งฝากข้อคิดไปยังสื่อมวลชนทั้งหลายว่า หากมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ก็ขอให้ช่วยกันนำเสนอข่าวตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้ เพื่อเตือนสติ และป้องปรามไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อถึงกรณีที่มีผู้วิตกกังวลว่าผลจากการจับกุมบริษัททัวร์รายใหญ่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงว่า ไม่อยากให้ด่วนสรุปเช่นนั้น โดยทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ และอยากให้สังคมแยกแยะระหว่างการทำผิดกฎหมาย กับการคิดว่าทัวร์ศูนย์เหรียญช่วยสร้างรายได้ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มากับทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่ทั้งหมดถูกส่งกลับจีนผ่านนายหน้า และบริษัทนอมินีในไทยก็ไม่เคยชำระภาษีให้แก่รัฐ ถือว่าเป็นการจงใจละเมิดกฎหมาย
“รัฐบาลกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการที่ทำมาหากินอย่างสุจริต โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเชิญผู้แทนองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจีน (ซีเอ็นทีเอ) และกงสุลจีนประจำประเทศไทยไปหารือเพื่อทำความเข้าใจนโยบายปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ และลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและปราบปรามบริษัททัวร์ที่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ได้เจรจากับบริษัททัวร์รายอื่นเพื่อให้เข้ามารองรับนักท่องเที่ยวจีนที่ตกค้าง หลังจากบริษัท โอเอฯ ถูกปิด รวมทั้งเตรียมแก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฉบับใหม่ โดยหากพบบริษัททัวร์รายใดที่ขายแพกเกจทัวร์ในราคาต่ำจะถูกเรียกไปตรวจสอบทันที”