xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม”ย้ำแผนปฏิรูปตำรวจ ต้องชัดเจนมีผลเป็นรูปธรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า เรื่องการปฏิรูประบบงานความมั่นคง มีความคืบหน้าพอสมควร โดยเฉพาะการปฏิรูปตำรวจ พล.อ.ประวิตร ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เนื่องจากอยู่ในบทบัญญัติรธน.ฉบับใหม่ จึงได้กำชับให้มีความชัดเจนและมีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับคณะกรรมาธิการปฏิรูปตำรวจ ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่กำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้เสนอแผนการปฏิรูปตำรวจไว้แล้ว
ส่วนการปฏิรูปงานด้านข่าวกรอง พล.อ.ประวิตร ก็ได้กำชับในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นงานสำคัญ ที่ต้องรีบดำเนินการเร่งด่วน ให้ครอบคลุมการทำงานทั่วประเทศ ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ กับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ต้องร่วมกันดำเนินการอย่างเร่งด่วน
ด้านนางเบญจวรรณ สร่างนิทร ประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปโครงสร้างองค์กรภาครัฐ ใน กมธ.ฯ บริหารราชการแผ่นดิน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แถลงถึงการนำเสนอแผนการปฏิรูปด้านที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทาง กมธ.ฯ บริหารราชการแผ่นดิน สปท. ได้เข้าพบและนำเสนอประเด็นให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พิจารณาว่า ทางพล.อ.อนุพงษ์ เห็นด้วย 200 เปอร์เซ็นต์ กับแผนการทบทวนการจัดตั้งหน่วยงานราชการส่วนกลางในภูมิภาคต่างๆ เพราะจากข้อมูลการเกิดขึ้นใหม่ของหน่วยงานราชการ พบว่า มีส่วนงานที่ไม่ปรากฏในกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง มากถึง 2,913 หน่วยงาน ซึ่งเพิ่มมากเป็นเท่าตัว ของส่วนราชการ ที่ผ่านการจัดตั้งตามกฎหมาย
โดยแผนการปฏิรูปโครงสร้างองค์กรภาครัฐ ที่ กมธ.ฯ เสนอมีสาระสำคัญ คือ 1. ทบทวนโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐที่ปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาคให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และเป็นไปตามมติครม. เมื่อวันที่ 18 ก.ย.50 2. ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของส่วนราชการที่ปฏิบัติงานในภูมิภาคให้ถูกต้องตามภารกิจ เช่น กลุ่มงานวิจัย พัฒนาโดยคำนึงถึงการครอบคลุมพื้นที่ในหลายจังหวัด และ 3. ทบทวนและปรับเปลี่ยนการจัดแบ่งภาค หรือ เขต ของราชการบริหารส่วนกลางในภูมิภาคให้สอดคล้องกับภารกิจรวมถึงเขตการรับผิดชอบ
“ข้อเสนอดังกล่าวไม่ใช่การยุบ หรือ ยกเลิก ส่วนราชการกลางที่อยู่ในภูมิภาคต่างๆ แต่เป็นปรับโครงสร้างส่วนราชการให้มีศักยภาพและมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ หากหน่วยงานใดที่ต้องโอนภารกิจ จำเป็นต้องโอนกำลังคน และงบประมาณไปพร้อมกันด้วย สำหรับการดำเนินงาน คือ ให้หน่วยงานทั้ง 20 กระทรวง ตั้งอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ เพื่อพิจารณาส่วนงานของกระทรวงที่ตั้งในภูมิภาค และเสนอให้กับ กรรมการพัฒนาระบบราชการ เพื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. เพื่ออนุมัติดำเนินการ นอกจากนั้นให้ตั้ง อนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเฉพาะกิจเพื่อติดตามผลงาน" นางเบญจวรรณ กล่าว
ขณะที่ พล.อ.รัชกฤต กาญจวัฒน์ ประธานอนุกมธ.ฯ ระบบงบประมาณและการคลังภาครัฐ ในกมธ.ฯ บริหารราชการแผ่นดิน แถลงว่า จากกรณีที่ครม. ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกา เร่งพิจารณาเนื้อหาของ ร่าง พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.... และ ร่าง พ.ร.บ.การเงิน การคลังของรัฐ พ.ศ.... ให้แล้วเสร็จภายในเดือนต.ค.นี้นั้น ล่าสุดทางอนุกมธ.ฯ มีข้อเสนอเพิ่มเติมต่อการปรับปรุงเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง คือ เพื่อเป็นการนำร่องการปฏิรูปด้านงบประมาณของหน่วยงานรัฐที่คำนึงถึงแผนพัฒนาจังหวัด และมีส่วนร่วมของประชาชน ได้เสนอให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย ปรับปรุงกระบวนการทำแผนพัฒนาจังหวัด หรือกลุ่มจังหวัด รวมถึงอำเภอ และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ตรงตามความต้องการของท้องถิ่น และให้ประชาชนมีส่วนร่วม ขณะที่การดำเนินงานของการวิเคราะห์หรือสนับสนุนงานของการพิจารณากฎหมายว่าด้วยงบประมาณ ขอเสนอให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พัฒนากลุ่มงานบประมาณรัฐสภา และภายใน 5 ปีให้ยกระดับเป็นสถาบันวิเคราะห์งบประมาณประจำรัฐสภา
กำลังโหลดความคิดเห็น