xs
xsm
sm
md
lg

สปท.จ่อถกรายงานปฏิรูปโยกย้าย ตร. ยึดหลักอาวุโส มีช่องให้ข้ามได้ต้องผ่าน ก.ตร.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คำนูณ สิทธิสมาน โฆษกสปท. (แฟ้มภาพ)
“คำนูณ” เผย สปท.เตรียมพิจารณารายงานปฏิรูป กมธ.เรื่องโยกย้าย ตร. ยกหลักการเรียงตามลำดับอาวุโสความสามารถร้อยละ 70 ที่เหลือให้พิจารณาข้ามได้แต่ต้องผ่าน ก.ตร. ดักเพิ่มอาวุโสแต่หน่วยจำกัดไม่เกินร้อยละ 20 ผบ.ตร.ยึดอาวุโสประกอบความรู้สถานเดียว รับข้อเสนอ กมธ.สอดคล้องร่าง รธน. ไม่ให้ ตร.ทำหน้าที่ใต้อาณัติใคร

วันนี้ (12 มิ.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิก สปท.ในฐานะโฆษก สปท.กล่าวว่า ในการประชุม สปท.วันที่ 13 มิ.ย.นี้จะมีการพิจารณารายงานการปฏิรูปของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเรื่องการวางแนวทางมาตรฐานการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาทุกยุคทุกสมัย เพราะกฎเกณฑ์เปิดโอกาสให้ใช้ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชามากกว่ายึดถือหลักอาวุโส ทำให้เกิดการแทรกแซงทางการเมืองที่อาศัยตำรวจเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์และเข้าสู่อำนาจทางการเมืองโดยมิชอบ หรือถ้ามีอำนาจทางการเมืองอยู่แล้วก็ใช้อำนาจของตำรวจในการรักษาอำนาจการเมืองไว้ รายงานฉบับนี้จังถือเป็นการปฏิรูปตำรวจ 1 ใน 9 เรื่องที่สำคัญมาก

“หลักการที่เสนอ คือ ในการแต่งตั้งตำรวจตั้งแต่สารวัตรขึ้นไปจนถึงระดับผู้บัญชาการ ให้พิจารณาเรียงลำดับตามบัญชีอาวุโส ประกอบความรู้ความสามารถ และความประพฤติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของตำแหน่งที่ว่าง ส่วนอีกร้อยละ 30 หากมีเหตุผลความจำเป็นให้พิจารณาข้ามลำดับอาวุโสได้โดยต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร.”

โฆษก สปท.กล่าวว่า บัญชีอาวุโสประกอบความรู้ความสามารถและความประพฤตินั้น โดยชื่อก็บอกแล้วว่าไม่ใช่ยึดหลักอาวุโสอย่างเดียว เพราะผู้ใดถูกลงโทษทางวินัยให้ลดอาวุโสในบัญชีลง 1 ปี และผู้ใดมีความรู้ความสามารถเป็นพิเศษหรือมีความดีความชอบในการปฏิบัติหน้าที่ก็กำหนดให้มีกฎเกณฑ์ที่เปิดเผยและโปร่งใสในการพิจารณาของคณะกรรมการระดับกองบัญชาการให้สามารถเพิ่มอาวุโสให้ผู้นั้นได้ 1 ปี โดยการเพิ่มอาวุโสให้ผู้มีความดีความชอบในแต่ละหน่วยให้มีจำนวนจำกัดเพียงไม่เกินร้อยละ 20 เท่านั้น

ส่วนในการแต่งตั้งระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขึ้นไป คณะกรรมาธิการฯ เสนอให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสในบัญชีอาวุโสประกอบความรู้ความสามารถและความประพฤติเพียงสถานเดียว เพราะถือว่าเป็นบัญชีที่มีระบบถ่วงน้ำหนักระหว่างอาวุโสกับความรู้ความสามารถและความประพฤติไว้เหมาะสมแล้ว
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังมีข้อเสนอประกอบอื่นๆ อาทิ เกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนในระดับเดียวกัน การกำหนดชั้นของกองบัญชาการ กองบังคับการ และสถานีตำรวจ รวมทั้งการปรับปรุง ก.ตร. โดยมีการเสนอแนวทางในการยกร่างกฎ ก.ตร.ประกอบรายงานกรรมาธิการมาด้วย

“ข้อเสนอของกรรมาธิการถือว่าสอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับรอลงประชามติมาตรา 258 ง. (4) ที่กำหนดให้การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจคำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อให้ตำรวจสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด มีประสิทธิภาพ และภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน”


กำลังโหลดความคิดเห็น