ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -“ทหารของพระราชาไม่กลัวตาย กลัวแต่ประชาชนจะเดือดร้อนมากกว่า”
ถ้อยวลีที่ตราตรึงในหัวใจคนไทยทั้งชาติในวาระสุดท้ายของชีวิตนายทหารกล้า พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 ที่พูดคุยกับนายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยยืนยันจะเดินทางไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัด แม่ฮ่องสอน แม้ว่าท้องฟ้ามืดมนเฆมฝนทะมึนสภาพอากาศปิด สุ่มเสี่ยงต่อการบินเป็นอย่างยิ่ง
และในที่สุด หลังเสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อำเภอปายและอำเภอปางมะผ้า พล.ต.นพพร พร้อมด้วยสองนักบินและสองช่างเครื่องที่เดินทางไปด้วยกันก็พลีชีพเพื่อชาติเพื่อประชาชนในตอนขากลับ เมื่อเฮลิคอปเตอร์ UH72 หรือลาโกตา หมายเลข 9656 กองทัพภาคที่ 3ที่ยกจากสนามบินชั่วคราว จังหวัดแม่สองสอน มุ่งหน้าบินกลับพิษณุโลก ประสบอุบัติเหตุตกที่ยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงสายของวันที่ 14สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา
จากบันทึก “ความในใจนายอำเภอปาย” ซึ่งได้สัมผัสกับพล.ต.นพพร ระหว่างลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2559บอกเล่าระหว่างที่นายอำเภอปายกับ พล.ต.นพพร สนทนา เกี่ยวกับความเสียหายจากน้ำ ท่วม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ได้โทรศัพท์มาขอพูดคุยกับ พล.ต.นพพร เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพอากาศปิด และบอกว่าไม่ต้องเดินทางไปปางมะผ้าที่ประสบภัยน้ำท่วม แต่ พล.ต.นพพร ยืนยันว่าจะไป และนัดพบกับท่านผู้ว่าฯ ที่อำเภอปางมะผ้า ก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนมาให้ตนแล้วพูดว่า “ทหารของพระราชาไม่กลัวตาย กลัวแต่ประชาชนจะเดือดร้อนมากกว่า” อันสะท้อนถึงบุคลิกของชายชาติทหาร พล.ต.นพพร ที่พูดจาเด็ดเดี่ยว เอาจริงเอาจังต่อการทำงาน
ทันทีที่ ฮ. ลาโกตา ซึ่งมีนักบินที่ 1 คือ ร.อ.สุทัน อ่อนเมือง นักบินที่ 2 ร.ท.นวพัฒน์ มณีโชติ และช่างเครื่อง 2 นาย คือ จ.ส.อ.ชัยศักดา ทาโส และ จ.ส.ต.มงคลชัย รู้งาน ปรากฏสัญญาณขาดการติดต่อในเวลาประมาณ 10.30 นาฬิกา ของวันที่ 14 สิงหาคม 2559 ขณะบินผ่านอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณเทือกเขาสูงในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ปฏิบัติการค้นหาก็เริ่มต้นขึ้นทันที
พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3ได้ตั้งวอร์รูมที่กองบัญชาการการกองทัพภาคที่ 3ในอีกชั่วโมงถัดมาเพื่อเริ่มปฏิบัติการค้นหากระทั่งในที่สุดก็พบร่างของทหารกล้าทั้ง 4 นาย
หลังจากนั้น ได้มีการลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาเพื่อดำเนินการชันสูตรศพและมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และตั้งสวดอภิธรรมที่วัดพระนอนขอนตาล อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกัน 1 คืน โดย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)มาเป็นประธานในพิธีด้วยตัวเอง พร้อมกับทหารชั้นผู้ใหญ่ของทางกองทัพบกเกือบทั้งหมด
หลังจากนั้น มีการเคลื่อนย้ายศพไปตามจังหวัดภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิต โดยศพพลตรีนพพร เรือนจันทร์ จะบำเพ็ญกุศลที่วัดพระนอนขอนตาล ที่เป็นเป็นภูมิลำเนาเดิม, ร้อยเอกสุทัน อ่องเมือง บำเพ็ญกุศลที่วัดคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก, ร้อยโทนวพัฒน์ มณีโชติ วัดดอนตูม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี , จ.ส.อ.ชัยศักดิ์ดา ทาโส วัดมะขามเตี้ย ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และ จ.ส.ต.มงคลชัย รู้งาน วัดวังทองวราราม อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งการสูญเสียนายทหารทั้ง 5 ครั้งนี้ ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของกองทัพบก และนำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนพ้อง
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่าทหารที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 5 นาย จะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นประมาณ 2-5 ล้านบาท ตามสิทธิของแต่ละคน โดยกองทัพบกจะปูนบำเหน็จพิเศษ 8 ขั้น และขอพระราชทานยศสูงขึ้น โดย พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผบ.พล.ร.4 เป็นพลเอก,ร.อ.สุทิน อ่องเมือง ผู้บังคับหมวดปืนและซ่อมบำรุง กองร้อยบิน กองพลทหารราบที่ 4เป็นพลโท, ร.ท.นวพัฒน์ มณีโชติ ตำแหน่งนักบิน กองร้อยบิน กองพลทหารราบที่ 4เป็นพลตรี, จ.ส.อ.ชัยศักดิ์ดา ทาโส ตำแหน่งนายสิบส่งกำลังบำรุง กองร้อยบิน กองพลทหารราบที่ 4 เป็นพันโท และ จ.ส.ต.มงคลชัย รู้งาน ตำแหน่งช่างตรวจภาพทางอากาศ กองร้อยบิน กองพลทหารราบที่ 4 เป็นร้อยเอก
เป็นที่เล่าขานกันว่า พล.ต.นพพร เป็นนายทหารที่มีความเสียสละมาก ทำงานทั้งในหน้าที่นายทหารโดยตรง และงานที่เกี่ยวข้องกับประชาชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชน ทั้งการสร้างบ้านให้ผู้ยากไร้ มอบสิ่งของให้ประชาชน ใครที่มีเรื่องในฐานะผู้บัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดพิษณุโลก ก็ดูแลหมดจนเป็นที่รักใคร่ของประชาชน โดยเฉพาะคนที่เคยสัมผัสกับ พล.ต.นพพร หรือที่ผู้สื่อข่าวเรียกกันติดปากว่า “บิ๊กแอ้นท์” หรือบิ๊กไจแอ้นท์ อันเป็นฉายาที่ได้มาจากลูกน้องในสมัยปฏิบัติหน้าที่อยู่ พล.ร.7 เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นผู้บังคับการที่เอาจริงเอาจังต่อหน้าที่และระเบียบวินัยทหาร ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งพลทหาร นายสิบต่างผวาทุกครั้งเมื่อเห็นเงาร่างใหญ่คล้ายการ์ตูนไจแอ้นท์เดินเด่นมาแต่ไกล จนขานบอกต่อๆ กันว่า “ไจแอ้นท์” มาแล้ว
พล.ต.นพพร เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2501 สิริอายุ58 ปี สมรสกับ ดร.กรรณิการ์ เรือนจันทร์ อายุ 56 ปี บุตรชื่อนายภาคภูมิ เรือนจันทร์, น.ส.ปรารถนา เรือนจันทร์ ประวัติการศึกษาและรับราชการ รร.ตท.รุ่น 19 ปี 2521 รร.จปร.รุ่น 30 ปี 2526เริ่มรับราชการตำแหน่งสำคัญจาก ผบ.มว.ร.17 พัน.1 ก่อนที่จะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.พล.ร.4/ผบ.กกล.นเรศวร ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน ว่ากันว่า หากไม่เกิดเหตุสลด เดือนตุลาคม 2559 พล.ต.นพพร อาจขยับขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 3หรือไม่ก็แม่ทัพน้อยที่ 3 เพราะอายุราชการเหลือ 2 ปีเต็ม ทว่า วันนี้เหลือเพียงชื่อและความทรงจำที่ดีๆ กับผลงานที่ฝากไว้แก่คนรุ่นหลังเท่านั้น
ดร.กรรณิกา เรือนจันทร์ คู่ชีวิตของ พล.ต.นพพร ที่มารอรับศพสามีอย่างโศกเศร้าพร้อมกับลูกสาวและลูกชาย เล่าถึงสามีผู้ล่วงลับว่าเป็นคนทุ่มเททำงานมาก เคยไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านและครอบครัวนานถึง 1 ปี หรือ 6 เดือน จนกระทั่งช่วงหลังแทบจะไม่ได้กลับมาบ้านเลย แต่ พล.ต.นพพร ยังคงทำหน้าที่ดูแลครอบครัวได้อย่างดีและไม่เคยขาดตกบกพร่องรวมทั้งมีการพูดคุยกันเสมอ
สำหรับสาเหตุของ ฮ.ตก นั้น พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 แถลงว่าเบื้องต้นอาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศ และการตกไม่ใช่ลักษณะชนเขาแต่เป็นการกระแทกพื้นอย่างรุนแรงโดยไม่ได้เกิดการระเบิดแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอคณะวิเคราะห์และสอบสวนอากาศยานที่เกิดเหตุ ของนิรภัยการบินมาดำเนินการตรวจสอบ
ทางด้าน พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 กล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์ รุ่น UH-72หรือลาโกตา เป็นเครื่องบินใหม่ ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการที่ตนได้ไปเป็นผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน2 วัน สามารถยืนยันได้เลยว่าเกิดจากสภาพอากาศที่ปิดมาก นักบินพยายามจะดึงเครื่องขึ้นเพื่อหนีสภาพอากาศ แต่ด้วยกระแสลมที่บริเวณยอดดอยอินทนนท์มีความแรงทำให้เครื่องตัวใบพัดไปตัดกับต้นไม้ จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุมีร่องรอยที่ใบพัดไปตัดกับต้นไม้หลายจุด ทำให้เฮลิคอปเตอร์ตกที่บริเวณเนิน2445 ที่อยู่ใกล้กับอินทนนท์ เครื่องกระทบกับพื้นอย่างแรงแต่ไม่ระเบิด และทำให้ทหารทั้ง 5 นายเสียชีวิตทันที
สำหรับเฮลิคอปเตอร์ UH72/9656ลำดังกล่าว ร.อ.สุทัน อ่องเมือง นักบินที่ 1 ได้ระบุในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559 เป็นวันครบรอบ 1 ปีของเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์รุ่น uh-72aหมายเลข 9656 และทำการบินจำนวน 300 ชั่วโมง เครื่องบินดังกล่าวได้รับการส่งมอบเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2558 และเข้าประจำที่ ทภ.3 พิษณุโลก วันที่ 28 กันยายน 2558 และเมื่อเวลา 12.01 น.วันที่ 3สิงหาคมที่ผ่านมา ได้นำเครื่องเข้ารับการซ่อมบำรุงตามระยะเวลา ครบ 300 ชั่วโมง
ขณะที่วงการนักบินต่างระบุว่า ฮ.ลำนี้ใหม่ แต่น้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับ เบลล์ 212 หรือแบล็กฮอว์ก และมีจุดอ่อนในการบินเมื่อเข้าสู่อากาศปิด เมฆ-หมอกหนา นักบินมักหลงทิศ
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ธีรชัย ยืนยันว่านักบินมีความสามารถ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน แต่ในเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากสภาพอากาศมีความแปรปรวน อีกทั้งเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นเครื่องใหม่ที่มีขนาดเล็ก เมื่อเจอสภาพอากาศที่แปรปรวนก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
ขอสดุดีวีรกรรมทหารกล้า R.I.P. ทหารพระราชาผู้ไม่เคยกลัวตาย กลัวแต่ประชาชนจะเดือดร้อนมากกว่า