ผู้จัดการรายวัน360-"จักรทิพย์"ฟันธงบึ้มโยงการเมือง ยันสามารถออกหมายจับแก๊งบงการได้ แต่ขอหลักฐานแน่นกว่านี้ก่อน เผยยังไม่ถอนหมายจับ "ศักรินทร์" ขอให้รอดูตอนต่อไป "บิ๊กตู่"ถก สมช. ขออย่ากดดันเจ้าหน้าที่ วอนประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา "บิ๊กป้อม" ระบุเหตุระเบิดไม่ขยายวงจาก 3 จังหวัดใต้ อดีตส.ส.ปชป.ชี้เป็นการจงใจให้เกิดการเข้าใจผิด ผบช.ภ.8 สั่งเอ็กซเรย์พื้นที่ หลังพบระเบิดอีกหลายจุด กระบี่เตรียมมอบรางวัลเชิดชู รปภ.ใจเด็ด พบบึ้มป่วนใต้ที่นราธิวาส ทหารเจ็บ 2 นาย ส่วนที่ยะลาระเบิด 3 จุด โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อวินาศกรรม ไม่ใช่การก่อการร้าย เพราะถ้าเป็นการก่อการร้าย เมือมีเหตุเกิดขึ้นจะต้องมีผู้แสดงตัวว่าเป็นผู้กระทำหรือแสดงความรับผิดชอบ อย่างที่กลุ่มอัลกออิดะห์ หรือกลุ่มรัฐอิสลาม ที่มักจะมีการประกาศความรับผิดชอบหลังก่อเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่มีใครออกมาประกาศตัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะฉะนั้นจากประสบการณ์ที่ได้ทำงานเกี่ยวกับความมั่นคงมายาวนาน เชื่อว่าเหตุการณืที่เกิดขึ้นเป็นการก่อวินาศกรรม ไม่ใช่ก่อการร้าย
สำหรับความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีระเบิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ มีความคืบหน้าตามลำดับ เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น ขณะนี้ตำรวจสามารถต่อจิ๊กซอว์ได้แล้ว แม้จะไม่เห็นทั้งขบวนการ แต่เห็นภาพบางส่วนแล้ว ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งจะต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งขบวนการ โดยหากปรากฏพยานหลักฐานไปถึงใคร ก็จะดำเนินการทั้งหมด
"ประเด็นการก่อเหตุ ยังเกี่ยวข้องกับการลงประชามติตามที่เคยตั้งประเด็นไว้ตั้งแต่ตอนแรก ตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนความคิด เพราะตั้งสมมติฐานบนพื้นฐานข้อเท็จจริง โดยให้น้ำหนักมาจากเรื่องการเมืองภายในประเทศ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นออก รวมทั้งยังได้มีการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเทียบเคียงกับคดีระเบิดในกรณีอื่นๆ รวมถึงเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้"
ส่วนการประสานกับตำรวจมาเลเซียเกี่ยวกับการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง ฮีโร่ ที่ใช้ในการก่อเหตุ เพราะโทรศัพท์รุ่นนี้จำหน่ายเฉพาะในมาเลเซีย แต่ก็ไม่อยากให้ขยายความเรื่องนี้มาก และกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุระเบิดคล้ายกับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก็พูดชัดเจนแต่แรกว่ามีความคล้ายคลึงกัน ไม่เคยปฏิเสธ อย่างเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์กับล่าสุด พบวัตถุพยานเป็นลูกปลายเหมือนกัน แต่ไม่มีความเชื่อมโยงกัน เพราะอุปกรณ์ทำระเบิด จะหาซื้อที่ไหนก็ได้ เหมือนซื้อรองเท้าฟองน้ำ ดังนั้น ตัวคนต่างหากที่ต้องตรวจสอบความเชื่อมโยง
***ยันยังไม่ถอนหมายจับ "ศักรินทร์"
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้มีการจับกุมนายศักรินทร์ คฤหัสถ์ อายุ 32 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวโดยอาศัยอำนาจตาม ม.44 โดยนายศักรินทร์๋ มีสถานะเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยขณะนี้ยังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหาร และมีการซักถาม ซึ่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทีมสืบสวน เจ้าตัวสามารถให้การอย่างไรก็ได้ จะยอมรับหรือปฏิเสธก็ได้ เราไม่ได้ตัดสิทธิเขาแต่อย่างใด แต่ยืนยันว่าตำรวจยังไม่มีการเพิกถอนหมายจับนายศักรินทร์ แต่อย่างใด เพราะพนักงานสอบสวนได้ใช้พยานหลักฐานที่มีในขณะนั้น เสนอศาลออกหมายจับ ขณะนี้ ขอเวลาทำงานก่อน เดี๋ยวข้อเท็จจริงก็จะปรากฎ ส่วนการควบคุมตัวนายอับดุลเลาะห์ ปาเนาะ ที่หลบหนีคดีจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ที่จ.กระบี่ ก็อยู่ระหว่างการสอบสวน
***รอหลักฐานแน่นก่อนออกหมายจับ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมว่า ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากมีความชัดเจนก็จะสามารถเสนอศาลให้ออกหมายจับได้ โดยขณะนี้ทีมสืบสวนมีข้อมูลของกลุ่มบุคคลที่ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใครบ้าง และมีจำนวนเท่าใด หากถามว่าวันนี้สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาเลยได้หรือไม่ ตนตอบได้เลยว่าออกได้ แต่ตนต้องการรวบรวมพยานหลักฐานให้มากขึ้นกว่านี้ก่อน
ส่วนที่มีการแชร์ข้อมูล 10 จุดเสี่ยงในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทางโซเชียลมีเดีย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นข้อมูลที่ตำรวจได้มีการรวบรวมไว้อยู่แล้วว่ามีจุดใดบ้างที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
***"บิ๊กตู่"ขอประชาชนช่วยกันดูแลชาติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม ผบ.เหล่าทัพ และหน่วยงานด้านความมั่นคง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงสถานการณ์ระเบิดหลายจุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ว่า ขอให้ระวังเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะการนำเสนอข่าว เพราะหลายอย่างอยู่ระหว่างการสอบสวน และไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ถูกกดดัน เพราะทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยาก และไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน รวมทั้งต่างประเทศ โดยขอให้ทุกหน่วยช่วยกันเฝ้าระวัง โดยเฉพาะประชาชนต้องมีส่วนร่วมดูแลพื้นที่ของตัวเองคู่ขนานไปกับการทำงานของหน่วยงานความมั่นคง
***"บิ๊กป้อม"ปัดไม่เกี่ยว3จังหวัดใต้
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่สามารถพูดรายละเอียดได้ว่าเป็นฝีมือของใคร เพราะช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ ก็ขอร้อง อย่ากดดันผมให้มาก ถ้ามีความชัดเจนผมจะบอก แต่ถ้ายังไม่ชัดเจน ผมพูดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่มั่นใจว่าไม่ใช่การขยายพื้นที่ของผู้ก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่อาจจะมีคนจากทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นคนเอามาทำ แต่ทำเรื่องอะไร ตนไม่รู้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นปัจจัยภายในประเทศแน่นอน ไม่มีประเด็นต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่า ผู้บงการอยู่ในหรือนอกประเทศ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ว่าอยู่ใน หรือนอกประเทศ
***อดีตส.ส.ปชป.ชี้จงใจให้เข้าใจผิด
นายพีระยศ ราฮิมมูลา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การก่อเหตุในจังหวัดภาคใต้ 7 จังหวัด เกี่ยวโยงการเมืองจากกลุ่มที่เสียผลประโยชน์จากการผ่านประชามติและดิสเครดิตรัฐบาล ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์จากชายแดนใต้แน่นอน โดยเป็นความพยายามโยนบาปจากการกระทำ เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมเข้าใจผิด
***เผยนายกฯหารือมาเลเซีย16ส.ค.นี้
พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสมช. กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปร่วมประชุม International Conference on Blue Ocean Strategy ครั้งที่ 1 ในวันที่ 16 ส.ค. ที่ประเทศมาเลเซีย จะมีการหารือถึงเรื่องการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในระดับเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค แต่ยังไม่สามารถชี้ได้ว่า กลุ่มที่ก่อเหตุหลายจุดในพื้นที่ภาคใต้เป็นกลุ่มบีอาร์เอ็นเหมือนที่มีการกล่าวอ้าง เพราะวิธีการในการก่อเหตุเป็นไปในลักษณะเดียวกัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไป โดยเจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐานแล้วนำมาวิเคราะห์ก่อนจะสรุป
***กระบี่มอบรางวัลเชิดชู รปภ.ใจเด็ด
นายวิโรจน์ สุวรรณวงศ์ นายอำเภอเขาพนม กล่าวว่า จากข่าวที่เผยแพร่ออกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต เกี่ยวกับ นายกำธร เกตุแก้ว ซึ่งเป็นบุคคลที่ยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่นให้พ้นจากเหตุร้าย โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตัวเอง ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความเสียสละ สมควรที่จะได้รับการยกย่อง และจากการตรวจสอบพบว่า นายกำธร เป็นคนจังหวัดกระบี่ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จึงต้องการที่จะมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่บุคคลที่ทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่จังหวัดและประเทศชาติ
***ผบช.ภ.8 สั่งเอกซเรย์หาระเบิดตกค้าง
พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 กล่าวภายหลังมีการพบวัตถุระเบิดเพิ่มเติมในหลายจังหวัดของพื้นที่ภาค 8 หลังเกิดเหตุการณ์ป่วนเมืองเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า จากกรณีที่ยังมีการตรวจพบวัตถุระเบิดและระเบิดเพลิงเพิ่มเติมอีกหลายจุด ทั้งในพื้นที่จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่กระจายกำลังออกตรวจสอบในพื้นที่ เพื่อค้นหาระเบิดที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่ในแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นให้ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวแล้ว และขอให้ประชาชนช่วยกันตวจสอบทรัพย์สินและสิ่งของ เพื่อดูว่ามีระเบิดที่คนร้ายนำมาวางไว้อีกหรือไม่ เพราะอาจจะไม่ทันได้สังเกตเห็น ซึ่งถือเป็นการเอ็กซเรย์ที่ดีที่สุด
***โจรใต้วางบึ้ม2ลูกซ้อนทหารเจ็บ 2 นาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.เส้นทางให้แก่คณะครู สังกัดกองร้อยปืนเล็กที่ 1 ฉก.นราธิวาส 32 ริมถนนเพชรเกษม สายนราธิวาส-ปัตตานี ช่วงบริเวณหน้ามัสยิดส้มป่อย ม.4 ต.กาเยาะมาตี ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ 1.พันจ่าเอกองอาจ สีหบุตร หน.ชุด ถูกสะเก็ดระเบิดที่เฉี่ยวที่บริเวณหัวไหล่ขวา และแก้มขวา อาการสาหัส 2.พลทหารอรัญ พันธุ์พรม ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณริมฝีปาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าตรวจสอบพื้นที่ ระเบิดลูกที่ 2 ได้เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
**ป่วนเมืองยะหาวางระเบิด3จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อคืนวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ สภ.ยะหา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 จุด คือ จุดแรก ที่บริเวณหน้าร้านทอง ถนนสุขาภิบาล 3 ป้ายร้านพังเสียหายและกระจกแตก จุดที่ 2 หน้าร้านขายเครื่องเขียน ถนนพิทักษ์ธานี และจุดที่ 3 หน้าร้านขายหนังสือพิมพ์ ถนนสันติราษฎร แรงระเบิดทำให้ร้านเสียหายเล็กน้อย โดยทั้ง 3 จุดไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และหลังเกิดเหตุ นายชัยชนะ กฤตยานาถ นายอำเภอยะหา พร้อมด้วย ร.ต.อ.ประสพโชค ตระกูลอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ยะหา ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ทพ.47 เข้าปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุทั้ง 3 จุดทันที
จากสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพบคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น แต่งตัวอำพรางคล้ายชุดดะวะห์ ขับรถจักรยานยนต์นำระเบิดมาวางไว้ทั้ง 3 จุด โดยตั้งเวลาระเบิดให้ไล่เลี่ยกัน ห่างกันจุดละประมาณ 10 นาที เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการก่อกวนสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้าย