การวางระเบิด ลอบวางเพลิงในหลายจังหวัดภาคใต้ช่วงก่อนวันแม่ มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บกว่า 30 คนเป็นเหตุการณ์เหนือความคาดหมายของเจ้าหน้าที่ ไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดให้เห็นตัวผู้กระทำความผิดชัด แต่มีผู้ต้องสงสัย 2-3 รายถูกนำตัวไปสอบสวนแล้ว
เหตุร้ายเกิดขึ้นในจังหวัดภาคใต้ มีการตั้งข้อสังเกตต่างๆ ว่าอาจเป็นผลของความไม่พอใจเรื่องการทำประชามติ การโยกย้ายทหาร ฯลฯ แต่อาจเป็นเหตุอื่นใดก็ได้จนกว่าจะมีหลักฐานชี้ชัดเจน มีตัวผู้กระทำ พยานสำคัญและความจริงสามารถนำไปพิสูจน์ได้ในศาล
ผลกระทบโดยตรงมีทันทีจากการรายงานข่าวโดยสื่อต่างๆ โดยเฉพาะโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย มีทั้งข่าวจริง ข่าวลือ ข่าวโหมกระพือจากการแข่งขันของคนบนจอ สัมภาษณ์คนในวงการต่างๆ มีทั้งนักธุรกิจ นักวิชาการ คาดการณ์ต่างๆ โดยไร้ข้อมูลกระจ่างชัด
การแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้ผู้ชมถูกยัดเยียดข่าวสาร ความเห็นต่างๆ ตลอดทั้งวัน สร้างความรู้สึกว่าสถานการณ์จะเกิดวิกฤตรุนแรง ส่งผลเสียหายต่อประเทศด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง การท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ฯลฯ
คุณท่านผู้นำยังบ่นดังๆ ว่าเยอะเกินไป ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้ มีมาตรการตอบรับทันที วางกำลังตำรวจ ทหารในจุดสำคัญ เช่น สนามบิน แหล่งการค้า สร้างความมั่นใจให้ประชาชน เมื่อไม่มีเหตุร้ายต่อเนื่อง ความตื่นตระหนกก็ผ่อนคลาย
ผลของการรายงานข่าวได้สร้างความรู้สึกว่าเหตุร้ายนั้นวิกฤตเกินความเป็นจริง ทั้งในด้านยอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ อุบัติเหตุทางถนนระดับปานกลางครั้งเดียวยังมีคนตาย คนเจ็บมากกว่าเหตุระเบิดพร้อมกันหลายจุด แต่ใช่ว่าสภาพนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับได้
จากนี้ไปเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะอยู่ในความพร้อม จะเต็มที่หรือไม่ขึ้นอยู่กับการข่าว และความเป็นไปได้ แน่นอนการเฝ้าระวังตลอดเวลาย่อมไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ มีความแตกต่างด้านความได้เปรียบ เสียเปรียบมากมายระหว่างผู้จ้องกระทำ และผู้เฝ้าระวัง
ถ้าใครอยากสร้างเรื่องป่วนเมือง ทำได้ไม่ยาก เสียเงินโทรศัพท์ไปขู่จุดต่างๆ เป็นปฏิบัติการต้นทุนต่ำ แต่สร้างความโกลาหลได้ เช่น โทรศัพท์ไปขู่ว่ามีการวางระเบิดเครื่องบินเที่ยวนั้นๆ ดังที่เคยได้เกิดขึ้น ก็สร้างความเสียหายด้านเวลาเดินทาง ความรู้สึก
หรือเพียงแค่เอากล่องกระดาษ กระเป๋าเก่าๆ ใส่อะไรให้ดูมีน้ำหนัก ปล่อยให้สายไฟแลบออกมา แล้วไปวางไว้ตามจุดต่างๆ เช่น ริมรั้ว ใกล้ถังขยะ ป้ายรถประจำทาง สถานีรถไฟ แค่นี้ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่แห่กันมาตรวจสอบ ห้ามคนเข้าใกล้ ยกเลิกการเดินทาง
จากนี้ไป การสร้างความเชื่อมั่นจะอยู่ที่ความสำเร็จของเจ้าหน้าที่ในการคลี่คลายเหตุการณ์ สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด เตรียมมาตรการป้องกันให้พร้อมกว่าที่เป็นอยู่เพิ่มการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้มากกว่านี้ ถี่ยิบเป็นตาสับปะรด จะทำงานตรวจสอบได้ง่าย
กรุงเทพฯ จัดอยู่ในระดับต้นๆ ในบรรดาเมืองหลวงซึ่งมีกล้องวงจรปิด จะเป็นรองเพียงแต่ลอนดอน ปักกิ่ง ภายหลังจากเหตุร้ายในกรุงปารีส และเมืองใหญ่ในยุโรป อาจมีการเพิ่มจำนวนมากกว่าเดิมเยอะก็ได้ เป็นการเฝ้าระวัง สอดแนมแบบต้นทุนต่ำกว่าใช้คน
แต่บ้านเราประเด็นสำคัญคือคุณภาพต้องใช้แบบดีเยี่ยม แจ่มชัด แพงเราก็มีเงินซื้อ เพียงแต่อย่าให้มันเกินเหตุเพราะมีคนจ้องฉวยโอกาสงาบเงินค่านายหน้า ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างที่เคยกล่าวหากัน เช่น มีทั้งกล้องเปล่า กล้องคุณภาพต่ำ เก็บภาพได้ไม่ชัด
ไม่ใช่เพียงภาครัฐเท่านั้น ภาคธุรกิจ สถานการค้าเอกชน แม้แต่บ้านที่อยู่อาศัยของประชาชนทั่วไปก็นิยมติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อดูแลความปลอดภัย กรุงเทพฯ ไม่มีการก่ออาชญากรรมมากเหมือนเมืองใหญ่ๆ ก็จริง แต่มีเหตุร้ายย่อยๆ เยอะโดยเฉพาะอุบัติเหตุ
การก่อเหตุวางระเบิดวันที่ 11 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยการจูงใจว่าเกี่ยวโยงการเมือง หรือเหตุอื่นๆ จากถ้อยคำของเจ้าหน้าที่ดูเหมือนว่าได้รวบรวมหลักฐานสำคัญประกอบงานสอบสวนได้พอสมควร ความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อเหตุ การวางแผน เตรียมก่อเหตุร้าย
ดูสภาพการณ์แล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องมีหลายคน แบ่งงานกันจัดหาวัสดุ การกระจายกำลังวางระเบิด การลอบวางเพลิง ต้องใช้เวลานอกจากว่าวัสดุประกอบระเบิดมาจากกลุ่มที่ก่อเหตุเป็นประจำ มีเครือข่ายกว้างขวาง และคนปฏิบัติงานมีประสบการณ์ รู้จักพื้นที่ดี
การใช้ระเบิดซีโฟร์ ไม่ใช่เรื่องทำได้ง่าย หาซื้อไม่ได้โดยทั่วไป มีอยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง การใช้ในภาคธุรกิจระเบิดหินก็ใช้วัตถุระเบิดประเภทอื่นๆ ดังนั้น กลุ่มก่อเหตุครั้งนี้ย่อมมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มนอกกฎหมาย มีเงินทุน เครือข่ายอิทธิพล
แน่นอน เป็นผลงานของกลุ่มซึ่งหวังผลด้านการเมือง ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ต้นตอด้านทุน การสั่งงานมาจากคนไทยในต่างประเทศ โดยองค์กรต่างประเทศหรือไม่ เป็นหน้าที่ของการสืบสวนเบาะแส และคงไม่หยุดปฏิบัติงานถ้ามีโอกาสกระทำได้
ที่สำคัญคือหน่วยงานเจ้าหน้าที่ภาครัฐต้องไม่ปล่อยให้เหตุร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นถี่ยิบ แล้วจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ จนกลายเป็นความเคยชินว่าการวางระเบิด การลอบวางเพลิงเป็นสภาวะของความไม่สงบ สร้างความเสื่อมโทรมลงในทุกด้านของโครงสร้างประเทศ
ประเทศไทยมีความขัดแย้งทางการเมืองมาก ที่ผ่านมามีการใช้อาวุธสงครามลอบสังหารผู้ชุมนุม หน่วยงานของรัฐ ทำการศาล แต่ยังไม่เกิดการปะทะอย่างเต็มรูปแบบของกลุ่มติดอาวุธจนกลายเป็นมิคสัญญี สงครามก่อการร้าย ดังเช่นในกลุ่มประเทศอาหรับ
ยังมีพวกจินตนาการเตลิด เช่นอ้างว่าอาจเป็นการสร้างสถานการณ์โดยคนรัฐบาลหาเหตุเลื่อนการเลือกตั้งตามโรดแหม็บๆ ดูแล้วเป็นการเพ้อเจ้อเลยเถิด ท่านผู้นำไม่ต้องอาศัยสถานการณ์แบบนี้ จะมีเหตุร้ายหรือไม่มี ก็มีคนจองเก้าอี้นายกฯ ไว้ให้นั่งต่อแล้วนี่
เหตุร้ายเกิดขึ้นในจังหวัดภาคใต้ มีการตั้งข้อสังเกตต่างๆ ว่าอาจเป็นผลของความไม่พอใจเรื่องการทำประชามติ การโยกย้ายทหาร ฯลฯ แต่อาจเป็นเหตุอื่นใดก็ได้จนกว่าจะมีหลักฐานชี้ชัดเจน มีตัวผู้กระทำ พยานสำคัญและความจริงสามารถนำไปพิสูจน์ได้ในศาล
ผลกระทบโดยตรงมีทันทีจากการรายงานข่าวโดยสื่อต่างๆ โดยเฉพาะโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย มีทั้งข่าวจริง ข่าวลือ ข่าวโหมกระพือจากการแข่งขันของคนบนจอ สัมภาษณ์คนในวงการต่างๆ มีทั้งนักธุรกิจ นักวิชาการ คาดการณ์ต่างๆ โดยไร้ข้อมูลกระจ่างชัด
การแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้ผู้ชมถูกยัดเยียดข่าวสาร ความเห็นต่างๆ ตลอดทั้งวัน สร้างความรู้สึกว่าสถานการณ์จะเกิดวิกฤตรุนแรง ส่งผลเสียหายต่อประเทศด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง การท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ฯลฯ
คุณท่านผู้นำยังบ่นดังๆ ว่าเยอะเกินไป ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้ มีมาตรการตอบรับทันที วางกำลังตำรวจ ทหารในจุดสำคัญ เช่น สนามบิน แหล่งการค้า สร้างความมั่นใจให้ประชาชน เมื่อไม่มีเหตุร้ายต่อเนื่อง ความตื่นตระหนกก็ผ่อนคลาย
ผลของการรายงานข่าวได้สร้างความรู้สึกว่าเหตุร้ายนั้นวิกฤตเกินความเป็นจริง ทั้งในด้านยอดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ อุบัติเหตุทางถนนระดับปานกลางครั้งเดียวยังมีคนตาย คนเจ็บมากกว่าเหตุระเบิดพร้อมกันหลายจุด แต่ใช่ว่าสภาพนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับได้
จากนี้ไปเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะอยู่ในความพร้อม จะเต็มที่หรือไม่ขึ้นอยู่กับการข่าว และความเป็นไปได้ แน่นอนการเฝ้าระวังตลอดเวลาย่อมไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ มีความแตกต่างด้านความได้เปรียบ เสียเปรียบมากมายระหว่างผู้จ้องกระทำ และผู้เฝ้าระวัง
ถ้าใครอยากสร้างเรื่องป่วนเมือง ทำได้ไม่ยาก เสียเงินโทรศัพท์ไปขู่จุดต่างๆ เป็นปฏิบัติการต้นทุนต่ำ แต่สร้างความโกลาหลได้ เช่น โทรศัพท์ไปขู่ว่ามีการวางระเบิดเครื่องบินเที่ยวนั้นๆ ดังที่เคยได้เกิดขึ้น ก็สร้างความเสียหายด้านเวลาเดินทาง ความรู้สึก
หรือเพียงแค่เอากล่องกระดาษ กระเป๋าเก่าๆ ใส่อะไรให้ดูมีน้ำหนัก ปล่อยให้สายไฟแลบออกมา แล้วไปวางไว้ตามจุดต่างๆ เช่น ริมรั้ว ใกล้ถังขยะ ป้ายรถประจำทาง สถานีรถไฟ แค่นี้ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่แห่กันมาตรวจสอบ ห้ามคนเข้าใกล้ ยกเลิกการเดินทาง
จากนี้ไป การสร้างความเชื่อมั่นจะอยู่ที่ความสำเร็จของเจ้าหน้าที่ในการคลี่คลายเหตุการณ์ สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด เตรียมมาตรการป้องกันให้พร้อมกว่าที่เป็นอยู่เพิ่มการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้มากกว่านี้ ถี่ยิบเป็นตาสับปะรด จะทำงานตรวจสอบได้ง่าย
กรุงเทพฯ จัดอยู่ในระดับต้นๆ ในบรรดาเมืองหลวงซึ่งมีกล้องวงจรปิด จะเป็นรองเพียงแต่ลอนดอน ปักกิ่ง ภายหลังจากเหตุร้ายในกรุงปารีส และเมืองใหญ่ในยุโรป อาจมีการเพิ่มจำนวนมากกว่าเดิมเยอะก็ได้ เป็นการเฝ้าระวัง สอดแนมแบบต้นทุนต่ำกว่าใช้คน
แต่บ้านเราประเด็นสำคัญคือคุณภาพต้องใช้แบบดีเยี่ยม แจ่มชัด แพงเราก็มีเงินซื้อ เพียงแต่อย่าให้มันเกินเหตุเพราะมีคนจ้องฉวยโอกาสงาบเงินค่านายหน้า ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสอย่างที่เคยกล่าวหากัน เช่น มีทั้งกล้องเปล่า กล้องคุณภาพต่ำ เก็บภาพได้ไม่ชัด
ไม่ใช่เพียงภาครัฐเท่านั้น ภาคธุรกิจ สถานการค้าเอกชน แม้แต่บ้านที่อยู่อาศัยของประชาชนทั่วไปก็นิยมติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อดูแลความปลอดภัย กรุงเทพฯ ไม่มีการก่ออาชญากรรมมากเหมือนเมืองใหญ่ๆ ก็จริง แต่มีเหตุร้ายย่อยๆ เยอะโดยเฉพาะอุบัติเหตุ
การก่อเหตุวางระเบิดวันที่ 11 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยการจูงใจว่าเกี่ยวโยงการเมือง หรือเหตุอื่นๆ จากถ้อยคำของเจ้าหน้าที่ดูเหมือนว่าได้รวบรวมหลักฐานสำคัญประกอบงานสอบสวนได้พอสมควร ความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อเหตุ การวางแผน เตรียมก่อเหตุร้าย
ดูสภาพการณ์แล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องมีหลายคน แบ่งงานกันจัดหาวัสดุ การกระจายกำลังวางระเบิด การลอบวางเพลิง ต้องใช้เวลานอกจากว่าวัสดุประกอบระเบิดมาจากกลุ่มที่ก่อเหตุเป็นประจำ มีเครือข่ายกว้างขวาง และคนปฏิบัติงานมีประสบการณ์ รู้จักพื้นที่ดี
การใช้ระเบิดซีโฟร์ ไม่ใช่เรื่องทำได้ง่าย หาซื้อไม่ได้โดยทั่วไป มีอยู่ในกลุ่มเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง การใช้ในภาคธุรกิจระเบิดหินก็ใช้วัตถุระเบิดประเภทอื่นๆ ดังนั้น กลุ่มก่อเหตุครั้งนี้ย่อมมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มนอกกฎหมาย มีเงินทุน เครือข่ายอิทธิพล
แน่นอน เป็นผลงานของกลุ่มซึ่งหวังผลด้านการเมือง ทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ต้นตอด้านทุน การสั่งงานมาจากคนไทยในต่างประเทศ โดยองค์กรต่างประเทศหรือไม่ เป็นหน้าที่ของการสืบสวนเบาะแส และคงไม่หยุดปฏิบัติงานถ้ามีโอกาสกระทำได้
ที่สำคัญคือหน่วยงานเจ้าหน้าที่ภาครัฐต้องไม่ปล่อยให้เหตุร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นถี่ยิบ แล้วจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ จนกลายเป็นความเคยชินว่าการวางระเบิด การลอบวางเพลิงเป็นสภาวะของความไม่สงบ สร้างความเสื่อมโทรมลงในทุกด้านของโครงสร้างประเทศ
ประเทศไทยมีความขัดแย้งทางการเมืองมาก ที่ผ่านมามีการใช้อาวุธสงครามลอบสังหารผู้ชุมนุม หน่วยงานของรัฐ ทำการศาล แต่ยังไม่เกิดการปะทะอย่างเต็มรูปแบบของกลุ่มติดอาวุธจนกลายเป็นมิคสัญญี สงครามก่อการร้าย ดังเช่นในกลุ่มประเทศอาหรับ
ยังมีพวกจินตนาการเตลิด เช่นอ้างว่าอาจเป็นการสร้างสถานการณ์โดยคนรัฐบาลหาเหตุเลื่อนการเลือกตั้งตามโรดแหม็บๆ ดูแล้วเป็นการเพ้อเจ้อเลยเถิด ท่านผู้นำไม่ต้องอาศัยสถานการณ์แบบนี้ จะมีเหตุร้ายหรือไม่มี ก็มีคนจองเก้าอี้นายกฯ ไว้ให้นั่งต่อแล้วนี่