เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ กลับมาโชว์ผลงานโค้งแรกกำไรพุ่ง 381.60% หลังธุรกิจเหล็กฟื้นตัว ราคาเหล็กปรับขึ้น/ออเดอร์เพิ่ม ในขณะที่ธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญ “อนาวิล จิรธรรมศิริ” มั่นใจปี 59 CHOW กลับมาโชว์ฟอร์มสวย หลังพบออเดอร์เหล็กพุ่งต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจพลังงานเตรียมขายไฟเพิ่มอีกหลายโครงการ กำลังการผลิตรวมกว่า 80 เมกะวัตต์ จากปี 58 ขายไฟได้เพียง 8.92 เมกะวัตต์
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยถึงผลประกอบการงวด 3 เดือนประจำไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 48.83 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.06 บาท เพิ่มขึ้น 66.16 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นร้อยละ 381.60 เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีขาดทุนสุทธิรวม 17.34 ล้านบาท หรือหุ้นละ 0.02 บาท
สำหรับผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นมาจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมสำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 จำนวน 1,292.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 629.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 94.85 เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่มีรายได้รวม จำนวน 663.35 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการจำหน่ายเหล็กเพิ่มขึ้น 112.95 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.66 สาเหตุเนื่องจากมีการนำเข้าเหล็กลดลงตามมาตรฐการของรัฐบาล ทำให้ราคาสินค้าเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และบริษัทสามารถขายสินค้าได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ส่วนบริษัทย่อยได้รับรู้รายได้ จำนวน 581.57 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าในต่างประเทศ จำนวน 4 โครงการ และในประเทศ 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 15.64 เมกะวัตต์ และรายได้จากการพัฒนาโครงการ จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 12 เมกะวัตต์ และรายได้จากการก่อสร้างโครงการตามอัตราส่วนงานที่ทำเสร็จ จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 27.22 เมกะวัตต์
นายอนาวิล กล่าวอีกว่า การปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของรายได้ และกำไรในไตรมาสแรกปี 2559 เชื่อว่าจะส่งผลต่อเนื่องให้ผลประกอบการในปี 2559 มีแนวโน้มเติบโตจากปี 2558 อย่างชัดเจน จากการฟื้นตัวของธุรกิจเหล็กต้นน้ำ และจากการรับรู้รายได้เพิ่มในธุรกิจพลังงานที่ได้ลงทุนไปแล้วในปี 2558 ที่ผ่านมา โดยพบว่า ในปี 2559 ความต้องการใช้เหล็กในประเทศได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ภาครัฐใช้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เข้ามาควบคุมคุณภาพเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เหล็กคุณภาพต่ำจากต่างประเทศไม่สามารถเข้ามาจำหน่ายในประเทศได้ ส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศปรับตัวดีขึ้น และผู้ประกอบการเหล็กปลายน้ำหันมาสั่งซื้อเหล็กต้นน้ำที่ผลิตในประเทศเพิ่มมากขึ้นในทิศทางเดียวกันด้วย
“ปีนี้อุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาว หรือ Steel Billet ดีขึ้นตั้งแต่เดือนแรกของปี จากการใช้มาตรฐาน มอก.เข้ามาควบคุมคุณภาพเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เหล็กคุณภาพต่ำเข้ามาในตลาดไทยได้ยากขึ้น โดยพบว่า CHOW เริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าเหล็กต้นน้ำเข้ามาหนาแน่นขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาน้อยมาก ซึ่งจะสนับสนุนให้ธุรกิจเหล็กฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับ ในปีนี้จะรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานเข้ามาเพิ่มจากโครงการที่พร้อมขายไฟในปี 2558 และจากโครงการใหม่ที่จะสร้างเสร็จ และพร้อมขายไปในปีนี้ ซึ่งคาดว่าไม่ต่ำกว่า 80 เมกะวัตต์ ดังนั้น จะสะท้อนให้ผลประกอบการของ CHOW ในปีนี้กลับมาเติบโตโดดเด่นได้อีกครั้งตามแผนงานที่ได้วางไว้” นายอนาวิล กล่าว