ศูนย์ข่าวขอนแก่น - "หมอเปรม" แทรกคิวเข้าให้ปากคำ กก.สอบสวนระดับจังหวัดก่อนวันนัด ปฏิเสธเสียงแข็งตามเคย โอ่ไม่หนีแม้ผลสอบว่าผิด ด้านปลัดจังหวัดฯเตรียมเรียกรองนายกเล็ก พยานปากสำคัญให้ข้อมูลเพิ่มเติม มั่นใจสรุปสำนวนทัน 11 ส.ค. ด้าน ตร.เผยเหลือสอบพยาน 1 ปาก พร้อมนักนักข่าวผู้เสียหายชี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ชาวบ้านฟ้อง “หมอเปรม” ใช้เสียงตามสายชุมชนด่านักข่าวรายวัน
วานนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.20 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.ขอนแก่น นายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนคดี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ที่ก่อเหตุถอดกางเกงผู้สื่อข่าวและกักขังหน่วงเหนี่ยมผู้สื่อข่าวตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง ได้มีการเรียกสอบปากคำและให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังได้รับการประสานงานจาก นพ.เปรมศักดิ์ ว่าจะขอเข้าให้ปากคำในวันนี้ หลังจากเลื่อนนัดการให้ปากคำจากเดิมที่กำหนดในวันนี้ (5 ส.ค.) โดย นพ.เปรมศักดิ์ ได้เดินทางมาคนเดียว และได้เดินเข้าสู่ห้องประชุม ซึ่งมีคณะกรรมการสอบสวนนั่งรออยู่ทันที
** “หมอเปรม” ยืนกรานไม่ได้ทำผิด
โดย นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวกับคณะกรรมการฯช่วงหนึ่งว่า ตนไม่ได้ทำผิด ที่ผ่านมาการมาพบก็ไม่ได้มีพิธีรีตอง แต่เมื่อแหล่งข่าวไม่ต้องการให้ละลาบละล้วง และแจ้งว่าไม่สะดวกก็ควรเข้าใจ วันนั้นก็ไม่ได้บอกว่าจะให้ข่าว สื่อมวลชนกลับบุกรุกเข้ามา อีกทั้งไม่ควรล่วงละเมิดเรื่องส่วนตัวด้วย อย่างเวลาตนโพสต์เฟชบุ๊กว่าไปปฎิบัติงานตรงจุดไหน ก็ไม่เห็นมีใครติดตามทำข่าวบ้าง ทั้งนี้ขอให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯและตำรวจเท่านั้น ไม่ต้องการไปให้การข้างถนน จะไม่ไปโต้ตอบทางสังคม เพราะการตรวจสอบข้างถนนทำให้คนบริสุทธิ์เสียชื่อมาเยอะแล้ว แล้วมาขอโทษเพียงนิดเดียว หากไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำ จะยืนหยัดแบบนี้มาได้อย่างไร ชีวิตตนไม่มีหนีใครและไม่ทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งไม่มีความจำเป็นต้องทำผิดกฎหมาย ตนเองทำงานเพื่อบ้านเมืองมาโดยตลอด
“ยืนยันว่าผมไม่ทำผิดกฎหมายแน่นอน สื่อจะกล่าวหาก็กล่าวหาไป ผมไม่มีปัญญาที่จะถอดกางเกงสื่อฯ เวลาของผมเอาไปทำประโยชน์เพื่อชุมชนได้เยอะมาก แต่สื่ออยากได้อะไรก็บุกเข้าไป อยากให้เคารพกันบ้าง บางทีคนอยากจะได้อะไรต้องได้ มันคืออะไร" นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
** รายงานผลสอบถึง มท.สัปดาห์หน้า
ด้าน นายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การสอบปากคำวันนี้นอกจาก นพ.เปรมศักดิ์แล้วยังคงมีเจ้าหน้าที่เทศบาลที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 3 คน ส่วนในวันที่ 5 ส.ค.จะมีการเรียกสอบปากคำพยานเพิ่มเติมหลังมีการสอบสวนพบว่า มีรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่, เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่หน้าห้องนายก ทั้งหมดจะต้องมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่เช่นกัน ขณะที่การสอบปากคำผู้สื่อข่าวทั้ง 5 คนนั้นเสร็จสิ้นไปแล้วและมีการสรุปสำนวนไว้แล้ว ดังนั้น คงเหลือในส่วนของ นพ.เปรมศักดิ์เท่านั้น ทั้งนี้ มั่นใจว่าการสรุปสำนวนคดีความดังกล่าวจะเสร็จภายในวันที่ 10 ส.ค.และจะสรุปส่งเรื่องไปยังนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 11 ส.ค.เพื่อส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยต่อไป
"แนวทางการสอบสวนนั้นไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด คณะกรรมการสอบสวนและฝ่ายกฎหมายกระทำการอย่างรัดกุมและเป็นขั้นตอน ทุกท่านมีดุลยพินิจในการไต่สวนและสอบสวนอยู่แล้ว ดังนั้น หากผลการชี้มูลความผิดออกมาอย่างใดนั้นก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับว่าด้วย พ.ร.บ.เทศบาลฯ ซึ่งหากพบว่าพนักงานเทศบาลนั้นให้การเท็จก็จะถูกสอบสวนเอาผิดทางวินัยฐานให้ข้อมูลอันเป็นเท็จจริงกับผู้บังคับบัญชาอีกด้วย"
** ตร.เหลือสอบอีก 1 ปาก-เช็ควงจรปิด
ทางด้าน พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รองผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.ภ.) จ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงขั้นตอนการสอบสวนเอาผิดทางกฎหมายตามที่ผู้สื่อข่าวได้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับ นพ.เปรมศักดิ์ว่า ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานฝั่งผู้สื่อข่าวเสร็จสิ้น ขณะที่ฝั่งเทศบาลสอบปากคำไปแล้ว 7 คน คงเหลืออีก 1 คนเท่านั้นซึ่งอยู่ในห้องขณะเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้มาสอบปากคำอยู่ ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งได้มีการอายัดฮาร์ดดิสจากเทศบาลเมืองบ้านไผ่มานั้น อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบและกู้คืนจากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจที่ กทม. พร้อมกันนี้ก็ได้ประสานให้ นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่ถูกสั่งให้ถอดกางเกง รวมไปถึงผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ได้มาชี้ตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็จะสามารถที่จะสรุปสำนวนสั่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดได้ในภาพรวมทั้งหมด
** แฉใช้เสียงตามสายแก้ตัวทุกวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่หลายรายร้องเรียนผู้สื่อข่าวให้ไปตรวจสอบกรณี นพ.เปรมศักดิ์ ที่ใช้เครื่องกระจายเสียงของทางราชการจัดรายการออกเสียงตามสายเพื่อพูดถึงผลงานตัวเองในช่วงเช้าและช่วงเย็นทุกวัน แต่หลังจากเกิดกรณีปัญหากับผู้สื่อข่าวปมประเด็นภาพพิธีแต่งงานกับเด็กนักเรียนชั้น ม.5 นพ.เปรมศักดิ์ ได้ใช้หอกระจายเสียงดังกล่าวโจมตีผู้สื่อข่าว และแก้ต่างให้กับตัวเอง
นายวัลลพ วัฒนาคมประทีป อายุ 62 ปี ชาวชุมชนบ้านไผ่ แสดงความเห็นถึงการกระทำของ นพ.เปรมศักดิ์ว่า ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เป็นการนำเครื่องมือของทางราชการมาใช้ประโยชน์ในเรื่องส่วนตัว แทนที่จะใช้ประชาสัมพันธ์ผลงานของเทศบาลฯ แต่กลับนำเอามาใช้ดุด่าโจมตีผู้สื่อข่าวหลังเกิดเรื่องกันขึ้นในลักษณะแก้ต่างให้ตัวเอง ส่วนเรื่องที่ประชาชนอยากทราบคือ กรณีภาพที่มี นพ.เปรมศักดิ์นั่งผูกข้อมือกับเด็กนักเรียน ม.5 พร้อมพานใส่เงินกองใหญ่กลับไม่พูดถึงหรือชี้แจงใดๆ ขณะนี้ชาวบ้านเริ่มเบื่อหน่ายจนหลายคนพากันตั้งชื่อรายการให้ว่า รายการ "เบื่อทุกครั้ง เมื่อฟังหมอเปรม".
วานนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.20 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.ขอนแก่น นายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนคดี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ที่ก่อเหตุถอดกางเกงผู้สื่อข่าวและกักขังหน่วงเหนี่ยมผู้สื่อข่าวตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง ได้มีการเรียกสอบปากคำและให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังได้รับการประสานงานจาก นพ.เปรมศักดิ์ ว่าจะขอเข้าให้ปากคำในวันนี้ หลังจากเลื่อนนัดการให้ปากคำจากเดิมที่กำหนดในวันนี้ (5 ส.ค.) โดย นพ.เปรมศักดิ์ ได้เดินทางมาคนเดียว และได้เดินเข้าสู่ห้องประชุม ซึ่งมีคณะกรรมการสอบสวนนั่งรออยู่ทันที
** “หมอเปรม” ยืนกรานไม่ได้ทำผิด
โดย นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวกับคณะกรรมการฯช่วงหนึ่งว่า ตนไม่ได้ทำผิด ที่ผ่านมาการมาพบก็ไม่ได้มีพิธีรีตอง แต่เมื่อแหล่งข่าวไม่ต้องการให้ละลาบละล้วง และแจ้งว่าไม่สะดวกก็ควรเข้าใจ วันนั้นก็ไม่ได้บอกว่าจะให้ข่าว สื่อมวลชนกลับบุกรุกเข้ามา อีกทั้งไม่ควรล่วงละเมิดเรื่องส่วนตัวด้วย อย่างเวลาตนโพสต์เฟชบุ๊กว่าไปปฎิบัติงานตรงจุดไหน ก็ไม่เห็นมีใครติดตามทำข่าวบ้าง ทั้งนี้ขอให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯและตำรวจเท่านั้น ไม่ต้องการไปให้การข้างถนน จะไม่ไปโต้ตอบทางสังคม เพราะการตรวจสอบข้างถนนทำให้คนบริสุทธิ์เสียชื่อมาเยอะแล้ว แล้วมาขอโทษเพียงนิดเดียว หากไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำ จะยืนหยัดแบบนี้มาได้อย่างไร ชีวิตตนไม่มีหนีใครและไม่ทำเรื่องที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งไม่มีความจำเป็นต้องทำผิดกฎหมาย ตนเองทำงานเพื่อบ้านเมืองมาโดยตลอด
“ยืนยันว่าผมไม่ทำผิดกฎหมายแน่นอน สื่อจะกล่าวหาก็กล่าวหาไป ผมไม่มีปัญญาที่จะถอดกางเกงสื่อฯ เวลาของผมเอาไปทำประโยชน์เพื่อชุมชนได้เยอะมาก แต่สื่ออยากได้อะไรก็บุกเข้าไป อยากให้เคารพกันบ้าง บางทีคนอยากจะได้อะไรต้องได้ มันคืออะไร" นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
** รายงานผลสอบถึง มท.สัปดาห์หน้า
ด้าน นายสุรชัย วัฒนาอุดมชัย ปลัดจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การสอบปากคำวันนี้นอกจาก นพ.เปรมศักดิ์แล้วยังคงมีเจ้าหน้าที่เทศบาลที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 3 คน ส่วนในวันที่ 5 ส.ค.จะมีการเรียกสอบปากคำพยานเพิ่มเติมหลังมีการสอบสวนพบว่า มีรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่, เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์และเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่หน้าห้องนายก ทั้งหมดจะต้องมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่เช่นกัน ขณะที่การสอบปากคำผู้สื่อข่าวทั้ง 5 คนนั้นเสร็จสิ้นไปแล้วและมีการสรุปสำนวนไว้แล้ว ดังนั้น คงเหลือในส่วนของ นพ.เปรมศักดิ์เท่านั้น ทั้งนี้ มั่นใจว่าการสรุปสำนวนคดีความดังกล่าวจะเสร็จภายในวันที่ 10 ส.ค.และจะสรุปส่งเรื่องไปยังนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 11 ส.ค.เพื่อส่งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยต่อไป
"แนวทางการสอบสวนนั้นไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด คณะกรรมการสอบสวนและฝ่ายกฎหมายกระทำการอย่างรัดกุมและเป็นขั้นตอน ทุกท่านมีดุลยพินิจในการไต่สวนและสอบสวนอยู่แล้ว ดังนั้น หากผลการชี้มูลความผิดออกมาอย่างใดนั้นก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับว่าด้วย พ.ร.บ.เทศบาลฯ ซึ่งหากพบว่าพนักงานเทศบาลนั้นให้การเท็จก็จะถูกสอบสวนเอาผิดทางวินัยฐานให้ข้อมูลอันเป็นเท็จจริงกับผู้บังคับบัญชาอีกด้วย"
** ตร.เหลือสอบอีก 1 ปาก-เช็ควงจรปิด
ทางด้าน พ.ต.อ.วิทยา ทองเหลา รองผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.ภ.) จ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงขั้นตอนการสอบสวนเอาผิดทางกฎหมายตามที่ผู้สื่อข่าวได้แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับ นพ.เปรมศักดิ์ว่า ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานฝั่งผู้สื่อข่าวเสร็จสิ้น ขณะที่ฝั่งเทศบาลสอบปากคำไปแล้ว 7 คน คงเหลืออีก 1 คนเท่านั้นซึ่งอยู่ในห้องขณะเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้มาสอบปากคำอยู่ ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งได้มีการอายัดฮาร์ดดิสจากเทศบาลเมืองบ้านไผ่มานั้น อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบและกู้คืนจากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจที่ กทม. พร้อมกันนี้ก็ได้ประสานให้ นายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ที่ถูกสั่งให้ถอดกางเกง รวมไปถึงผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ได้มาชี้ตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็จะสามารถที่จะสรุปสำนวนสั่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดได้ในภาพรวมทั้งหมด
** แฉใช้เสียงตามสายแก้ตัวทุกวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองบ้านไผ่หลายรายร้องเรียนผู้สื่อข่าวให้ไปตรวจสอบกรณี นพ.เปรมศักดิ์ ที่ใช้เครื่องกระจายเสียงของทางราชการจัดรายการออกเสียงตามสายเพื่อพูดถึงผลงานตัวเองในช่วงเช้าและช่วงเย็นทุกวัน แต่หลังจากเกิดกรณีปัญหากับผู้สื่อข่าวปมประเด็นภาพพิธีแต่งงานกับเด็กนักเรียนชั้น ม.5 นพ.เปรมศักดิ์ ได้ใช้หอกระจายเสียงดังกล่าวโจมตีผู้สื่อข่าว และแก้ต่างให้กับตัวเอง
นายวัลลพ วัฒนาคมประทีป อายุ 62 ปี ชาวชุมชนบ้านไผ่ แสดงความเห็นถึงการกระทำของ นพ.เปรมศักดิ์ว่า ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เป็นการนำเครื่องมือของทางราชการมาใช้ประโยชน์ในเรื่องส่วนตัว แทนที่จะใช้ประชาสัมพันธ์ผลงานของเทศบาลฯ แต่กลับนำเอามาใช้ดุด่าโจมตีผู้สื่อข่าวหลังเกิดเรื่องกันขึ้นในลักษณะแก้ต่างให้ตัวเอง ส่วนเรื่องที่ประชาชนอยากทราบคือ กรณีภาพที่มี นพ.เปรมศักดิ์นั่งผูกข้อมือกับเด็กนักเรียน ม.5 พร้อมพานใส่เงินกองใหญ่กลับไม่พูดถึงหรือชี้แจงใดๆ ขณะนี้ชาวบ้านเริ่มเบื่อหน่ายจนหลายคนพากันตั้งชื่อรายการให้ว่า รายการ "เบื่อทุกครั้ง เมื่อฟังหมอเปรม".
